ใหม่ Nissan Navara 2017-2018 ( นิสสัน นาวารา )เจนเนอเรชั่นล่าสุด ที่มาพร้อมการสร้างมาตรฐานใหม่ ราคา โดนใจ
Nissan Navara ( นิสสัน นาวารา ) คือ ความตื่นตาตื่นใจของการสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับรถกระบะ ด้วยโครงสร้างแชสซีส์เหล็กกล้า เครื่องยนต์ระดับโลก การขับเคลื่อน 4 ล้อ และเทคโนโลยีอันชาญฉลาด ที่สามารถพร้อมลุยไปทุกที่ ทุกเส้นทาง ซึ่งมีให้เลือกถึง 3 รูปแบบ คือ Double Cab, King Cab และ Single Cab ที่เปิดตัวพร้อม ราคา ที่โดนใจ
อัพเกรดดีไซน์สู่ความสปอร์ต
Nissan Navara ( นิสสัน นาวารา ) มากับตัวถังซึ่งมีให้เลือกถึง 3 รูปแบบ คือ Double Cab, King Cab และ Single Cab ที่มาพร้อมภายนอกดีไซน์แกร่ง บนพื้นฐานของหลักอากาศพลศาสตร์ โดยในรุ่น Double Cab และ King Cab นั้นมากับความครบครัน เช่น กระจังหน้าแบบโครเมียมใหม่ ดีไซน์ดุดัน พร้อมชุดไฟหน้าแบบ LED และไฟส่องสว่างตอนกลางวัน Daytime Running Light
ในขณะที่ด้านหลังนั้นเพิ่มอารมณ์สปอร์ตด้วยสปอย์เลอร์ด้านหลังแบบใหม่ โดยติดตั้งล้ออัลลอยด์ 18 นิ้วมาให้เป็นอุปกร์มาตรฐาน รับกับความแข็งแกร่งด้วยกาบบันไดข้างอย่างลงตัว ซึ่งในรุ่น Double Cab นั้นเพิ่มความอเนกประสงค์ และความสปอร์ตขึ้นอีกระดับด้วยราวแร็คหลังคา
ภายใน 2 สไตล์ ที่ผสานไว้ซึ่งความสปอร์ต และหรูหรา
Nissan Navara ( นิสสัน นาวารา ) รุ่น Double Cab และ รุ่น King Cab มากับงานดีไซน์สไตล์เดียวกัน ด้วยการเน้นวัสดุ และอุปกรณ์ที่เหนือระดับ เช่น การเน้นความสปอร์ตด้วยแผงควบคุมเครื่องเสียง และเครื่องปรับอากาศสีดำ พร้อมตกแต่งลาย Piano Black ส่วนแผงคอนโซลหน้าใหม่ได้รับการออกแบบให้ดูเรียบหรู พร้อมกับคำนึงถึงการใช้งาน และความสะดวกสบาย
โดยในรุ่น Double Cab แบบ 4 ประตูจะมากับความกว้างขวางของห้องโดยสารที่มากกว่ารุ่น King Cab ในขณะที่อุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ ยังคงถูกติดตั้งมาให้อย่างครบครัน เช่น เครื่องเสียง พร้อมวิทยุ FM/AM CD / MP3 พร้อมช่องต่ออุปกรณ์ USB / AUX และการเชื่อมต่อ Bluetooth
ตลอดจนระบบนำทาง Navigator ควบคุมผ่านจอแสดงผลขนาด 7 นิ้ว หรือจากระบบมัลติฟังค์ชั่นบนพวงมาลัย, ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ แยกซ้าย-ขวา, มาตรวัดแสดงข้อมูลการขับขีแบบ 3 มิติ, ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise control, ระบบ Push Start และกระจกมองหลังแบบปรับลดแสงสะท้อนแบบอัตโนมัติ พร้อมเข็มทิศ
เร้าใจทุกการขับเคลื่อน
Nissan Navara ( นิสสัน นาวารา )ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ดีเซลพิกัด 2.5 ลิตร คอมมอนเรล 4 สูบ แถวเรียง DOHC 16 วาล์ว พร้อมระบบอัดอากาศ VGS เทอร์โบแปรผัน และอินเตอร์คูลเลอร์ โดยมีกำลังสูงสุดที่ 190 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 403 นิวตันเมตร ส่วนระบบส่งกำลังมีให้เลือกทั้งเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด พร้อมโหมด Manual และเกียร์ธรรมดา 6 สปีด
