รีวิว : Mitsubishi all new XPANDER ขับรถอเนกประสงค์รุ่นใหม่ รวมใจไปช่วยน้องที่ขาดแคลน
ทริปนี้กับการทดสอบ Mitsubishi all new XPANDER ได้สรรสร้างกิจกรรมในรูปแบบ CSR โดยขบวน XPANDER ยังคงมีอยู่ 6 คันเช่นเดิม แต่ได้เพิ่มอรรถรส ให้มีสตอรี่ในแบบช่วยเหลือน้องๆ ที่อยู่ห่างไกลจากการเข้าถึงในเรื่องการศึกษา โดยทริปนี้ได้นำอุปกรณ์กีฬา ของใช้ ของกินสำหรับอาหารกลางวัน และซ่อมแซมอาคารเรียน รวมถึงก่อสร้างโรงครัว เพื่อให้เด็กๆ ที่มีโอกาสไม่มากนัก จากโรงเรียนวัดบางเคียน จ.นครสวรรค์ ได้รับความสะดวก และโอกาสทางการศึกษามากขึ้น
ฝนพรำเบาๆ แต่เพื่อน้องๆ XPANDER ก็ไม่หวั่น
กำหนดการในทริปทดสอบครั้งนี้ เริ่มต้นที่ โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ วิภาวดี ด้วยเส้นทางเริ่มแรกเราขึ้นลอยฟ้าโทลเวย์ที่รถค่อนข้างโล่ง แม้ช่วงแรกต้องพยายามควบคุมความเร็วไม่ให้เกินกฏหมายกำหนด เพราะด่านตรงนี้ค่อนข้างเข้ม แต่พอพ้นไปแล้ว เราลองไต่ความเร็วขึ้นไป ตัวรถยังทรงตัวได้ดี ไม่ร่อน และไม่วอกแวก แม้ความสูงของใต้ท้องรถจะสูงถึง 205 มม.ก็ตามที อาการลมม้วนหมุนวนใต้ท้องบนความเร็วสูงๆ นี่ไม่รู้สึกกันเลย
จุดหมายแรกของเราอยู่ไม่ไกลจากจุดสตาร์ท แค่โชว์รูมมิตซูบิชิไทยธาดา จ.พระนครศรีอยุธยา แทบไม่น่าเชื่อว่า เมื่อขบวนของเราเลี้ยวเข้าโชว์รูม การต้อนรับจากผู้คนที่ดูเหมือนจะเป็นลูกค้ามิตซูบิชินั้น ล้นหลามเอามากๆ ต่างต้องการยลโฉมตัวเป็นๆ ของเจ้าเอ็กซ์แพนเดอร์ใหม่กันทั้งนั้น
จุดหมายต่อไปเราไปฝากท้องมื้อกลางวันกันที่ชัยนาท ด้วยเส้นทางที่ค่อนข้างตรง และเป็นถนนไฮเวย์อย่างสายเอเซีย ทางตรงแล้วตรงอีก แม้เราจะต้องระวังกล้องจับความเร็วที่มีค่อนข้างถี่ แต่ด้วยความที่ต้องการหาท้อปสปีดกับถนน 4 เลนทางตรงอย่างนี้ 160-170 กม./ชม.นี่ยังรู้สึกขับได้อย่างสบายๆ กับเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร 104 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที เพียงแต่ว่าการไต่ความเร็วจาก 170 กม./ชม.ขึ้นไปอีกนั้น ทางมันหมดเสียก่อนเนื่องจากบางช่วงมีทำถนน และติดรถช้าวิ่งขวา ถึงกระนั้นความเร็วระดับนี้กับสมาธิที่ไม่ต้องเพ่งมาก ช่วยสร้างความมั่นใจให้ผู้ขับมากทีเดียว
ที่ปัดน้ำฝนทำงานได้ในทุกสภาวะที่เราต้องการ อย่างบางช่วงฝนตกหนัก ก็แค่โยกก้านควบคุมลงมาให้สปีดการทำงานไวขึ้น และบางช่วงฝนค่อนข้างตกปรอยๆ เพียงโยกก้านใบปัดลงมา 1 เสต็ปแล้วไปจูนสปีดความเร็วของใบปัดตามความหนัก-เบาของน้ำฝนได้หลายสเต็ปทีเดียว
นั่งสบาย ปุ๊ปปั๊ป ถึงที่หมาย นครสวรรค์ แล้ว
เอาจริงๆ แล้วแม้นครสวรรค์จะไม่ไกลจาก กทม.มากนัก ยิ่งมากับ เอ็กซ์แพนเดอร์ ใหม่ วิ่งแป๊ปเดียวก็ถึงที่หมาย พวงมาลัยหุ้มหนังจับกระชับมือ ที่ชอบคือ สามารถปรับได้ 4 ทิศทาง ช่วยให้เข้าท่านั่งได้ง่าย เบาะนั่งแม้ไม่โอบกระชับแบบรถสปอร์ต แต่กลับนั่งสบาย ไม่เล็กไม่ใหญ่สำหรับคนสูง 170 หนัก 65 อย่างผู้ขับ
