รีวิว MINI TRACK DAY 2016 นำโดย MINI Clubman ให้ลูกค้าได้สัมผัสประสบการณ์การขับขี่ที่สนุกสนานและสมรรถนะในแบบฉบับ มินิ
มินิ ประเทศไทย จัดเต็มกิจกรรมพิเศษ MINI Track Day ขนรถยนต์มินิมาทั้งตระกูลที่มีจำหน่ายอยู่ในปีนี้ เช่น MINI Clubman , MINI JWC มาให้สื่อมวลชนและลูกค้าได้สัมผัสประสบการณ์การขับขี่ที่สนุกสนานและสมรรถนะในแบบฉบับ มินิ ที่สำคัญยังได้เรียนรู้ทักษะการขับขี่ในรูปแบบเซอร์กิตอย่างปลอดภัย โดยใช้สนามแข่งรถแก่งกระจานเซอร์กิต จ.เพชรบุรี ในการจัดกิจกรรมในครั้งนี้
เมื่อ iAMCAR เดินทางมาถึงสนามแก่งกระจานเซอร์กิตเราจะเห็นครอบครัว MINI ที่เรียงรายกันอยู่เกือบ 20 คัน รูปแบบกิจกรรม MINI Track Day ทางมินิ ประเทศไทย จัดให้ดูง่ายๆ เน้นการสัมผัสผลิตภัณฑ์เป็นหลัก ดังนั้นหลังจากฟังกฎกติกามารยาทให้กาาขับขี่เรียบร้อย เราก็พร้อมที่จะขับคันแรก MINI COOPER S Convertible “มินิ คูเปอร์ เอส คอนเวอร์ทิเบิล” ซึ่งเป็นรถเปิดประทุนสปอร์ต แผงหลังคารถหรือซอฟต์ท็อปผลิตจากวัสดุผ้าทอพิเศษ ด้วยวัสดุป้องกันเสียงหลายชั้น ช่วยลดเสียงรบกวนจากภายนอก มาพร้อมกับดีไซน์ลายธง UNION JACK ที่เป็นเอกลักษณ์ของมินิ ซึ่งสามารถเปิดและปิดอัตโนมัติด้วยระบบไฟฟ้าภายในเวลาเพียง 20 วินาที และในขณะที่รถวิ่งอยู่ด้วยความเร็วไม่เกิน 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ให้สมรรถนะการขับขี่แบบสปอร์ตด้วยเทคโนโลยีเครื่องยนต์ MINI TwinPower Turbo ให้ประสิทธิภาพการขับขี่สูงสุด 192 แรงม้า มีอัตราความเร็วสูงสุด 228 กม./ชม. และอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ภายใน 7.1 วินาที ความโดดเด่นในรุ่นนี้คงเป็นเรื่องของระบบการเปิดประทุน เซ็ทอัพของช่วงล่างจะนิ่มนวลเน้นขับสบายชิวๆ มากกว่า เครื่องยนต์สมรรถนะแรงพอสมควร
MINI COOPER S CLUBMAN HIGHTRIM
MINI COOPER S CLUBMAN HIGHTRIM ถือว่าเป็นคันที่ผมขับแล้วชอบที่สุด
“มินิ คูเปอร์ เอส คลับแมน ไฮทริม” คันนี้ถือว่าไซด์ใหญ่ที่สุดของมินิตอนนี้ ด้วยความยาวที่เพิ่มขึ้น 27 เซนติเมตร กว้างขึ้น 9 เซนติเมตร และฐานล้อที่ยาวขึ้น 10 เซนติเมตร เมื่อเทียบกับรถยนต์มินิ แฮทช์แบค 5 ประตู มินิ คลับแมน โฉมใหม่ พร้อมตอบรับทุกการใช้งานด้วยช่องเก็บสัมภาระที่มีความจุมากถึง 360 ลิตร และยังสามารถขยายขนาดเพิ่มขึ้นเป็น 1,250 ลิตร เมื่อทำการพับเบาะที่นั่งหลัง ซึ่งแยกกันที่ 60:40 ส่วนฝากระโปรงท้ายแบบบานพับสองข้างใช้วัสดุโลหะที่โดดเด่นสะดุดตา สมรรถนะการขับขี่แบบสปอร์ตด้วยเทคโนโลยีเครื่องยนต์ MINI TwinPower Turbo ให้ประสิทธิภาพการขับขี่สูงสุด 192 แรงม้า ปกติรถมินิจะมี Feeling คล้ายรถ Go Kart ที่ขับสนุก แต่คันนี้มีตัวรถที่ยาวทำให้อารมณ์การขับขี่แบบ Go Kart หายไปบ้าง แต่การเข้าโค้งในสนามทำได้เร็วและนิ่มนวลมากๆ ผมเลยมองว่าคันนี้ควรจะนำเอาไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ทุกๆ วัน เพราะมีความอเนกประสงค์สูง ความนิ่มในการเดินทางดี และการเกาะถนนไม่เป็นรองรุ่นอื่นเลย และสมรรถนะเครื่องยนต์ดี สาวกมินิที่ต้องการรถครอบครัวคันนี้น่าสนใจมากๆ
MINI JWC (John Cooper Work)