ในขณะที่ระบบขับเคลื่อนก็มีให้เลือกทั้งแบบ 2 ล้อหลัง และแบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ Shift-On-The-Fly 4X4 ที่สามารถเปลี่ยนโหมดการขับเคลื่อนจาก 2 ล้อ เป็น 4 ล้อได้ดั่งใจในขณะรถวิ่งที่ความเร็วไม่เกิน 100 กม. / ชม. ทั้งยังเพิ่มความมั่นใจในการขับขี่มากขึ้นด้วยระบบช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระปีกนกคู่ พร้อมคอยล์สปริง และเหล็กกันโคลง กับด้านหลังแบบแหนบซ้อน พร้อมโช้คอัพ ที่ออกแบบให้ทนทานทุกการใช้งาน
อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัย
ในส่วนของระบบความปลอดภัยนั้นจัดมาให้เต็มพิกัด เช่น ถุงลมนิรภัยคู่หน้า พร้อมถุงลมนิรภัยบริเวณหัวเข่าด้านคนขับ, กระจกบังลมหน้าแบบอัดซ้อนนิรภัย (Laminated Glass), พวงมาลัยแบบยุบตัวได้ เมื่อเกิดการชนด้านหน้า และระบบตัดวาล์วน้ำมันเชื้อเพลิงอัตโนมัติ ในกรณีรถพลิกคว่ำ
พร้อมด้วยความมั่นใจในการขับขี่จากระบบเบรก ABS พร้อม EBD และ BA, ระบบ Limited Slip (ABLS), ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAS-Hill Start Assist และระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน HDC-Hill Descent Control, ระบบควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ VDC พร้อมระบบป้องกันล้อหมุนฟรีขณะออกตัว TCSซึ่งทั้งหมดได้ถูกติดตั้งอยู่ภายในโครงสร้างนิรภัย Zone Body ที่มาพร้อมคานกันกระแทกด้านข้าง รวมถึงความแข็งแกร่งจากโครงสร้างแชสซีส์เหล็กกล้าขนาดใหญ่แบบประกบยาวตลอดคัน
The Black Edition
นอกจากนี้มีเวอร์ชั่นพิเศษที่โดดเด่น 2 รุ่น ด้วยกัน คือ Black Edition สำหรับรุ่น Double Cab และ King Cab จะมากับความแกร่งของรูปลักษณ์ใหม่ที่ดุดันด้วยชุดแต่งพิเศษภายนอก เช่น กระจังหน้าสีดำ, ไฟหน้าแบบ LED สีดำ พร้อม ไฟตัดหมอกหน้ากรอบสีดำ ตามด้วยการตกแต่งฝากระโปรงหน้า และหลังคาด้วยสติ๊กเกอร์สีดำ พร้อมกับเสาอากาศ Shark Fin สีดำ
ส่วนด้านข้างมากับล้ออัลลอยด์สีดำขนาด 18 นิ้วที่รับกับซุ้มล้อสีดำขนาดใหญ่ และลวดลายสติ๊กเกอร์ดีไซน์พิเศษ, สติ๊กเกอร์ Black Edition ด้านข้างตัวรถ, มือจับประตูด้านนอกแบบ Grip Type และกระจกมองข้างสีดำ ปิดท้ายความเป็น Black Edition ด้วยการเปลี่ยนกันชนหลังเป็นสีดำเช่นกัน ตามด้วยการติดตั้งระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control ให้เป็นออพชั่นมาตรฐานทุกรุ่นของ Black Edition
Sportech Edition
อีกรุ่นคือ Sportech ที่จะมีเฉพาะรุ่น Double Cab ซึ่งจะโดดเด่นด้วย ชุดแต่งด้านหน้าสไตล์สปอร์ พร้อมกระจังหน้า และกรอบไฟตัดหมอกสี Smoke Chrome ตลอดจนสเกิร์ตด้านหน้าใหม่, บันไดข้างใหม่, ล้ออัลลอยด์ดีไซน์สปอร์ตขนาด 18 นิ้ว, เสาอากาศแบบ Shark fin
