รีวิว : Honda Civic Hatchback ใหม่ แบบโหดๆเดี่ยวๆ ที่หล่อ แรง เกินห้ามใจกับขุมพลัง 1.5 ลิตร VTEC Turbo ในทุกรูปแบบการใช้งาน
จากที่ทาง iAMCAR ได้เคยทดสอบเจ้า All-New Honda Civic Hatchback ในแบบกลุ่มกันไปแล้วเมื่อปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา ที่นี้ก็มาถึงคราวทดสอบกันแบบเดี่ยวๆในสไตล์ของผม (โจอี้ ไข่เจียวรสซิ่ง) กันบ้างที่อาจจะไม่ค่อยมีสาระในเรื่องของเทคนิคมากมายนัก (อย่างรู้ก็เปิดเน็ตหาเอาก็ได้มีเยอะแยะ) เรียกได้ว่าทดสอบแบบ “ตีนโหด” กันอย่างเดียวเลยว่ากันอย่างนั้นเถอะ โดย All-New Honda Civic Hatchback นี่มาในรูปแบบของความสปอร์ตมากยิ่งขึ้นกว่าแบบซีดาน ที่ยังคงมาพร้อมกับฟังก์ชั่นความอเนกประสงค์ และสมรรถนะการขับขี่ที่สนุกเร้าใจ กับ ราคารถยนต์ใหม่ 1.169 ล้านบาท เเละถ้าอยากรู้ว่า ตีนโหดเป็นอย่างไรจะเล่าให้ใน Comment By โจอี้ ไข่เจียวรสซิ่ง ตอนท้าย
โดดเด่นสะดุดตาด้วย ท้ายตัดในแบบ Hatchback 5 ประตู
สำหรับเจ้า “ซิวิค แฮทช์แบ็ก” (ขอเรียกสั้นๆแบบนี้ละกัน) ที่เห็นเด่นๆก็คือจะมาด้วยรูปลักษณ์ที่โฉบเฉี่ยวแฝงหรูหรา ที่มาจากเส้นสายด้านข้างตัวรถที่คมชัด เน้นความเป็นสปอร์ตและดุดันยิ่งขึ้นด้วยกระจังหน้า-หลังดีไซน์รังผึ้ง ไฟหน้าสไตล์สปอร์ตพร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED ที่สว่างดีจริงๆ และไฟท้ายรูปทรงตัว C แบบ LED และโดดเด่นยิ่งขึ้นด้วยรูปลักษณ์ด้านท้ายในสไตล์ “แฮทช์แบ็ก 5 ประตู” ที่ส่วนตัวชอบอยู่ไม่น้อย แต่แอบมีติดใจตรงลายล้อนิดหน่อยขอเป็น …อุ๊บส์ !!! … ไว้คนเดียวก็แล้วกัน ซึ่งทางฮอนด้าเค้าว่าเป็นล้อลายใหม่ในขนาด 17 นิ้ว พร้อมยางเกรดโอเคอย่าง Advan dB ขนาด 215/50/R17
สำหรับในส่วนของภายในก็มไม่แตกต่างกับตัวซีดาน จะมีก็ตรงลายคาร์บอนเข้ามาเสริมอารมณ์ขึ้นเล็กน้อย ส่วนออฟชั่นก็ยังครบตามราคาเช่นเดิมไม่ว่าจะเป็น ระบบกุญแจ Keyless ที่มาพร้อมปุ่ม Engine Remote Start ช่วยติดเครื่องพร้อมทำงานเครื่องปรับอากาศตั้งแต่ภายนอกรถ / เบานั่งปรับไฟฟ้าคู่หน้า / แอร์ออโต้แยกโซน / หน้าจอ Touch Screen 7” พร้อมรองรับ Apple Car Play ส่งกำลังเสียงผ่านลำโพง 8 ตัว / พวงมาลัย พร้อมสวิทช์ Multifunction, Cruise Control, Paddle Shift และอีกจุดสำคัญคือพื้นที่สัมภาระด้านท้ายขนาดใหญ่ 414 ลิตร
เครื่องยนต์เหมือนเดิม เพิ่มเติมคงไม่มี
ขุมพลังขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ DOHC 1.5 ลิตร VTEC Turbo แบบ Direct Injection ให้พลังอาชามา ที่ 173 แรงอาชา ที่ 5,500 รอบต่อนาที กับแรงถีบ 220 นิวตัน – เมตร ที่รอบ 1,700 – 5,500 รอบ ที่น่าจะปรับจูนความหน่วงของคันเร่งให้หายไปบ้าง (อย่างน้อยๆต้องมี 2-3 วินาที เลยกว่าจะมีพลังออกมา) ซึ่งไหนๆก็มาเป็นรุ่น แฮทช์แบ็ก ที่เน้นความเป็นสปอร์ตก็น่าจะเอาออกไปเถอะ
การควบคุมดี แต่ช่วงล่าง”ดีด” ไวไปนิด
