ใหม่ Nissan Sylphy 1.6 DIG Turbo ( นิสสัน ซิลฟี่ 1.6 ดีไอจี เทอร์โบ ) ความเร้าใจในรูปแบบขุมพลังอัดอากาศ ใน ราคา เพียง 9 แสนกว่าบาท

โพสต์เมื่อ 24th มิถุนายน 2017 หมวดหมู่: รถใหม่ในประเทศ โดย iAMCAR Team

Nissan Sylphy 1.6 DIG Turbo ( นิสสัน ซิลฟี่ 1.6 ดีไอจี เทอร์โบ ) ยนตรกรรมที่มากับความเพียบพร้อมในการตอบสนอง เพื่อผู้บริโภคที่ต้องการรถยนต์สำหรับใช้งานได้อย่างหลากหลาย ทั้งในเรื่องของความสะดวกสบายด้วยฟังค์ชั่นที่ครอบคลุมทุกการใช้งาน ตลอดจนสมรรถนะการขับขี่ ใน ราคา เพียง 9 แสนกว่าบาท

อัพเกรดความหล่อเหลา สไตล์ Turbo

Nissan Sylphy 1.6 DIG Turbo ( นิสสัน ซิลฟี่ 1.6 ดีไอจี เทอร์โบ ) มากับการปรับเปลี่ยนอุปกรณ์ทั้งภายนอก และภายใน เพื่อยกระดับความหรูหรา และความสปอร์ เช่น ภายนอกที่มากับชุดกันชนหน้าใหม่สไตล์สปอร์ต และกระจังหน้าแบบรมดำ พร้อมชุดไฟหน้าแบบ Projector Xenon และไฟหรี่ LED โดยจะมากับระบบทำความสะอาดไฟหน้า Headlight Washer

ส่วนด้านข้างนั้น Nissan Sylphy 1.6 DIG Turbo ( นิสสัน ซิลฟี่ 1.6 ดีไอจี เทอร์โบ ) ได้เพิ่มความสะดุดตาด้วยกระจกมองข้างลายคาร์บอน เคฟล่าห์ ที่มาพร้อมไฟเลี้ยวแบบ LED ตามด้วยการติดตั้ง Side Molding ที่สเกิร์ตข้าง ปิดท้ายด้วยความสปอร์ตที่อัพเกรดสมรรถนะมากขึ้นด้วยล้ออัลลอย์ขนาด 17 นิ้วในขณะที่ด้านหลังนั้นมากับความสปอร์ตจากชุดกันชนหลังดีไซน์ใหม่ พร้อมด้วยการบ่งบอกที่มาแห่งสมรรถนะเร้าใจด้วยสัญลักษณ์ DIG Turbo บริเวณท้ายรถ

ทางด้านภายในห้องโดยสารการตกแต่งด้วยโทนสีดำ ตกแต่งด้วยสีเงิน เพื่อเน้นความสปอร์ต เสริมด้วยรายละเอียด เช่น ชุดแป้นคันเร่ง, แป้นเบรกแบบสปอร์ต การปูพรมพื้นลายใหม่ และติดตั้งหลังคา Sun Roof ควบคุมด้วยไฟฟ้า มาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน รวมถึงแรอะพเกรดความสะดวกสบายเพิ่มเติมจากังค์ชั่นมาตรฐาน เช่น ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control และระบบการเชื่อมต่อกับแอพพลิเคชั่นอัจฉิรยะ Nissan Connect

ขับสนุกทุกสัมผัสกับขุมพลัง 1.6 Turbo

Nissan Sylphy 1.6 DIG Turbo ( นิสสัน ซิลฟี่ 1.6 ดีไอจี เทอร์โบ ) มากับขุมพลังพิกัด 1.6 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว พร้อมการติดตั้งระบบฉีดจ่ายเชื้อเพลิงแบบ Direct Injection, ระบบวาล์วแปรผันคู่ Twin C-VTC (Twin Continuously Variable-valve Timing Control System) และเทอร์โบชาร์จเจอร์ สร้างพละกำลังสูงสุด 190 แรงม้าที่ 5,600 รอบต่อนาที พร้อมแรงบิดแบบ Flat Torque 240 นิวตันเมตร ตั้งแต่ 2,400 – 5,200 รอบต่อนาที ซึ่งให้สมรรถนะเร้าใจเทียบเท่าเครื่องยนต์ 2.5 ลิตร

ทั้งยังมาพร้อมความโดดเด่นในเรื่องของการประหยัดน้ำมัน ด้วยเทคโนโลยีการเคลือบผิวนาโน (Nano-Finish Coat) เพื่อช่วยลดแรงเสียดทาน, การใช้วาล์วไอเสียหล่อโซเดียม (Sodium Filled Valve) ที่ช่วยให้การระบายความร้อนทำได้ดีขึ้น รวมถึงการออกแบบลูกสูบให้มีช่องหล่อเย็นพิเศษ (Piston with Cooling Channel) สำหรับช่วยลดอุณหภูมิของลูกสูบ ลดการน็อคของเครื่องยนต์

รวมถึงการเลือกใช้ระบบส่งกำลัง Xtronic CVT ที่มากับระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ด้วยตัวเอง (Manual Mode แบบ 6 สปีด) ที่ช่วยเติมเต็มความสมบูรร์แบบในการขับขี่ ที่สามรถทำได้ทั้งความประหยัด และการเค้นสมรรถนะแบบสปอร์ต ระบบช่วงล่างได้รับการปรับแต่งใหม่ เพื่อให้รองรับกับสมรรถนะที่เพิ่มขึ้น ในเรื่องการยึดเกาะถนน และการสร้างตัว

พร้อมด้วยการเพิ่มตัวช่วยสำคัญต่างๆ เช่น ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวขณะเข้าโค้ง VDC (Vehicle Dynamic Control), ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TCS (Traction Control System) ซึ่งจะทำงานควบคู่ไปกับระบบพื้นฐาน เช่น ระบบเบรกป้องกันล้อล้อค ABS, ระบบการจายแรงเบรก EBD และ ระบบเสริมแรงเบรก BA

ทั้งยังรวมถึงการเพิ่มอุปกรณ์ด้านความปลอดภัยอื่นๆ ตามแนวคิดยานยนต์ปกป้องชีวิต Nissan Safety Shield Philosophy เช่น ถุงลมนิรภัย 6 จุด โดยเพิ่มเติม ถุงลมนิรภัยด้านข้าง (Side Airbags) และม่านนิรภัยด้านข้าง (Curtain Airbags), ระบบล็อคประตูอัตโนมัติ ตลอดจนเซ็นเซอร์ถอยจอด และกล้องมองหลัง