ในขณะที่ด้านหลังมากับ Sport Roll Bar พร้อมสัญษณ์ Sportech, กันชนหลังสี Smoke Chrome พร้อมสัญลักษณ์ Sportech รวมถึงไฟส่องสว่างกระบะท้ายเปิด-ปิดสด้วยสวิทช์จากภายในห้องโดยสาร และพื้นปูกระบะท้าย Bed Liner ในขณะที่ภายนอกของเวอร์ชั่น Sportech นั้นมากับความหรูสไตล์สปอร์ตด้วยเบาะหนังทูโทน พร้อมด้วยพวงมาลัย และหัวเกียร์หุ้มหนังคุณภาพพิเศษ ตกแต่งด้วยสีเงิน
The Single Cab
นอกจากงานดีไซน์ของรุ่น Double Cab และ Single Cab ที่เน้นการโดยสารแล้ว Nissan Navara ( นิสสัน นาวารา ) ยังมีรุ่น Single Cab สำหรับการบรรทุกหนักเป็นอีกหนึ่งตัวเลือก ที่ยังคงสืบทอดความโดดเด่นจากสายพันธ์ Navara ในเรื่องของงานดีไซน์ เช่น กระจังหน้ารถสีเงินที่กับไฟหน้าฮาโลเจนดีไซน์ใหม่ และเสริมสรรถนะการใช้งานด้วยล้อกระทะเหล็กขนาด 15 นิ้ว
ส่วนภายในห้องโดยสารนั้นมากับอุปกรณ์ที่จำเป็น เช่น กระจกไฟฟ้า, เครื่องเสียงพร้อมจอแสดงผลขนาด 5 นิ้ว รองรับวิทยุ FM/AM/CD/MP3/USB/AUX ตลอดจนระบบความปลอดภัยจากกล้องมองหลัง ตามด้วยระบบปรับอากาศ, มาตรวัดระยะทางแบบดิจิตอล และมาตรวัดแสดงข้อมูลการขับขี่ ทางด้านเครื่องยนต์นั้นมากับขุมพลังดีเซล 2.5 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว พ่วงเทอร์โบแปรผัน และอินเตอร์คูลเลอร์ ให้พลังแรงสุด163 แรงม้า โดยจะมากับเกียร์ธรรมดา 6 สปีดที่มีการอัตราทดเกียร์ชิดกว่าในเกียร์ต่ำ และกว้างกว่าในเกียร์ที่สูง เพื่อความประหยัดน้ำมัน
ราคารถยนต์ใหม่ Nissan Navara Double Cab
รุ่น E 6MT ราคา 736,000 บาท
รุ่น Calibre E 6MT ราคา 824,500 บาท
รุ่น Calibre EL 6MT ราคา 841,000 บาท
รุ่น Calibre EL 7AT ราคา 883,000 บาท
รุ่น Calibre V 7AT ราคา 914,000 บาท
รุ่น 4WD S 6MT ราคา 857,000 บาท
รุ่น Calibre VL 6MT ราคา 936,500 บาท
รุ่น 4WD VL 7AT ราคา 1,043,000 บาท
รุ่น Calibre EL 6MT Sportech ราคา 893,500 บาท
รุ่น Calibre V 7AT Sportech ราคา 996,500 บาท
รุ่น Calibre VL 6MT Sportech ราคา 976,500 บาท
รุ่น 4WD VL 7AT Sportech ราคา 1,085,000 บาท
รุ่น Calibre E 6MT Black Edition ราคา 859,500 บาท
รุ่น Calibre EL 7AT Black Edition ราคา 918,000 บาท
ราคารถยนต์ใหม่ Nissan Navara Single Cab
รุ่น S 6MT ราคา 612,000 บาท
รุ่น E 6MT ราคา 668,000 บาท
รุ่น V 6MT ราคา 694,000 บาท
รุ่น Calibre E 6MT ราคา 752,000 บาท
รุ่น Calibre EL 6MT ราคา 769,500 บาท
รุ่น 4WD V 6MT ราคา 880,000 บาท
รุ่น Calibre V 7AT ราคา 844,000 บาท
รุ่น Calibre V 7AT ราคา 844,000 บาท
รุ่น Calibre EL 6MT Sportech ราคา 827,500 บาท
รุ่น Calibre E 6MT Black Edition ราคา 786,000 บาท
ราคารถยนต์ใหม่ Nissan Navara Single Cab
รุ่น S 6MT ราคา 529,000 บาท
รุ่น SL 6MT ราคา 537,000 บาท
รุ่น SL 6MT เบาะแยก ราคา 537,000 บาท
บทความแนะนำเกี่ยวกับ Nissan
- Nissan Note กับ 5 จุดเด่น สร้างความ “ฟิน” ที่ยั่วให้อยากเป็นเจ้าของ
- NISSAN Livina ยนตรกรรมอเนกประสงค์ ที่พร้อมเติมความสุขทุกเส้นทาง
- Nissan Sylphy 1.6 DIG-Turbo ความเร้าใจในรูปแบบขุมพลังอัดอากาศ