Grand Opening New HONDA Accord 2013
ฮอนด้าเปิดตัวแอคคอร์ด ใหม่ เจนเนอเรชั่น 9 ที่สุดแห่งความปรารถนาของยนตรกรรมระดับพรีเมี่ยม
ฮอนด้า แอคคอร์ด สานตำนาน 37 ปี สู่ยนตรกรรมเหนือระดับ ด้วยดีไซน์หรูหรา สง่างาม พร้อมความสะดวกสบายในการขับขี่ชั้นยอด เปิดตัวเครื่องยนต์อัจฉริยะ “เอิร์ธ ดรีม” รุ่นแรกในไทย ครบครันด้วยนวัตกรรมเทคโนโลยีล้ำหน้าสมรรถนะสมบูรณ์แบบ ประหยัดน้ำมัน และรองรับ E85 มั่นใจรอบด้านด้วยระบบความปลอดภัยล้ำสมัย
บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศเปิดตัว ฮอนด้า แอคคอร์ด ใหม่ ยนตรกรรมสุดหรูเจนเนอเรชั่นที่ 9 ที่มีการออกแบบใหม่ทั้งคัน ด้วยดีไซน์หรูหรา สง่างามเหนือระดับ เพื่อสะท้อนรสนิยมและเติมเต็มความต้องการยนตรกรรมระดับหรูของลูกค้าภายใต้ การออกแบบอย่างพิถีพิถัน เพื่อการขับขี่ที่นุ่มนวล ครบครันด้วยฟังก์ชั่นการใช้งานระดับพรีเมี่ยม นวัตกรรมเทคโนโลยีอัจฉริยะให้สมรรถนะการขับขี่ที่ดีเยี่ยม ความปลอดภัยสูงสุด และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มีจำหน่าย 5 รุ่น ราคาเริ่มต้น 1,299,000 บาท พร้อมแล้วที่โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ ตั้งเป้ายอดขายที่ 20,000 คันภายในหนึ่งปี
นายพิทักษ์ พฤทธิสาริกร รองประธานอาวุโส บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ”นับตั้งแต่ฮอนด้า แอคคอร์ด เจนเนอเรชั่นที่หนึ่งได้เปิดตัวสู่ตลาดเป็นครั้งแรกในปี 2519 และสามารถครองใจ ผู้ขับขี่จากทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง จวบจนปัจจุบัน มียอดขายสะสมถึงสิ้นปี 2555 รวมทั้งสิ้นมากกว่า 19 ล้านคัน ใน 160 ประเทศทั่วโลก สำหรับประเทศไทย มียอดขายสะสมตั้งแต่ปี 2527 จนถึงปลายปี 2555 รวมเป็นจำนวนทั้งสิ้น 138,229 คัน”
“ตลอดระยะเวลา 37 ปี ฮอนด้า แอคคอร์ด ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับนำเสนอนวัตกรรมแห่งโลก ยานยนต์อันล้ำสมัยในแต่ละช่วงเวลา จึงทำให้ฮอนด้า แอคคอร์ด เป็นสุดยอดยนตรกรรมที่สะท้อนเอกลักษณ์ อันโดดเด่น และส่งมอบความสุขในการขับขี่ให้กับลูกค้าทั่วโลกในทุกยุคทุกสมัย สำหรับฮอนด้า แอคคอร์ด ใหม่นี้เป็นเจนเนอเรชั่นที่ 9 ที่มีดีไซน์สะท้อนถึงความหรูหรา สง่างามเหนือระดับ และสะดวกสบายมากที่สุดที่เคยมีมา ทั้งยังครบครันด้วยเทคโนโลยีการขับขี่อัจฉริยะ และความคุ้มค่าสูงสุด”
การเปิดตัว ฮอนด้า แอคคอร์ด ใหม่นี้ นับเป็นการพลิกโฉมการออกแบบยนตรกรรมระดับพรีเมี่ยมเหนือระดับของฮอนด้าอีกครั้ง ด้วยองค์ประกอบแห่งความเหนือชั้น ได้แก่
ดีไซน์หรูหรา สง่างามเหนือระดับ ผสานอารมณ์สปอร์ตอย่างลงตัว นอกจากประสิทธิภาพอันโดดเด่นทางด้านหลักอากาศพลศาสตร์แล้ว ฮอนด้า แอคคอร์ด ใหม่ยังมาพร้อมกับรูปลักษณ์ที่ทันสมัย เฉียบคม ทุกตารางนิ้ว การออกแบบรูปลักษณ์ภายนอกของแอคคอร์ดใหม่ได้รับการพัฒนาให้โดดเด่นด้วยกระจังหน้า ที่ล้ำสมัย เคร่งขรึมด้วยเสากลางรถสีดำหรูแบบเปียโนแบล็ค และไฟท้ายแอลอีดี
