การดูแลสุขภาพ : สูตรเด็ด! เคล็ดไม่ลับ กับ 10 วิธีปราบ กลิ่นเท้าเหม็น
ว่าด้วยเรื่องของ กลิ่นเท้าเหม็น หลายคนที่กำลังประสบปัญหาเรื่องนี้คงจะทราบดีกว่ามันช่างสร้างความอับอายขายหน้ากับเรามากมาย ทำให้ไม่กล้าที่จะถอดรองเท้ากันเลยทีเดียว เพราะว่าถ้าถอดรองเท้าเมื่อไหร่ รับรองว่า “วงแตก” ทุกที
สาเหตุของการเกิดกลิ่นเท้าเหม็นนั้น สามารถแบ่งออกเป็น 2 สาเหตุ คือ
เท้าของเรา
ถุงเท้าและรองเท้า
ดังนั้น วิธีแก้ปัญหา เราจึงแยกวิธีแก้กลิ่นเท้าเหม็นออกเป็น 2 ส่วน ดังนี้ค่ะ
แก้กลิ่นเท้าเหม็นต้องเริ่มที่เท้าของเราก่อน
1.นำเท้าไปแช่ในน้ำยาบ้วนปาก
วิธีคือ ผสมน้ำยาบ้วนปาก ประมาณ 2-3 ฝา กับน้ำเปล่า ในกะละมังขนาดที่สามารถรองรับเท้าทั้งสองข้างของเราได้ ผสมจนเข้ากันแล้วก็เอาเท้าของเราลงไปแช่ได้เลย แช่ไปเรื่อยๆ ซัก 30- 60 นาที สารฆ่าเชื่อแบคทีเรียที่อยู่ในน้ำยาบ้วนปาก จะจัดการกับแบคทีเรียที่เท้าของเราได้
2.ถุงชาเก่าช่วยได้ (ถุงชาเมื่อชงดื่มแล้ว อย่าทิ้ง!)
วิธีคือ นำกะละมังขนาดพอดีกับการแช่เท้าสองข้าง เติมน้ำอุ่น และนำถุงชาที่ใช้แล้วประมาณ 5 ถุง ใส่ลงไป จากนั้นก็แช่เท้าไว้สัก 10 นาที ทำแบบนี้ประมาณ 2 ครั้งต่อสัปดาห์ กลิ่นเท้าของคุณจะหายไป เพราะความเป็นกรดด่างของชา จะช่วยกำจัดและยับยั้งแบคทีเรียค่ะ
3. เกลือกับมะนาวแก้เท้าเหม็น
วิธีคือ ต้มน้ำให้เดือดแล้วเอาเกลือใส่ลงไป รอจนเกลือละลายแล้วเทใส่กะละมัง เติมน้ำเย็นลงไปให้ได้อุณหภูมิที่เหมาะสม บีบน้ำมะนาวใส่ลงไป และส่วนของเปลือกก็ใส่ลงไปด้วยก็ได้ จากนั้นก็แช่เท้า เพื่อผลลัพธ์ที่ดีให้นำแปรงมาขัดเท้าระหว่างแช่ ขัดทุกซอกเล็บให้สะอาด ให้ทำแบบนี้สัปดาห์ละ 3 วัน กลิ่นเท้าของคุณจะค่อยๆ หายไป
4.ใช้สารส้มมาขัดและแช่เท้าในสารส้ม
วิธีคือ ใช้สารส้มผงมาละลายในน้ำอุ่น แล้วเอาเท้าลงไปแช่ ทำแบบนี้สัปดาห์ละ 3 ครั้งจะช่วยให้กลิ่นเท้าหายได้ หรือจะเอาสารส้มแบบเป็นก้อนมาขัดเท้าของเราตอนที่เราอาบน้ำทุกวัน เพียงเท่านี้ปัญหากลิ่นเท้าของคุณจะหายไป
5. ขัดเท้าด้วยผงฟู (เบคกิ้งโซดา)
วิธีคือ ให้นำเอาผงฟูละลายกับน้ำเปล่าปริมาณเข้มข้นแล้วนำมาชโลมให้ทั่วเท้าของเรา จากนั้นหาแปรงเล็กๆ หรือแปรงสีฟันเก่าๆ ขัดทุกซอกทุกมุม ทั้งเท้าทั้งเล็บของเราจนทั่ว ทิ้งไว้ 3-5 นาทีแล้วล้างออก ซึ่งผงฟูจะช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้เป็นอย่างดี
6.ใช้น้ำยาฆ่าเชื้อเดทตอล
วิธีคือ ให้เอาเดทตอลเทผสมกับน้ำเปล่าในกะละมัง ใช้เดทตอลประมาณ 2-3 ฝา แช่เท้าประมาณ 15-20 นาที ถ้าจะให้ดีก็หาแปรงมาขัดทำความสะอาดเท้าเราด้วย ให้ทำแบบนี้ทุกวันก่อนนอน รับรองว่าปัญหาเรื่องกลิ่นเท้าของคุณจะหมดไป
7. รักษาเท้าให้แห้ง และใช้แป้งโรย