หันไปถามเพื่อนสมาชิกที่นั่งเบาะหลัง ก็บอกว่านั่งสบาย เพราะตัวเบาะสามารถเลื่อนเดินหน้า ถอยหลังได้ รวมถึงพนักพิงก็ปรับเอนได้ ทำให้นั่งสบาย ขาไม่ติดแม้คนนั่งหน้าจะถอยเบาะสุดก็ตาม รวมถึงยังมีระบบพัดลมกระจายความเย็นให้คนนั่งหลังไม่รู้ร้อน แม้จะอยู่ในห้องโดยสารที่กว้างขนาดนี้
เสียดายอยู่นิดเดียวที่สมาชิกในรถ 3 คนต้องแย่งกันชาร์จมือถือ เนื่องจากช่อง USB มีให้ใช้ช่องเดียวจากหน้าจอวิทยุ แม้มิตซูบิชิจะอำนวยความสะดวกอย่างเต็มที่ ด้วยช่อง power supply ถึง 3 จุด(หน้า-กลาง-หลัง) มาให้แล้วก็ตาม แค่ผู้ใช้ต้องไปซื้อหัวเสียบมาต่อเอง และอีกอย่างที่รู้สึกว่า เอ็กซ์แพนเดอร์ใส่ใจกับความเป็นรถครอบครัวอเนกประสงค์ขนาดเล็ก ก็คือ กล้องมองหลังเวลาถอย ที่ช่วยได้มากทีเดียวเวลาต้องถอยหลัง
หนทางไม่ง่าย ที่จะเข้าไปมอบโอกาสให้น้องๆ ที่โรงเรียน
เช้าของวันที่ 2 ซึ่งเราจะต้องไปทำกิจกรรม CSR กับน้องนักเรียนที่ โรงเรียนวัดบางเคียน แม้จะอยู่ห่างจากตัวเมืองนครสวรรค์เพียงแค่ 20 กว่ากม.เท่านั้น แต่ถนนหนทางในบางช่วงก่อนถึงโรงเรียน ค่อนข้างลำบากไม่น้อย ถึงจะต้องขับผ่านคันนา หลุมบ่อ ช่วงนี้เอง ตอนแรกก็ไม่มั่นใจเสียเท่าไหร่ ว่าเจ้าเอ็กซ์แพนเดอร์ ที่พื้นฐานมาจากเก๋งจะลุยในทางแบบนี้ได้ แต่ในเมื่อมิตซูบิชิเค้าวางเส้นทางให้ขับแบบนี้ ก็คงมั่นใจพอสมควรแล้วแหละ
กว่า 4 กม.บนคันนา และท้องทุ่ง เรารู้สึกว่า XPANDER รับแรงสั่นสะเทือนได้ดีกว่ารถเก๋งในขนาดเดียวกัน รวมถึงความรู้สึกที่ไม่ต้องคอย “หยอด” เวลาขับผ่านหลุม โคลน ทั้งที่ไม่ใช่รถขับสี่ แต่ทางแบบนี้ถ้าไม่ได้มาลองขับเอง จะไม่รู้เลยว่า มันช่างขับผ่านไปได้อย่างง่ายดายเสียนี่กระไร โดยที่ไม่ต้องใช้ความระมัดระวังเยอะแบบรถเก๋ง
สุดท้ายคงต้องบอกว่า เจ้า XPANDER เป็นรถที่ให้ความอเนกประสงค์มากจริงๆ การปรับเบาะ พับเอน หรือจะขนของทำได้หลากหลาย เครื่องยนต์ไม่มีอืด แม้ใครหลายคนจะปรามาสเกียร์ 4 สปีดกับน้ำหนัก 1,290 กก.ไว้ก็ตาม นั่นเป็นเพราะเค้ายังไม่เคยลองขับแน่ๆ ช่วงล่างนุ่มนวล ไม่ย้วยจนโยนตัวให้เสียว แต่กลับเฟิร์มจนน่าประหลาดใจว่าทำได้ดีอย่างนี้เลยเหรอ นี่ถ้าให้ดิสก์เบรกหลังติดมาด้วย จะหล่อยิ่งขึ้นกว่านี้…ทีเหลือคือ รอดูราคาขายจริง ถ้าไม่เกิน 8 แสนกลางๆ จัดว่าเป็นรถที่สวย และคุ้มค่าแก่การลงทุนทีเดียว
บทความที่เกี่ยวข้อง
- All New Xpander … The Last Chapter Over 3,000 Km. จาก “ระนอง ไป Finish สุราษฎร์ธานี”
- รีวิว : Mitsubishi All New Xpander ล่องลงใต้ จาก กรุงเทพฯ สู่ด้ามขวาน แดนใต้ กับเส้นทาง กรุงเทพฯ – สมุทรสาคร – สมุทรสงคราม – เพชรบุรี – ประจวบคีรีขันธ์ – ระนอง
- รีวิว : Mitsubishi all new XPANDER ขับรถอเนกประสงค์รุ่นใหม่ รวมใจไปช่วยน้องที่ขาดแคลน
- All New Xpander กว่า 400 กม. … ล่องอีสานใต้ สุดปลายทางที่ กทม.