ความสะดวกสบายเหนือจินตนาการ ด้วยการออกแบบภายในห้องโดยสาร ที่เน้นการเพิ่มความสบายสูงสุดให้แก่ผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ด้วยห้องโดยสารที่กว้างขึ้นกว่าเดิม และที่นั่งโดยสารทั้งตอนหน้าและตอนหลัง มีพนักพิงที่กว้างขวางสะดวกสบาย ครบครันด้วยฟังก์ชั่นการใช้งานระดับพรีเมี่ยม เช่น เบาะนั่งด้านคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทางพร้อมระบบบันทึกตำแหน่งเบาะนั่งของผู้ขับขี่ (Memory Seat) และเบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง ระบบควบคุมเสียงรบกวนเข้าห้องโดยสาร (Active Noise Control) และระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ Dual zone ปรับอุณหภูมิแยกอิสระซ้าย/ขวาเพื่อสุนทรียภาพในการขับขี่ อีกทั้งยังมีระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC (Adaptive Cruise Control) พร้อมระบบสตาร์ทเครื่องยนต์แบบอัจฉริยะ (One Push Ignition System) ที่ใช้งานง่ายสะดวก และรวดเร็ว
ฮอนด้า แอคคอร์ด ใหม่ยังมาพร้อมกับหน้าจอแสดงข้อมูลแบบอัจฉริยะ i-MID หน้าจอแสดงข้อมูลขนาด 8 นิ้ว ระบบนำทางเนวิเกเตอร์ โดดเด่นด้วยระบบสั่งการแบบ Smart Interface ที่ผู้ขับขี่สามารถควบคุมการทำงานของระบบเครื่องเสียง ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบไร้สาย Bluetooth และข้อมูลรถยนต์ผ่านหน้าจอควบคุมอัจฉริยะระบบสัมผัส (On-demand Touch Panel)
ขุมพลังเหนือชั้น ด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 16 วาล์ว i-VTEC ขนาด 2.4 ลิตร DOHC ใช้เทคโนโลยีเอิร์ธ ดรีม(Earth Dreams) เป็นรุ่นแรกของฮอนด้าในประเทศไทย ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดที่ฮอนด้าพัฒนาขึ้น เพื่อเพิ่มสมรรถนะในการขับขี่และเพิ่มประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันสูงสุด ด้วยการพัฒนาองค์ประกอบการสันดาปภายในและการใช้น้ำมันอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น สมรรถนะเครื่องยนต์ให้แรงบิดสูงสุดที่ 225 นิวตัน-เมตร (23.0 กก.-ม.) ที่ 4,000 รอบต่อนาที กำลังสูงสุด 174 แรงม้า ที่ 6,200 รอบต่อนาที และเครื่องยนต์ 4 สูบ 16 วาล์ว i-VTEC ขนาด 2.0 ลิตร SOHC สมรรถนะเครื่องยนต์ให้แรงบิดสูงสุดที่ 190 นิวตัน-เมตร (19.4 กก.-ม.) ที่ 4,300 รอบต่อนาที กำลังสูงสุด 155 แรงม้า ที่ 6,500 รอบต่อนาที ทั้งนี้ เครื่องยนต์ทั้งสองขนาดยังรองรับการใช้น้ำมัน E85 พร้อมเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด
