มาสด้า โชว์จุดเด่น เทคโนโลยียานยนต์สะอาด ยืนราคาเดิมรับโครงสร้างภาษีฯใหม่
มาสด้า ยืนราคาเดิมโชว์จุดเด่น เทคโนโลยียานยนต์สะอาด พร้อมปรับลดราคา มาสด้า2 ( Mazda 2 ) และเพิ่มอุปกรณ์ในหลายรุ่นต้อนรับอัตราภาษีสรรพสามิตรถยนต์ใหม่ ตอกย้ำความเป็นผู้นำเทคโนโลยียานยนต์ใส่ใจสิ่งแวดล้อมด้วยรถยนต์ที่มีอัตราการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ได้ตามเกณฑ์โครงสร้างภาษีใหม่ทุกรุ่น* พร้อมส่งรุ่นปรับโฉมใหม่หลากหลายรุ่นเพิ่มความคุ้มค่าแก่ลูกค้า
การปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิตใหม่
นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด กล่าวว่า การปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิตใหม่ที่เริ่มบังคับใช้ในวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2559 เป็นต้นไปซึ่งจะคิดตามอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) แทนการคิดตามความจุกระบอกสูบแบบเดิมมีหลักการว่า รถที่ปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนด จะได้ลดภาษีตามหลักเกณฑ์ของโครงสร้างภาษีสรรพสามิตใหม่นี้ รถยนต์มาสด้าโดยรวมมีทั้งการปรับราคาลดลง ปรับราคาเพิ่มขึ้นเล็กน้อย และไม่ปรับราคา โดยเฉพาะ มาสด้า2 ( Mazda 2 )มีการปรับราคาลงมากถึง 2 หมื่นบาท ส่วนรถปิกอัพ มาสด้า บีที-50 โปร ( Mazda BT-50 Pro ) แม้ว่าจะมีการใช้อัตราภาษีฯใหม่ที่เพิ่มขึ้นในบางรุ่น แต่ทางมาสด้าไม่มีการปรับราคาจำหน่ายรถแต่อย่างใดเพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับลูกค้า
โดยรายละเอียดการปรับราคาของแต่ละรุ่นมีดังต่อไปนี้
1. มาสด้า2: มาสด้าประกาศปรับราคาใหม่ตั้งแต่เดือนธันวาคมที่ผ่านมา โดยปรับลดลง 21,000 บาท หลังจากที่รถยนต์รุ่นนี้เข้าร่วมโครงการรถยนต์ประหยัดพลังงานมาตรฐานสากลระยะที2 หรือ โครงการอีโคคาร์ เฟส 2 ที่มีข้อกำหนดทั้งเรื่องสมรรถนะด้านสิ่งแวดล้อม และมาตรฐานด้านความปลอดภัย จากเดิมที่มีอัตราภาษีที่ 17% ลดลงเหลือ 14% เนื่องจากมีอัตราการปล่อยไอเสียต่ำกว่า 100 กรัมต่อกิโลเมตร ส่งผลให้ราคาขายรถยนต์รุ่นนี้โดยรวมปรับลดลง
2. มาสด้า บีที-50 โปร: แม้ว่าอัตราภาษีใหม่ของรถกระบะจะมีการปรับขึ้นในบางรุ่นรูปแบบตัวถังพร้อมกับการนำเอาเกณฑ์การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มาใช้เพื่อกำหนดอัตรา มาสด้ายืนยันยังคงจำหน่ายราคาเดิมโดยไม่มีการปรับขึ้นหรือปรับลงแต่อย่างใดในทุกรุ่น เพื่อให้ลูกค้าสามารถเป็นเจ้าของรถปิกอัพได้ง่ายขึ้น