วิธีคือ ให้ดูแลรักษาเท้าไม่ให้เปียกหรืออับ ถ้าเท้าเปียกให้รีบหาอะไรมาเช็ดให้สะอาด และให้คุณหาแป้งโยคี มาโรยบริเวณซอกเท้าของเรา โดยแป้งนี้ให้เราโรยก่อนใส่ถุงเท้าด้วยทุกวัน จะช่วยขจัดกลิ่นเท้าและฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ เมื่อใช้อย่างต่อเนื่องไปซักระยะหนึ่งปัญหาเรื่องของกลิ่นเท้าจะหมดไป
8.ลดกลิ่นเท้าด้วยใบสะระแหน่
วิธีคือ นำใบสาระแหน่ ประมาณ 2-3 กำ ต้มในน้ำ 7 ถ้วย เมื่อน้ำเดือดแล้วให้เทลงในกะละมัง รอจนน้ำหายร้อน แล้วก็เอาเท้าลงไปแช่ซัก 30 – 60 นาที ระหว่างนั้นก็ขัดถูทุกซอกของเท้า กลิ่นเท้าของคุณจะหายไปและลดอาการส้นเท้าแตกที่กวนใจคุณอยู่อีกด้วย
9.สเปรย์ระงับกลิ่นเท้า
วิธีคือ ใช้สเปรย์ระงับกลิ่นเท้าโดยพ่นสเปรย์ให้ทั่วเท้าก่อนใส่ถุงเท้า จะช่วยระงับกลิ่นเท้าของคุณได้
10. ด่างทับทิมก็ช่วยได้
วิธีคือ นำด่างทับทิมมาผสมกับน้ำอุ่น แล้วเอาเท้าลงไปแช่ จากนั้นหาแปรงเล็กๆ หรือ แปรงสีฟันเก่าๆ ขัดทุกซอกทุกมุม ทั้งเท้าทั้งเล็บของเราจนทั่ว เท่านี้ก็จะช่วยขจัดและยับยั้งแบคทีเรียได้
จากนั้นก็ต้องไปจัดการกับถุงเท้า และรองเท้า
1. ถุงเท้าและรองเท้าต้องซักให้สะอาด
วิธีคือ ก่อนจะซักถุงเท้าให้นำเอาไปแช่ในน้ำยาฆ่าเชื้อที่หาซื้อได้ตามร้านค้าทั่วไป แช่ทิ้งไว้ประมาณ 15 – 20 นาที หลังจากนั้นซักด้วยผงซักฟอก ส่วนน้ำสุดท้ายอาจจะแช่น้ำยาปรับผ้านุ่มที่มีกลิ่นหอมก่อนก็ได้ นำไปตากในที่ที่มีแดดจัด เพื่อให้ถุงเท้า และรองเท้า ได้แห้งอย่างสนิท
2. พื้นรองเท้าควรจะเปลี่ยนบ่อยๆ
วิธีคือ สำหรับรองเท้าผ้าใบ และรองเท้าหนัง จะมีพื้นรองเท้าอยู่ด้านใน ซึ่งเมื่อเราสวมใส่รองเท้าอยู่เป็นประจำ แบคทีเรียมักจะไปสะสมอยู่ที่พื้นรองเท้าเป็นจำนวนมาก ให้เราหาซื้อพื้นรองเท้ามาไว้เปลี่ยนหรือสำรองเอาไว้ ซึ่งเราสามารถหาซื้อได้ตามร้านรองเท้า หรือห้างสรรพสินค้าทั่วไป
3. เลือกรองเท้าให้เหมาะสม
วิธีคือ สำหรับคนที่มีเหงื่อออกเท้าเยอะ พยายามหลีกเลี่ยงการสวมรองเท้าหนังเทียมหรือหนังผสม เพราะเมื่อเหงื่อเท้าออกมาแล้ว จะทำให้เกิดกลิ่นขึ้นมาอย่างรุนแรง สามารถแก้ปัญหาด้วยการสวมรองเท้าหนังแท้ หรือรองเท้าพลาสติกแทน
4. หลีกเลี่ยงการสวมรองเท้าคู่เดิมๆ
วิธีคือ กาสวมรองเท้าคู่เดิมทุกวันทุกเวลา จะทำให้แบคทีเรียเจริญเติบโตได้เป็นอย่างดี ควรมีรองเท้าไว้สำรองผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันใส่คู่ละ 2 วัน คู่ที่ใส่แล้วก็พยายามเอาตากแดดหรือที่โล่ง
5. อย่าสวมรองเท้าผ้าใบที่ยังมีความชื้น
รองเท้าผ้าใบ และรองเท้าหนังหุ้มส้นนั้น ถ้ายังเปียกชื้นอยู่อย่าสวมใส่เด็ดขาด เพราะมันคือแหล่งของแบคทีเรียดีๆ นี่เอง
บทความแนะนำ
การดูแลสุขภาพ: เตรียมตัว เตรียมใจ เตรียมร่าง เมื่อมือใหม่อยากลองนวด
การดูแลสุขภาพ: เลือกผลไม้สดเพื่อทำเครื่องดื่มให้ได้ประโยชน์อย่างเต็มคุณค่า