คำนวณระยะเบรคอย่างปลอดภัย
เรื่องของระยะการเบรกที่จริงแล้วสำคัญมากๆ ฉะนั้นเราควรที่จะทราบกันเอาไว้บ้าง ว่า การเบรกในระยะไหนจะปลอดภัยที่สุด และในความเร็วขณะเดินทาง เราควรทิ้งระยะห่างจากคันหน้ามากน้อยขนาดไหน เพราะโดยปกติแล้วเรามักจะคำนวนระยะเบรกจากความรู้สึกและความสามารถในการขับขี่ล้วนๆ ซึ่งมันแค่ปลอดภัยในความรู้สึก แต่ถ้ามีรถตัดหน้ากระทันหันเราจะเบรกทันหรือไม่ ต้องลุ้นกันจนตัวโก่ง
ปกติแล้วขบวนการในการเบรกจะเกิดขึ้นจาก 2 ขบวนการ คือ จากตัวผู้ขับขี่ที่เรียกว่า “ระยะคิด” (Thinking Distance) ระยะนี้เป็นระยะที่สายตาของผู้ขับขี่จะสามารถมองเห็นว่ามีเหตุการณ์อันตรายเกิด ขึ้นข้างหน้า สายตาที่เห็นจะส่งข้อมูลไปยังสมองและสมองจะสั่งให้เท้าเหยียบเบรก แต่ในขบวนการนี้ รถก็ยังจะแล่นไปไกลอีกหลายเมตร ซึ่งระยะจะมากน้อยแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับผู้ขับขี่ว่าร่างกายมีการตอบสนองที่เร็วแค่ไหน บางคนช้า บางคนเร็ว นอกจากนี้ยังมีเรื่องของสมาธิในการขับมาเกี่ยวข้องด้วย เนื่องจากบางคนไม่มีสมาธิ ทำ หลายสิ่งหลายอย่างไปพร้อมๆกันในขณะขับขี่ ทำให้สมองต้องแยกแยะไปควบคุมร่างกายหลายส่วน ประสิทธิภาพในการเบรกจึงน้อยลงตามไปด้วย หรืออายุที่มากขึ้น สายตาที่เสื่อมสภาพ สภาพร่างกายที่ไม่พร้อม แม้แต่ปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกายก็มีผลของการสั่งงานจากสมองด้วยกันทั้งสิ้น
ขบวนการที่ 2 เป็นด้านวิศวกรรม เรียกว่า “ระยะเบรก” (Braking Distance) ระยะนี้คือ เมื่อเท้าแตะที่แป้นเบรกไปแล้ว ซึ่งรถก็ยังไม่หยุดทันที เพราะรถยังจะเลี้ยงระยะทางไปเรื่อยๆ ขึ้นอยู่กับว่าขณะนั้นใช้ความเร็วเท่าใด โดยคำนวนง่ายๆ ได้แบบนี้ครับ ถ้าเราใช้ความเร็วที่ 80 กม./ชม.
เอา 80 ตั้งหารด้วย 10 คูณด้วย 3 (80/10×3=24) จะได้ 24 เมตร ฉะนั้นถ้าเราขับด้วยความเร็ว 100 กม./ชม. เราก็ต้องทิ้งระยะห่างจากคันหน้าอย่างน้อย 30 เมตร อันนี้ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศด้วย เช่น ฝนตก ถนนลื่น หมอกลงจัด ถนนมืดมากเราก็ควรทิ้งระยะห่างคันหน้าให้มากขึ้นเช่นกัน
เมื่อคุณทราบขบวนการในการหยุดรถแล้ว ว่าส่วนสำคัญประกอบด้วยสภาพร่างกายที่ดีของผู้ขับขี่และระบบเบรกที่ใช้งานได้ในสภาพดี รวมถึงวิธีการขับที่ไม่ประมาท เท่านี้คุณจะปลอดภัยทุกเส้นทางครับ