3. มาสด้า ซีเอ็กซ์-5: ในขณะนี้ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงราคาใหม่ โดยการประกาศราคาใหม่จะมาพร้อมกับการเปิดตัวรุ่นใหม่ในอนาคตอันใกล้นี้
4. มาสด้า ซีเอ็กซ์-3 ครอสโอเวอร์: ยืนยันจำหน่ายในราคาเดิมตั้งแต่ในช่วงการเปิดตัวเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2558 ที่ผ่านมา พร้อมรองรับน้ำมันเชื้อเพลิงประเภท E85 และผ่านเกณฑ์การปล่อยไอเสียตามโครงสร้างภาษีสรรพสามิตใหม่ ช่วยให้ลูกค้าได้เป็นเจ้าของรถฟรีสไตล์ครอสโอเวอร์ที่โฉบเฉี่ยวและใส่ใจสิ่งแวดล้อมในขณะเดียวกัน
5. มาสด้า3 สกายแอคทีฟใหม่: มีการปรับเพิ่มอุปกรณ์มาตรฐาน ที่ไม่เพียงสามารถช่วยเพิ่มอัตราการประหยัดน้ำมันได้ดียิ่งขึ้น แต่ยังช่วยลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ได้อย่างมีประสิทธิภาพนอกเหนือไปจากการรองรับน้ำมันเชื้อเพลิงประเภท E85 อีกด้วย อุปกรณ์ที่เพิ่มขึ้น อาทิเช่น
• เพิ่มระบบประหยัดน้ำมัน i-Stop
• เพิ่มกล้องมองหลัง (Rear View Camera)
• เพิ่มระบบกุญแจอัจฉริยะ (Smart Keyless Entry) ตั้งแต่ในรุ่น 2.0C เป็นต้นไป
• เปลี่ยนสีเบาะนั่งและแผงประตูในรุ่น 2.0SP จากสีครีม-ดำ เป็นสีดำ
• มีการปรับราคาเพิ่มขึ้น เริ่มที่ 5,000 บาท
ราคามาสด้า3 สกายแอคทีฟใหม่
1. รุ่น 2.0E Hatchback และ Sedan ราคาเดิม 833,000 ราคาใหม่ 838,000 ปรับเพิ่ม 5,000 บาท
2. รุ่น 2.0C Hatchback และ Sedan ราคาเดิม 914,000 ราคาใหม่ 928,000 ปรับเพิ่ม 14,000 บาท
3. รุ่น 2.0S Hatchback และ Sedan ราคาเดิม 974,000 ราคาใหม่ 988,000 ปรับเพิ่ม 14,000 บาท
4. รุ่น 2.0SP Hatchback และ Sedan ราคาเดิม 1,094,000 ราคาใหม่ 1,099,000 ปรับเพิ่ม 5,000 บาท
นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า มาสด้าเองนั้นมุ่งมั่นในการพัฒนาเทคโนโลยีสกายแอคทีฟเพื่อมอบความสนุกสนานในการขับขี่ ควบคู่ไปกับการรักษาสิ่งแวดล้อมเป็นเลิศและสมรรถนะความปลอดภัยขั้นสูงให้แก่ลูกค้า ความพยายามของมาสด้าในการปรับใช้เทคโนโลยีต่างๆ เหล่านี้ในรถยนต์หลากหลายรุ่นส่งผลให้รถยนต์รุ่นต่างๆของมาสด้าผ่านเกณฑ์การปล่อยไอเสียตามโครงสร้างสรรพสามิตใหม่ และช่วยให้มาสด้าสามารถตั้งราคารถที่ลูกค้าทุกคนสามารถเป็นเจ้าของได้
มาสด้าจะยังคงมุ่งมั่นในการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อสิ่งแวดล้อมต่อไป และพัฒนาให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างสายสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งกับลูกค้าและยกระดับคุณค่าของแบรนด์สืบไป
*รายละเอียดเกี่ยวกับอัตราการปล่อยไอเสียในแต่ละรุ่นสามารถดูเพิ่มเติมได้จาก Eco Sticker บนรถยนต์มาสด้า