โตโยต้า เดินหน้าสร้าง “ เมืองสีเขียว ” อย่างต่อเนื่อง รวมพลังเครือข่ายเพื่อสิ่งแวดล้อม 5,500 คน ปลูกป่าชายเลน 55,000 ต้น ในโอกาสครบรอบ 55 ปี
โตโยต้า นำคณะอาสาสมัครอันประกอบด้วยตัวแทนจากบริษัทในเครือ กลุ่มพนักงานโตโยต้าและครอบครัว สมาชิกชมรม โตโยต้าจิตอาสา สมาชิกชมรม อีโตโยต้าคลับ ( e-TOYOTACLUB ) และประชาชนทั่วไป จำนวนกว่า 5,500 คน ร่วมกิจกรรม “โตโยต้าปลูกป่าชายเลนปีที่ 13” ทำการปลูกพันธุ์ไม้ชายเลนจำนวน 55,000 ต้น เมื่อวันเสาร์ที่ 17 มิถุนายน 2560 ที่ผ่านมา ณ ศูนย์ศึกษาธรรมชาติกองทัพบก (บางปู) จังหวัดสมุทรปราการ
“ โตโยต้า ปลูกป่าชายเลน ปีที่ 13 ”
นายนินนาท ไชยธีรภิญโญ ประธานคณะกรรมการ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด พลโท พิษณุ บุญรักษา เจ้ากรมพลาธิการทหารบก และ นางฉวีวรรณ หุตะเจริญ ประธานมูลนิธิสิ่งแวดล้อมศึกษาเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน (ประเทศไทย) หรือ FEED นำคณะอาสาสมัครอันประกอบด้วยตัวแทนจากบริษัทในเครือ กลุ่มพนักงานโตโยต้าและครอบครัว สมาชิกชมรม โตโยต้าจิตอาสา สมาชิก ชมรมอีโตโยต้าคลับ ( e-TOYOTACLUB ) และประชาชนทั่วไป จำนวนกว่า 5,500 คน ร่วมกิจกรรม “ โตโยต้า ปลูกป่าชายเลน ปีที่ 13 ” ทำการปลูกพันธุ์ไม้ชายเลนจำนวน 55,000 ต้น เมื่อวันเสาร์ที่ 17 มิถุนายน 2560 ที่ผ่านมา ณ ศูนย์ศึกษาธรรมชาติกองทัพบก (บางปู) จังหวัดสมุทรปราการ
จากพันธสัญญาที่เป็นความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อมของบริษัทโตโยต้าทั่วโลก ในการลดผลกระทบเชิงลบด้านสิ่งแวดล้อมให้เป็นศูนย์ และเพิ่มผลกระทบเชิงบวกเพื่อมุ่งไปสู่การพัฒนาสังคมอย่างยั่งยืน ภายในปี ค.ศ. 2050 ภายใต้ชื่อ พันธสัญญาด้านสิ่งแวดล้อมของโตโยต้า 2050 (Toyota Environmental Challenge 2050) บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด จึงได้มุ่งมั่นในการดำเนินกิจกรรมเพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อมที่สอดคล้องกับพันธสัญญาดังกล่าว ทั้งภายในและภายนอกองค์กรอย่างต่อเนื่อง ภายใต้โครงการ “โตโยต้าเมืองสีเขียว” โดยมีวัตถุประสงค์ในการสร้างสังคมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนครอบคลุมทั่วประเทศไทย
กิจกรรมโตโยต้าปลูกป่าชายเลน เป็นหนึ่งในกิจกรรมภายใต้โครงการ “ โตโยต้า เมืองสีเขียว ” ที่เกิดจากความร่วมมือระหว่าง บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด กรมพลาธิการทหารบก และ มูลนิธิสิ่งแวดล้อมศึกษาเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน (ประเทศไทย) หรือ FEED เพื่อเป็นการอนุรักษ์ป่าชายเลนให้มีความอุดมสมบูรณ์ มีสภาพเหมาะแก่การอยู่อาศัยให้แก่สัตว์ในระบบนิเวศชายเลน โดยจากความร่วมมือในการดำเนินกิจกรรมอย่างต่อเนื่องมาเป็นเวลา 13 ปี ตั้งแต่ปี พ.ศ.2548 ส่งผลให้มีการปลูกป่าชายเลนในพื้นที่ของศูนย์ศึกษาธรรมชาติกองทัพบก (บางปู) รวมทั้งสิ้นกว่า 542,800 ต้น ช่วยดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้กว่า 7,000 ตันต่อปี*
