ฟอร์ดรายงานผลประกอบการไตรมาสแรกของปีพ.ศ. 2554
รายได้สุทธิ 2.6 พันล้านเหรียญฯ จากกลยุทธ์ One Ford ที่แข็งแกร่ง
- ฟอร์
ดรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสแ รกมีรายได้สุทธิ 2.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 7.78 หมื่นล้านบาท) หรือ 61 เซ็นต์ต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 466 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 1.39 หมื่นล้านบาท) เทียบกับไตรมาสแรกของปีพ.ศ. 2553 กำไรก่อนหักภาษีอยู่ที่ 2.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 8.37 หมื่นล้านบาท) หรือ 62 เซ็นต์ต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 827 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 2.47 หมื่นล้านบาท) เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกของปีพ. ศ . 2553 โดยนับเป็นการประกาศกำไรก่อนหั กภาษีต่อเนื่องกันเป็นไตรมาสที่ 7 - กำไรก่อนหักภาษีจากธุรกิจรถยนต์
553ของบริษัทในไตรมาสแรกอยู่ที่ 2.1 พันล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 6.28 หมื่นล้านบาท) เพิ่มขึ้น 936 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 2.8 หมื่นล้านบาท) เทียบกับไตรมาสแรกของปีพ.ศ. 2 - ฟอร์ด เครดิต รายงานผลกำไรก่อนหักภาษี
713 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 2.14 หมื่นล้านบาท)ลดลง 115 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 3.44 พันล้านบาท) เทียบกับไตรมาสแรกของปีพ.ศ. 2553ในไตรมาสแรกที่ - รายได้รวมของบริษั
ทในไตรมาสแรกอยู่ที่ 3.31 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 9.9 แสนล้านบาท) เพิ่มขึ้น 5 พันล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 1.5 หมื่นล้านบาท) จากไตรมาสแรกของปีพ.ศ. 2553 - ฟอร์ดมีกระแสเงินสดหมุนเวียนเป็
นบวกจากการดำเนินธุรกิจรถยนต์ ในไตรมาสแรกที่ 2.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 6.58 หมื่นล้านบาท) เพิ่มขึ้น 2.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 6.88 หมื่นล้านบาท) จากไตรมาสแรกของปีพ.ศ. 2553 - ฟอร์ดเดินหน้าลดหนี้
Trust Preferred Securities ที่คงเหลืออยู่ทั้งหมดจากภาครถยนต์ของบริษัทด้วยการจ่ ายคืนวงเงินสินเชื่อเพื่อการปรั บโครงสร้างหนี้ในไตรมาสแรกเพิ่ มอีก 2.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 7.48 หมื่นล้านบาท) หลังจากการจ่ายคืนหลักทรัพย์ ประเภท - ฟอร์ดมีปริมาณเงินสดขั้นต้
นจากธุรกิจรถยนต์ในช่วงสิ้นสุ ดไตรมาสแรกที่ 2.13 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 6.37 แสนล้านบาท) เพิ่มขึ้น 800 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 2.39 หมื่นล้านบาท) เทียบกับช่วงสิ้นปีพ.ศ. 2553 เงินสดขั้นต้นจากธุรกิจรถยนต์ ของฟอร์ดมีปริมาณมากกว่าหนี้สิ นของบริษัทที่ 4.7 พันล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 1.4 แสนล้านบาท) เพิ่มขึ้น 3.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 9.87 หมื่นล้านบาท) เทียบกับช่วงสิ้นปีพ.ศ. 2553 - ฟอร์ดมีสภาพคล่องจากธุรกิ