Nissan Note กับ 5 จุดเด่น สร้างความ “ฟิน” ที่ยั่วให้อยากเป็นเจ้าของ
Note ยนตรกรรม Eco Car ใหม่ล่าสุดรุ่นที่ 3 จากค่าย Nissan ที่วางเป้าหมายในเรื่องของการตอบโจทย์ความสมบูรณ์แบบในทุกๆ ด้าน ซึ่งนั่นคือ “คอนเซ็ปต์” ที่น่าจะ “ปั้น” แนวโน้มดีๆ ให้เกิดขึ้นได้ แต่ทำไมนะ เราถึงเห็น Nissan Note บนท้องถนนน้อยจัง ทั้งที่มันก็มีจุดเด่น และนี่คือ 5 สิ่งที่ “น่าจะ” เรียกได้ว่าเป็น “ข้อดี” ที่เราค้นพบ
1. หน้าสวย หุ่นดี มีชัยไปกว่าครึ่ง
Nissan Note มากับฐานะของรถ Eco Car สไตล์ Compact Hatchback จากค่าย Nissan ที่เลิก “ตะมุตะมิ” ในงานดีไซน์ แต่หันมา “ยั่วให้น้ำลายไหล” ด้วยเส้นสายที่คมคาย และสปอร์ตมากขึ้น โดยเฉพาะในส่วนของรูปลักษณ์ภายนอกเมื่อเทียบกับพี่น้องร่วมค่าย หรือในตลาด Eco Car บ้านเรา
2. “อึ๋ม, อวบ, ใหญ่” เต็มไม้ เต็มมือ
เมื่อเป้าหมายหลัก คือ เรื่องตอบโจทย์การใช้งาน ฉะนั้นจึงไม่แปลกที่ตัวถังจะถูก “เบ่ง” ขึ้นไประดับ B-Segment ด้วยตัวเลขความยาวที่ 4,105 มม., กว้าง 1,695 มม., สูง 1,535 มม. พร้อมระยะฐานล้อยาว 2,600 มม. และระยะห่างล้อคู่หน้า 1,480 มม., คู่หลัง 1,485 มม. เพื่อให้มีห้องโดยสารที่กว้างใช้งานได้อย่างสะดวกสบาย รวมถึงการมีห้องเก็บสัมภาระขนาดใหญ่ ซึ่งเพิ่มพื้นที่ได้ด้วยเบาะนั่งในรุ่น VL แยกได้แบบ 60 : 40
3. Nissan Note ที่ “ท่วม” ด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำ
เทคโนโลยีใหม่ๆ ถูก “ยัด” เข้าไปเพียบ ทำให้เป็นรถ Eco Car ที่มากับออพชั่นระดับรถซีดาน เช่น ครั้งแรกกับ “ระบบ AVM (Intelligent Around View Monitor) กล้องอัจฉริยะมองภาพรอบทิศทาง” ทำหน้าที่ตรวจจับ และส่งสัญญาณเตือน โดยใช้ กล้องรอบคัน MOD-Moving Object Detection, ระบบ FCW (Intelligent Forward Collision Warning) ระบบช่วยเตือนก่อนการชนด้านหน้าอัจฉริยะ, ระบบ Intelligent Emergency Braking ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัจฉริยะ, ระบบ Lane Departure Warning
4. “ฟิน” กับอารณ์การขับขี่ที่ “สนุก” ขึ้น
แม้พื้นฐานเครื่องยนต์จะยังเป็นบล็อคเดียวกับ Eco Car ร่วมค่าย ในรหัส HR12DE พิกัด 1.2 ลิตร แบบเบนซิน 3 สูบ 12 วาล์ว พร้อมระบบ CVTC ที่มีกำลังสูงสุด 79 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 106 นิวตันเมตร ที่ 4,400 รอบต่อนาที แต่การปรุงแต่งใหม่ในส่วนของช่วงล่าง, พวงมาลัย ก็ทำให้มี “รสชาติความสนุก” ที่เพิ่มขึ้นในการขับขี่
5. “ดูแลง่าย” ด้วยมาตรฐานสไตล์รุ่นพี่
ใช่ครับ Nissan Note คือ Eco Car โมเดลใหม่ล่าสุดในตลาด แต่นั้นไม่ได้หมายความว่าจะ “ใหม่” หมดทั้งดุ้น เพราะพื้นฐานของเครื่องยนต์, ระบบส่งกำลัง และช่วงล่าง ยังเป็นพื้นฐานเดียวกับ 2 รุ่นพี่ทั้ง March และ Almera ฉะนั้นเมื่อรถมีปัญหาๆ จึงไม่เป็นเรื่องยากที่จะได้รับการดูแล ซึ่งน่าจะรวดเร็วทันใจ ไม่ต้องรออะไหล่นานนั่นเอง