นอกเหนือจากการปลูกป่าชายเลนอย่างต่อเนื่องแล้ว โตโยต้ายังมุ่งมั่นที่จะสร้างจิตสำนึกให้คนไทยได้ตระหนักถึงคุณค่าของสิ่งแวดล้อม และความสำคัญของความหลากหลายทางชีวภาพ จึงได้ให้การสนับสนุนงบประมาณในการพัฒนา ดำเนินงาน และการให้บริการสิ่งแวดล้อมศึกษา แก่มูลนิธิสิ่งแวดล้อมศึกษาเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน (ประเทศไทย) หรือ FEED อย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2548 รวมทั้งสิ้นกว่า 50 ล้านบาท ซึ่งในปัจจุบันศูนย์ศึกษาธรรมชาติกองทัพบก (บางปู) เป็นแหล่งเรียนรู้ธรรมชาติป่าชายเลนที่สมบูรณ์ สำหรับโรงเรียนในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ กรุงเทพมหานคร และจังหวัดใกล้เคียง ในการลงทะเบียนเพื่อเข้าศึกษา โดยมีนักเรียนเข้าเยี่ยมชมศูนย์ศึกษาธรรมชาติฯ กว่า 15,000 คนต่อปี
โดยในปีนี้โตโยต้าได้ทำการเปิดสะพานศึกษาธรรมชาติแห่งใหม่ และนิทรรศการศูนย์ศึกษาธรรมชาติกองทัพบก (บางปู) เฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา มหาราชินี ในพื้นที่ด้านนอกศูนย์ศึกษาธรรมชาติฯ ที่บุคคลทั่วไปสามารถเข้าเยี่ยมชมได้โดยไม่ต้องลงทะเบียนและไม่มีค่าใช้จ่าย เพื่อขยายการรับรู้ถึงความสำคัญของป่าชายเลนต่อการลดการกัดเซาะแผ่นดิน และเพื่อเป็นแหล่งศึกษาความหลากหลายทางชีวภาพของระบบนิเวศป่าชายเลนแก่ผู้ที่สนใจ เนื่องจากบริษัทฯ เล็งเห็นถึงศักยภาพของสถานตากอากาศบางปู อันเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมอย่างมากในจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งมีผู้เข้าเยี่ยมชมโดยเฉลี่ยกว่า 42,000 คนต่อเดือน
นายนินนาท ไชยธีรภิญโญ ประธานคณะกรรมการ กล่าวว่า “ขอขอบคุณบรรดาจิตอาสาทุกท่านที่ให้ความสนใจร่วมเป็นส่วนหนึ่งในเครือข่ายเพื่อสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืนกับโตโยต้าเมืองสีเขียว ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งในความสำเร็จของโตโยต้า ที่ได้ร่วมกับ กรมพลาธิการทหารบก และ มูลนิธิสิ่งแวดล้อมศึกษาเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน (ประเทศไทย) หรือ FEED ในการต่อยอดการทำกิจกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อม พัฒนาศูนย์ศึกษาธรรมชาติกองทัพบก(บางปู) แห่งนี้ ให้เป็นแหล่งเรียนรู้ระบบนิเวศที่สมบูรณ์ อันจะเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างจิตสำนึกรักสิ่งแวดล้อมแก่ประชาชนชาวไทย ซึ่งสอดคล้องกับความมุ่งมั่นของโตโยต้าที่จะสร้างสังคมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และผลักดันประเทศไทยให้กลายเป็นเมืองสีเขียวอย่างแท้จริง”
* ค่าเฉลี่ยการดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ของพันธุ์ไม้ชายเลนยืนต้นโตเต็มที่ อยู่ที่ประมาณ 13 ตันต่อปี ต่อไร่ — อ้างอิงจาก ICLEI : International Council for Local Environment Initiatives – Local Governments for Sustainability (www.iclei.org) สภาสากลที่ว่าด้วยเรื่องของการพัฒนาเพื่อความยั่งยืน ประกอบด้วยสมาชิกที่เป็นหน่วยงานเพื่อสิ่งแวดล้อมมากกว่า 200 แห่ง จาก 43 ประเทศ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
โตโยต้า เมืองสีเขียว ร่วมใจปลูกป่านิเวศภูเขา ภายใต้ โครงการ รักษ์ป่าน่าน