เทคโนโลยีความปลอดภัยเหนือชั้น ฮอนด้า แอคคอร์ด ใหม่ยังมีเทคโนโลยีความปลอดภัยใหม่ล่าสุดครอบคลุมรอบคันรถ เปิดมุมมอง 360 องศาให้แก่ผู้ขับขี่ อาทิ ระบบ CMBS ซึ่งเป็นระบบเตือนการชนด้านหน้าด้วยเรดาห์พร้อมระบบช่วยเบรก เพื่อช่วยเตือนผู้ขับขี่ให้ลดความเร็ว หรือเบรกเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการชนหรือลด ความรุนแรงจากการชน เทคโนโลยี Honda LaneWatch ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน ช่วยลดจุดบอดและเพิ่มทัศนวิสัยด้านข้างขณะเปลี่ยนเลน ระบบไฟส่องสว่างด้านข้างอัตโนมัติ Active Cornering Light เพิ่มความสว่างขณะเลี้ยวรถในเวลากลางคืน กล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมอง 3 ระดับ ช่วยเติมเต็มทัศนวิสัยด้านหลัง พร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบแอลอีดี Daytime Running Lights ถุงลมคู่หน้าอัจฉริยะ Dual i-SRS ถุงลมด้านข้างคู่หน้าอัจฉริยะ i-Side Airbag ม่านถุงลมด้านข้าง Side Curtain Airbags ระบบช่วยควบคุมการทรงตัว VSA ระบบช่วยควบคุมการบังคับพวงมาลัย MA-EPS ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน HSA ระบบป้องกันล้อล็อก ABS และระบบกระจายแรงเบรก EBD ระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer สัญญาณฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน ESS และกระจกหน้าต่างคู่หน้าลดการเกาะตัวของหยดน้ำ Water Dispersing รวมทั้งกระจกมองข้างลดการเกาะตัวของหยดน้ำเพื่อเพิ่มทัศนวิสัยในการขับขี่ (อุปกรณ์มาตรฐานแตกต่างกันในแต่ละรุ่น)
เพื่อตอกย้ำว่า ฮอนด้า แอคคอร์ด ใหม่ เป็นที่สุดแห่งยนตรกรรม และเป็นที่สุดแห่งความปรารถนาของผู้ขับขี่ อย่างแท้จริง ฮอนด้าได้วางแนวทางการสื่อสารการตลาดภายใต้แนวคิด All My Desire โดยได้สร้างสรรค์ภาพยนตร์โฆษณาเพื่อสะท้อนแนวคิดดังกล่าว ผ่านบทเพลง “เสน่หา” ซึ่งได้ประพันธ์เนื้อร้องภาษาอังกฤษ และมีการเรียบเรียงดนตรีขึ้นมาใหม่ มีกำหนดออกอากาศตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
ฮอนด้า แอคคอร์ด ใหม่ มีจำหน่ายทั้งหมด 5 รุ่น ขนาดเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร ได้แก่ รุ่น 2.0EL และ 2.0EL (Navi) และขนาดเครื่องยนต์ 2.4 ลิตร ได้แก่ 2.4EL, 2.4EL (Navi) และ 2.4 TECH ในราคาตั้งแต่ 1,299,000 บาท ถึง 1,799,000 บาท มีให้เลือก 5 สี คือ สีขาวออร์คิด (ขาวมุก-เพิ่ม 12,000 บาท) สีเงินอลาบาสเตอร์ (เมทัลลิก) สีดำคริสตัล (มุก-เพิ่ม 8,000 บาท) และมี 2 สีใหม่ คือ สีเทาโมเดิร์นสตีล (เมทัลลิก) และสีทองแชมเปญฟรอสต์ (มุก-เพิ่ม 8,000 บาท)
“เรามั่นใจว่า ฮอนด้า แอคคอร์ด ใหม่ จะมาสร้างตำนานบทใหม่ของตลาดรถยนต์ระดับพรีเมี่ยมที่ให้ความหรูหรา สง่างาม และความสะดวกสบายเต็มพิกัด พร้อมด้วยนวัตกรรมเทคโลยีอัจฉริยะอันล้ำสมัยให้ความคุ้มค่าสูงสุด และจะได้รับการต้อนรับอย่างดีจากลูกค้าชาวไทยเช่นเดียวกับทุกๆ เจนเนอเรชั่นที่ผ่านมา โดยเราตั้งเป้า
ยอดจำหน่ายไว้ที่ 20,000 คันภายในหนึ่งปี” นายพิทักษ์ กล่าวปิดท้าย