มาต่อที่ MINI JWC (John Cooper Work) “มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์กส์” คันนี้ต้องบอกเลยรถแข่งชัดๆ เพราะเครื่องยนต์ 4 สูบ ที่ติดตั้งแบบ Transverse พร้อมอัพเกรดระบบส่งกำลังให้ทำงานราบรื่นด้วยเทคโนโลยี MINI TwinPower Turbo มีกำลังสูงสุดถึง 170 กิโลวัตต์/231 แรงม้า ระบบช่วงล่างทำงานสอดประสานกับเครื่องยนต์อย่างสมบูรณ์แบบ ควบคู่ไปกับเบรกระดับสปอร์ตรุ่นใหม่จากเบรมโบ ระบบพวงมาลัยพาวเวอร์ เซอร์โวทรอนิก ที่ใช้ทั้งระบบไฟฟ้าและกลไกผสมผสานกัน และเทคโนโลยี Dynamic Stability Control ที่มีทั้งคุณสมบัติ Dynamic Traction Control (DTC) Electronic Differential Lock Control (EDLC) และ Dynamic Damper Control ติดตั้งมาในตัวเป็นมาตรฐาน Feeling คือไม่ต่างจากการขับรถแข่งมากนัก เครื่องยนต์แรงจัด เข้าโค้งคมกริบ เหมาะสำหรับคนรักความแรงแบบมากๆ เรียกว่า สาวกมินิตัวจริงต้องมีเก็บไว้ครับ
MINI COOPER SD ALL4 Park Lane
มาต่อที่ MINI COOPER SD ALL4 Park Lane “มินิ คูเปอร์ เอสดี ออลโฟร์ คันทรีแมน พาร์คเลน” เป็นรุ่นที่สามของมินิรุ่นไฮเอนด์สุดคลาสสิก ตัวรถยังเสริมความสปอร์ตด้วยล้อแม็กอัลลอยน้ำหนักเบาขนาด 18 นิ้ว สีเทา (Turbo Fan Dark Grey) พร้อมตกแต่งรอบตัวถังด้วยชิ้นส่วนกันชนและขอบประตูสีเงินในชุดแต่ง MINI ALL4 Exterior ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังดีเซล MINI TwinPower Turbo ขนาด 2.0 ลิตร ซึ่งผลิตจากอลูมิเนียมทั้งบล็อก มอบกำลังสูงสุด 143 แรงม้าที่ 4,000 รอบต่อนาที พร้อมแรงบิดสูงสุด 305 นิวตันเมตร สมรรถนะขับสนุกแต่อาจไปได้ไม่เร็วเท่าเพื่อนๆ ในรถรุ่นอื่นๆ คันนี้เหมาะกับการเดินทางมากกว่า หรืออาจจะไปลุยแบบ Off Road นิดๆ เพราะมีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่สำคัญประหยัดน้ำมัน 16.4 กม./ลิตร
MINI COOPER HATCH 3 DOOR
คันสุดท้ายเป็นรุ่นที่เรารู้จักกันดี MINI COOPER HATCH 3 DOOR “มินิ แฮทช์ 3 ประตู” คอมแพคต์ขนาดกะทัดรัดที่ยังคงเอกลักษณ์สุดคลาสสิกไว้อย่างครบครันและได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องภายหลังจากประสบความสำเร็จอย่างท่วมท้น มาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์เจเนอเรชั่นใหม่ 4 กระบอกสูบ สามารถเลือกเครื่องยนต์ได้ทั้งเบนซินและดีเซล นอกจากนี้แล้วเทคโนโลยี MINI TwinPower Turbo เป็นหัวใจสำคัญที่มอบความคล่องแคล่วปราดเปรียวลงตัวระหว่างประสบการณ์การขับขี่ที่สนุกสนานและประสิทธิภาพการประหยัดเชื้อเพลิง คันนี้ไม่ยากที่จะสัมผัสเพราะมีความดั้งเดิมของ MINI อยู่เยอะมากๆ Feeling Go Kart เต็มร้อย เครื่องยนต์เบนซิน 192 แรงม้า กับรถคันเล็กเท่านี้ เร้าใจสิครับ!! ช่วงล่างคมกริบเลี้ยวเท่าไหร่มาเท่านั้น อยากจะขับให้จิกโค้งขนาดไหนทำได้ดั่งใจสั่ง
ก่อนจะจากลา ต้องบอกว่า MINI เป็นรถที่มีเอกลักษณ์ในตัวเองสูงมาก เพราะไม่ว่าจะเป็นรูปลักษณ์ การตกแต่งที่สามารถมิกซ์แอนด์แมตซ์ สีกระจกข้าง หลังคา หรืออื่นๆ จนออกมาเป็นเครื่องบ่งบอกถึงตัวคุณได้แล้ว ยังมีเครื่องยนต์ และรุ่นต่างๆ ออกมารองรับการใช้งานทุกรูปแบบและทุกไลฟ์สไตล์ นั่นทำให้ MINI เป็นอีก 1 รถยนต์ระดับพรีเมี่ยมที่ครองใจคนทั่วโลก