5 จุดเด่น “พิชิตใจ” ที่ทำให้ Honda City 2017 เกลื่อนเมือง
Honda City คือ อีกหนึ่งโมเดลที่เดินหน้าทำตลาดมาอย่างต่อเนื่องโดยตลอดในทุกๆ เจนเนอเรชั่น เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งกำลังหลักในการสร้างยอดขายให้กับ ฮอนด้า ประเทศไทย อย่างเป็นจริงเป็นจัง ด้วยคุณสมบัติที่เข้าขั้น “พร้อม” ในการเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ หากต้องการซื้อรถซักคัน และนี่ก็คือ 5 ข้อสำคัญที่ “น่าจะ” เป็น เหตุผลหลักในการเลือกเป็นเจ้าของ Honda City 2017 เจนเนอเรชั่นที่ 4
Honda City 2017 ดีไซน์ใหม่ สปอร์ต “สวยขาด บาดใจ”
รูปลักษณ์ใหม่ของ Honda City 2017 เรียกได้ว่ามีการออกแบบโดยเน้นหลักอากาศพลศาสตร์มากขึ้น ดังจะเห็นได้จากมุมมองด้านข้างที่มีแนวเส้นหลังคาที่ลาดลง ผสมผสานด้วยความสปอร์ตจากงานดีไซน์ที่สร้างลักษณะที่กว้าง และแบน ซึ่งทำให้เกิดความสะดุดตามากขึ้น
“ตอบรับ” ทุกความสะดวกในการใช้งาน
จากการดีไซน์ภายนอก สู่ภายในใหม่บนพื้นฐานของรถซีดาน 4 ประตู ที่มีห้องโดยสารกว้างขึ้น โดยเฉพาะด้านหลังที่นั่งสบายมากขึ้น รวมถึงห้องเก็บสัมภาระด้านหลังที่มีขนาดใหญ่ถึง 536 ลิตร และเพิ่มพื้นที่ได้ด้วยการปรับ-พับเบาะนั่งแบบ 60:40 ในขณะที่อุปกรณ์มาตรฐานสำหรับการใช้งานต่างก็ “อัพเกรด” เต็มขั้น เพื่อมอบความสะดวกสบายในตำแหน่งห้องโดยสารด้านหน้าเช่นกัน
“คุ้ม” สุดๆ ด้วย 2 ทางเลือกแหล่งเชื้อเพลิง
ฮอนด้า ซิตี้ 2017 มีการปรับปรุงสมรรถนะใหม่ให้กับเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร ซึ่งมีกำลังสูงสุด 117 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 146 นิวตันเมตร ซึ่งโดดเด่นด้วยการรองรับเชื้อเพลิงได้ถึง E85 หรือถ้ายังคิดว่า “คุ้ม” ไม่พอ ก็สามารถขยับไปเลือกเป็นเจ้าของเวอร์ชั่น CNG ที่มีสมรรถนะไม่แพ้กันด้วยกำลังสูงสุด 120 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 145 นิวตันเมตร ได้เช่นกัน
ไปไหนก็ “อุ่นใจ” ในการดูแล
Honda City 2017 เรียกได้ว่าเป็นยนตรกรรมยอดนิยมจากแบรนด์ Honda เพราะฉะนั้นต่อให้เดินทางไปทั่วสารทิศก็สามารถอุ่นใจได้ ด้วยการดูแลที่พร้อมของศูนย์บริการทั่วประเทศกว่า 225 สาขา ณ ปัจจุบัน และจะยังมีการเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ เพื่อให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ และทำงานภายใต้มาตรฐาน Honda ทั่วโลก
“ราคา” น่าสนใจด้วย 6 รุ่นย่อยเบนซิน และ 3 รุ่นย่อย CNG มาตรฐาน
ฮอนด้า ซิตี้ 2017 ปล่อยของด้วย 6 รุ่นย่อยเครื่องยนต์เบนซิน พร้อมราคาเริ่มต้น 555,000 บาทกับเกีบร์ธรรมดา แต่ถ้าเกียร์อัตโนมัติเปิดที่ 589,000 บาท ปิดตลาดที่รุ่นท็อปสุด 749,000 บาท ในขณะที่รุ่น CNG มีให้เลือก 3 รุ่นย่อย เริ่มต้นที่ 612,000 บาท เกียร์ธรรมดา ส่วนเกียร์อัตโนมัติ มี 2 รุ่น คือ 651,000 บาท และ 711,000 บาท
ซึ่งเรียกว่าเป็นราคาทำตลาดที่ “โดนใจ” โดยเฉพาะกับใครที่ต้องการเริ่มต้นกับรถคันแรกแบบคันเดียวจบครบทุกความต้องการทั้งในเรื่องของขนาดตัวรถ, ออพชั่น และเครื่องยนต์ … ถ้าไม่เชื่อว่า “น่าสนใจ” ล่ะก็ “ลองเทียบค่าตัว” กับ Eco Car ในปัจจุบันดูสิ