ซิวิค แฮทช์แบ็ก ใช้พวงมาลัยแบบ Dual Pinion ผ่อนแรงไฟฟ้า EPS ทำมาได้ฉับไวนิ่งมือ จะเลาะซ้าย มุดขวา โยน 4 เลน ก็สั่งได้ค่อนข้างดี ส่วนช่วงล่าง ที่ด้านหน้าแบบแม็กเฟอร์สัน สตรัท และด้านหลังแบบ Multilink E type เชื่อมกับ ซับเฟรมหลัง ที่รุ่น แฮทช์แบ็ก จะมี Stabilizer Bush และ สปริงหลังที่มีความแข็งกว่า นี่น่าจะเป็นเหตุผลที่ทำให้มีการดีดของช่วงล่างที่ไวไปซักหน่อย ว่ากันแบบเข้าใจง่ายคือ ตัวช็อคอัพจับสปริงไม่อยู่ทำให้จังหวะดีดกลับหลังจากช็อคอัพยุบดีดขึ้นไว ส่งผลให้ควบคุมยากในจังหวะถนนบั้ม หรือ โดดสะพาน คือน่าจะเพิ่มความหนืดของตัวช็อคอัพควบคู่กันไปด้วย ระบบเบรกผมขอบอกแบบสั้นๆละกันว่า “เอาอยู่” สำหรับเจ้า ซิวิค แฮทช์แบ็ก
Comment By โจอี้ ไข่เจียวรสซิ่ง
ทางด้านของรูปทรงโดยรวมถือว่าผ่าน ซึ่งทางฮอนด้า ออกแบบมาได้เด่น สมยุคสมสมัยไม่เบา ส่วนเรื่องสมรรถนะในการขับขี่เอาเป็นแบบรวมๆ ก็ดีในระดับรถตลาดในกลุ่ม C-Segment ที่จะไปคาดหวังให้ สปอร์ตแบบ “ติดตรีน” ก็คงจะยาก เครื่องยนต์สมตัว ช่วงล่างหลังจากที่ได้ลอง ทั้งเหาะ ทั้ง เหิน ในแทบทุกสภาพ ก็พอที่จะเอาอยู่ ซึ่งถ้าไม่ขับแบบผมก็เหลือเฟือที่จะเอาไปใช้งาน แต่ถ้าจะเอาไปแต่งมันก็จะเป็นอีกเรื่องนึง
มาพูดถึงบททดสอบเเบบ “ตีนโหด” กันบ้าง
ทันทีที่ปรับท่านั่งให้เข้าที่เข้าทางก็ถึงเวลาเเห่งการกระทืบคันเร่ง จะหวังเอาอัตราการสิ้นเปลืองหรือความประหยัดกับผมคงจะไม่มีให้ได้เห็น ความปราดเปรียวของการเเหวกอากาศของถนนเส้นหนึ่งไม่ขอเอ่ยละกันเดี๋ยวเจอโจทย์ ตัวรถสามารถพุ่งทะยาน กันเเบบท็อปสปีดได้ถึง 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (ตามเลขที่หน้าปัดนะ) ซึ่งผมก็ขอพอเท่านี้ละกัน มันดีดเหลือเกิน เสียววุ้ยยย!!! การเหาะเหินโดดคอสะพานเเบบที่เรียกว่าไม่มีเบรก ผมว่าช่วง bump หรือ จังหว่ะยุบ ดีนะ ส่วนตอน rebound หรือจังหว่ะยืดมันไม่รู็จะรีบดีดคืนไปไหนสงสัยสปริงหลังที่ทางฮอนด้าบอกว่าเเข็งกว่าตัวซีดานนั่นเเหละ พอ!!จบเดี๋ยวจะยาว การตอบสนองของคันเร่งในยามที่ต้องการเรียกพลังเอาเเบบผมที่จุ่มมิดทันทีที่ต้องการมีเเอบหายไปประมาณว่านับ “หนึ่งพันหนึ่ง หนึ่งพันสอง หนึ่งสาม เอ้าบูสมา..!!! ดึงรถไปได้เลยยยยย วู้ วู้ ” ทำให้ บางช่วง บางจังหว่ะมุด เสียไป การเข้าโค้งในเเบบรุนเเรงมีอาการหน้าไถลตามสไตล์ของรถขับหน้าเเต่ถ้าอาศัยการเลี้ยวเเบบมี Racing Line นิดก็พอจะคุมได้ไม่ยาก สรุป เอาเป็นว่าใครที่ชอบรถเเนว แฮทช์แบ็ก ที่มีชื่อว่า Civic เเล้วหล่ะก็ผมว่าไม่น่าจะผิดหวังนะ น่าจะตอบโจทย์ความเฟี้ยวฟ้าวได้ดี เเต่อย่าไป หยิ่งผยอง พองขน ว่า “ข้านี่รถเทอร์โบนะโว้ย” ก็จะโดนสวนเอาได้ง่ายๆนะจ๊ะ
ราคารถยนต์ใหม่
HONDA Civic Hatchback 1,169,000 บาท
หากสนใจเจ้า ซิวิค แฮทช์แบ็ก น่าตาดีดี แบบนี้ก็เชิญได้ที่โชว์รูมฮอนด้าทุกแห่งได้เลย