“ดันราง” เทรนด์ความแรงแห่ง “ขุนพลดีเซล (Diesel)”

โพสต์เมื่อ 5 ตุลาคม 2019 เวลา 19:05 น. หมวดหมู่: การดูแลรักษารถยนต์ โดย Poyee Poyee

ยุคนี้ สมัยนี้ กระแสรถซิ่ง “สายดีเซล (Diesel)” เรียกว่าได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ด้วยการพัฒนาของเทคโนโลยีแบบก้าวกระโดด ชนิดที่เรี่ยวแรงเดิมจากโรงงานก็สามารถ “แรง” ได้แบบสบาย  แต่ถ้ายังไม่สะใจ ก็ยังสามารถขยับสเตปความแรงขึ้นไปอีกขั้น ด้วยวิธีที่นิยมทำกันอย่างแพร่หลายด้วยการ “ดันราง” ในแบบที่สามารถทำเอาบรรดาตัวซิ่ง “สายเบนซิน” มีหนาวกันได้ง่ายๆ

สำหรับการ “ดันราง” คือ เคล็บลับง่ายๆ ของสายดีเซลในการเพิ่มความแรง โดยใช้เทคนิค “การเพิ่มระดับแรงดันในรางจ่ายน้ำมัน” ให้หัวฉีดคอมมอนเรล นั่นเอง จากการใช้อุปกรณ์สำคัญที่เรียกว่า “กล่องดันราง” หลากหลายยี่ห้อที่มีขายในท้องตลาด

หน้าที่ของ “กล่องดันราง” ก็คือ “ส่งสัญญาณหลอก” ไปยังกล่องหลัก หรือกล่อง ECU ของรถ ว่าขณะนั้นแรงดันน้ำมันต่ำกว่าปกติ เพื่อให้กล่อง ECU สั่งการปั๊มคอมมอนเรล ซึ่งมีทำหน้าที่อัดสร้างแรงดันน้ำมัน ไปสู่รางคอมมอนเรล เพื่อจ่ายน้ำมันไปยังหัวฉีด ให้ทำงานมากขึ้น เพื่อสร้างแรงดันในระดับมาตรฐาน

หรือพูดง่ายๆ ก็คือ ถ้าค่าแรงดันปกติในรางคอมมอนเรลอยู่ที่ 100% “กล่องดันราง” จะส่งสัญญาณหลอกว่ามีค่าแรงดันอยู่ที่ 80% ฉะนั้นกล่องหลัก หรือกล่อง ECU ของรถ จึงตรวจพบว่าค่าแรงดันของรถ ณ ขณะนั้นมีแค่ 80% หรือต่ำกว่าปกติ ทำให้ต้องสั่งการปั๊มคอมมอนเรลสร้างแรงดันเพิ่มขึ้นอีก 20% เพื่อให้เต็ม 100% ตามมาตรฐาน และนั่นเท่ากับว่าค่าแรงดันแท้จริงจะอยู่ที่ 120%

และเมื่อค่าแรงดันในระบบสูงขึ้น ส่งผลให้การฉีดจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงเข้าสู่ห้องเผาไหม้ทำได้แรงกว่าเดิม จนได้ผลลัพธ์ก็คือการเผาไหม้ดีขึ้น ทำให้ประสิทธิภาพของเครื่องยนต์มากขึ้น ขณะที่หัวฉีดยังคงฉีดจ่ายน้ำมันเป็นปริมาณเท่าเดิม เพราะสิ่งที่เพิ่มขึ้นก็คือ “ค่าแรงดัน”

ฉะนั้นอัตราสิ้นเปลืองจึงยังคงอยู่ในเกณฑ์ปกติ พร้อมกับสิ่งที่ได้มา คือ การตอบสนองของรถที่ดีขึ้นในแบบที่ขับขี่ใช้งานปกติ ก็สร้างความมันส์ ความสะใจได้ง่ายๆ โดยไม่ต้อง “พยายาม” เลยทีเดียว แต่ทั้งนี้ ทั้งนั้น เราแนะนำให้ ปรับแต่งอย่างถูกต้อง เพื่อให้เหมาะสมกับพื้นฐานเครื่องยนต์ หากไม่อยากให้อายุการใช้งานงาน “สั้น” ไปมากกว่านี้