PTT ENGINE TUNE UP 2012
ปตท. ชวนลดโลกร้อน ตรวจสภาพรถยนต์ฟรี
ตรวจเช็คเครื่องยนต์ฟรี ที่ปั๊ม ปตท. 55 แห่งทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 26 พ.ย. – 5 ธันวาคม ศกนี้ 27 รายการ และให้บริการตรวจเช็คเครื่องยนต์ฟรี 15 รายการต่อเนื่องอีกจนถึงสิ้นปี 2555 ที่ ProCheck 97 แห่งทั่วประเทศที่เข้าร่วมโครงการ ตั้งเป้ารถยนต์เข้ารับบริการ 120,000 คัน ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้กว่า 23 ล้านตันต่อปี ตรวจสอบรายละเอียดได้ที่ www.pttplc.com
บ่ายวันนี้ (26 พ.ย. 55) ณ สถานีบริการน้ำมัน ปตท. สาขาเกษตร-นวมินทร์ ดร.คุรุจิต นาครทรรพ รองปลัดกระทรวงพลังงาน เป็นประธานในพิธีเปิดตัวโครงการตรวจเช็คเครื่องยนต์เพื่อประหยัดพลังงาน “PTT ENGINE TUNE UP 2012“ พร้อมด้วย ดร. ไพรินทร์ ชูโชติถาวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และ นายพันธุ์ศักดิ์ โรจนากาศ ที่ปรึกษาสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา เพื่อช่วยรณรงค์สร้างจิตสำนึกในการประหยัดพลังงานและช่วยลดผลกระทบจากภาวะโลกร้อน
ดร. ไพรินทร์ ชูโชติถาวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปตท. ได้ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) จัดโครงการ “PTT Engine Tune Up” อย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2547 ด้วยเจตนารมณ์ที่จะช่วยส่งเสริมให้เกิดการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงอย่างมีประสิทธิภาพและช่วยลดมลภาวะทางอากาศ ซึ่งนับว่าเป็นการสนับสนุนให้เยาวชนได้ทำกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม รวมทั้งยังช่วยเพิ่มพูนประสบการณ์นอกเหนือจากการศึกษาในตำราเรียน และใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ สำหรับปีนี้ให้บริการตรวจเช็คสภาพเครื่องยนต์ ระบบเครื่องยนต์ ระบบไฟสัญญาณ ระบบห้ามล้อ และระบบส่งกำลังฟรีรวม 27 รายการ และให้คำแนะนำอื่นๆ ในการซ่อมบำรุงรถยนต์ ที่สถานีบริการ ปตท.จำนวน 55 แห่งทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 26 พฤศจิกายน – 5 ธันวาคม ศกนี้ หลังจากนั้นจะขยายเวลาการให้บริการตรวจเช็คเครื่องยนต์ฟรี 15 รายการ ต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2555 ที่ศูนย์บริการ ProCheck จำนวน 97 แห่งทั่วประเทศ รวมทั้งยังมีการจำหน่ายผลิตภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่น ปตท. ในราคาพิเศษ ตลอดระยะเวลาโครงการด้วย ผู้สนใจสามารถตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่โทรศัพท์ 1365 และ www.pttplc.com
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาโครงการ PTT Engine Tune Up ได้รับความสนใจจากประชาชนเป็นอย่างดี มีผู้สนใจมารับบริการตรวจเช็คเครื่องยนต์เพิ่มขึ้นทุกปี โดยเมื่อปี 2554 ที่ผ่านมา มีผู้นำรถยนต์มารับบริการทั้งสิ้นกว่า 84,000 คัน ช่วยลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ไม่น้อยกว่า 13,000 ตัน สำหรับปีนี้ ได้ตั้งเป้าว่าจะมีผู้นำรถมารับบริการทั้งสิ้นไม่น้อยกว่า 120,000 คัน ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ปีละกว่า 23,000 ตัน หรือ 23 ล้านกิโลกรัม