เทคนิครถยนต์ : i-DTEC Diesel Turbo ขุมพลัง “ดีเซล เทอร์โบ” บล็อคแรกของ Honda ในตลาดเมืองไทย
Honda ส่ง “ของใหม่” สู่ตลาดเมืองไทยเป็นครั้งแรกในชื่อ i-DTEC Diesel Turbo บนพื้นฐานเครื่องยนต์พิกัด 1.6 ลิตร 4 สูบ ที่ได้รับการพัฒนาภายใต้เทคโนโลยี Earth Dreams ซึ่งนำเสนอผ่านรถอเนกประสงค์รุ่นล่าสุดกับ Honda CR-V ที่เราจะพาไปดูกันชัดๆ ว่า เครื่องยนต์ i-DTEC นี้มี “ของดี” อะไรบ้าง
เผยรายละเอียด i-DTEC Diesel Turbo “ความแรง เร้าใจ” รูปแบบใหม่
Honda CR-V ใหม่ ที่มากับขุมพลังดีเซล เทอร์โบ i-DTEC นั้น คือ “ของใหม่” ที่ผ่านการพัฒนามาอย่างฉลาดล้ำ เพื่ออัพเกรดสมรรถขึ้นอีกระดับ โดยมีหัวใจหลักสำคัญก็คือ “ระบบอัดอากาศ” หรือ “Turbocharger” แบบ 2 จังหวะ (2-stage Turbocharger) โดยไม่ใช่ระบบอัดอากาศที่มีการทำงานแบบ 2 จังหวะ หากแต่เป็นการติดตั้งเทอร์โบมาให้ถึง 2 ตัว
ซึ่งเทอร์โบทั้ง 2 ตัวจะถูกควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ประกอบด้วย High Pressure Turbo แบบ Variable Geometry Turbocharger หรือเทอร์โบแปรผัน สำหรับช่วงแรงดันสูง และ Low Pressure Turbo สำหรับช่วงแรงดันต่ำ โดยใช้ Waste gate Type Turbocharger ช่วยเสริมการทำงาน
หลักการทำงานก็คือ High Pressure Turbo แบบ Variable Geometry Turbocharger หรือเทอร์โบแปรผัน จะเป็นกลไกหลักในการทำงาน ในทุกๆ ย่านรอบเครื่องยนต์ ตามหลักการของเทอร์โบแปรผัน
จากนั้นในย่านความเร็วสูง จะส่งต่อไปยัง เทอร์โบลูกที่ 2 หรือ Low Pressure Turbo โดยมี Waste gate ทำหน้าที่ควบคุม ปริมาณไอเสีย สำหรับเทอร์โบลูกที่ 2 ให้เหมาะสม และจะคายทิ้งหากมีปริมาณมากเกินไป เพราะฉะนั้นนี่จึงเป็นเงื่อนไขที่มาของความแรงที่ตอบสนองได้ดีในทุกย่านความเร็วนั่นเอง
ส่วนประกอบสำคัญ ในการสร้างสมรรถนะ
นอกจากเครื่องยนต์ดีเซลประสิทธิภาพสูง และระบบอัดอากาศ “Turbocharger” แบบ 2 จังหวะ (2-stage Turbocharger) เครื่องยนต์ i-DTEC Diesel Turbo ยังมาพร้อมกับการพัฒนาในส่วนอื่นๆ ด้วยเช่นกัน คือ
การระบายความร้อนของไอดี ด้วย Intercooler
ในส่วนนี้ Intercooler ที่ถูกพัฒนาขึ้นใหม่ จะทำหน้าที่ระบายความร้อนขไอดี จากการทำงานของ Turbocharger ซึ่งมีองศาความร้อนสูงให้เย็นตัวลง ก่อนที่จะนำส่งเข้าห้องเผาไหม้ เพราะการทำให้มวลอากาศโดยรวมเล็กลงด้วยการลดความร้อน จะทำให้อากาศเข้าสู่ห้องเผาไหม้ได้ในปริมาณที่มากขึ้น และสร้างประสิทธิภาพการเผาไหม้ได้ดีที่สุด
ระบบการจ่ายน้ำมันแบบ Common Rail เป็นการพัฒนาขึ้นใหม่ โดยใช้เซ็นเซอร์ ทำหน้าที่ตรวจจับแรงดันน้ำมันเชื้อเพลิง และควบคุมแรงดันในรางให้เหมาะสม จากการคำนวณรอบเครื่อง, ปริมาณการฉีดน้ำมัน, อุณหภูมิ และปริมาณไอเสีย เพื่อให้การฉีดจ่ายน้ำมันจากหัวฉีดทุกตัวมีความเสถียร ทั้งยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงอีกด้วย
ระบบหัวฉีดจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงแบบ Multi Injection ซึ่งถูกกำหนดการทำงานให้แปรผันไปอย่างเหมาะสมกับรอบการทำงานของเครื่องยนต์ โดยจะคำนวณปริมาณ และจังหวะในการฉีดน้ำมันขณะขับขี่ เพื่อให้ใช้เชื้อเพลิงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนช่วยลดการสั่นสะเทือนจากการทำงานของเครื่องยนต์
นอกจากนี้ยังได้ติดตั้งระบบหยุดการทำงานของเครื่องยนต์ในรอบเดินเบา Idle Stop System ซึ่งจะลดการทำงานของเครื่องยนต์ที่ไม่จำเป็น ขณะรถจอดนิ่ง และจะสตาร์ทเครื่องยนต์อีกครั้ง เมื่อปล่อยเบรก หรือเหยียบคันเร่งในกรณีที่ระบบ Brake Hold ทำงาน
ทั้งยังมีระบบหมุนเวียนไอเสีย Exhaust Gas Recirculation System – EGR โดยใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์ควบคุม ในการนำไอเสียกลับมาใข้ในระบบเผาไหม้อีกครั้ง รวมถึงปรับอุณหภูมิไอดีให้เหมาะสมสำหรับการจุดระเบิด ซึ่งช่วยลดการปล่อยมลพิษออกจากตัวรถ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยมีตัวกรองอนุภาคไอเสียดีเซล Diesel Particulate Filter – DPF ทำหน้าที่ดักจับเขม่าน้ำมันที่ออกมากับไอเสีย เพิ่อควบคุมการปล่อยไอเสียให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากที่สุด
บทความแนะนำเกี่ยวกับ Honda
มาใหม่ สดๆ ซิงๆ รีวิว Honda Fit (Jazz) ยนตรกรรม Sub-Compact 2018 … พร้อม “ราคา” จากแดนมะกัน
5 จุดเด่น “พิชิตใจ” ที่ทำให้ Honda City 2017 เกลื่อนเมือง
ใหม่ Honda Accord 2017-2018 ยนตรกรรมระดับพรีเมียมอันหรูหราเหนือระดับ ในราคาที่น่าสัมผัส