มิกโกควบเฟียสต้า เอส2000 คว้าชัยสนามแรก เร็วกว่าคู่แข่งกว่า 2 นาที ในมอนติ คาร์โล แรลลี่

โพสต์เมื่อ 17 กุมภาพันธ์ 2010 เวลา 3:03 น. หมวดหมู่: ข่าวประชาสัมพันธ์ โดย iAMCAR Admin

มิกโกควบเฟียสต้า เอส2000 คว้าชัยสนามแรก เร็วกว่าคู่แข่งกว่า 2 นาที ในมอนติ คาร์โล แรลลี่

มิกโก เฮอร์โวเนน และยาร์โม เลติเนน คว้าชัยชนะจากสนามแข่งระดับตำนานในการแข่งขัน มอนติ คาร์โล แรลลี่ ด้วยเฟียสต้า เอส2000 ใหม่ ที่พัฒนาขึ้นโดยเอ็ม-สปอร์ต ที่เปิดตัวลงสู่สนามแข่งเป็นครั้งแรก หลังจากทั้งคู่ครองตำแหน่งผู้นำในสนามตั้งแต่จุดเริ่มต้นจนกระทั่งสิ้นสุดการแข่งขัน

นักขับจากทีมอย่างเป็นทางการของฟอร์ดในการแข่งขันเวิลด์ แรลลี่ แชมเปี้ยนชิพ (ดับบลิวอาร์ซี) ควบเฟียสต้า เอส2000 ฝ่าสภาพอากาศอันหนาวเหน็บ และพื้นถนนที่ปกคลุมด้วยหิมะบนเทือกเขาทางตอนใต้ของฝรั่งเศส มุ่งหน้าเข้าสู่เส้นชัย ณ กรุงมอนติ คาร์โล เมืองท่าอันเลื่องชื่อของประเทศโมนาโค โดยทำเวลานำคู่แข่งอย่างทิ้งห่างถึง 1 นาที 51.4 วินาที

เฟียสต้า เอส2000 ได้รับการพัฒนาขึ้นโดยบริษัทเอ็ม-สปอร์ต พันธมิตรของฟอร์ดสำหรับการแข่งขันเวิล์ด แรลลี่ แชมเปี้ยนชิพ ในการแข่งขันที่สนาม มอนติ คาร์โล แรลลี่ กินเวลายาวนานถึง 5 วัน นับเป็นการเปิดตัวรถรุ่นใหม่สู่สนาม ดับบลิวอาร์ซีที่ท้าทายมากที่สุด อย่างไรตาม เฟียสต้า เอส2000 สามารถแสดงศักยภาพได้อย่างดีเยี่ยม โดยไม่มีความผิดพลาดเกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อยตลอดเส้นทาง 405.01 กิโลเมตร ถือเป็นศักราชใหม่ของการแข่งขันในปี 2010 อย่างสมบูรณ์แบบให้กับทั้งเฮอร์โวเนน และเลติเนน

ประสบการณ์มากมายของนักขับชาวฟินแลนด์ทั้งสองคน เจ้าของรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 จากสนามดับบลิวอาร์ซีเมื่อปีที่แล้ว นับว่ามีประโยชน์อย่างมากกับการควบคุมเฟียสต้า เอส2000 ใหม่ ในการแข่งขันบนเส้นทางสุดโหดที่เร้าใจ ขณะที่การแข่งขันในครั้งนี้ นับเป็นสนามอุ่นเครื่องอันยอดเยี่ยมที่จะช่วยเตรียมความพร้อมให้กับทั้งคู่ ก่อนที่การแข่งขันดับบลิวอาร์ซีในฤดูกาลใหม่จะเปิดฉากขึ้นในประเทศสวีเดนเดือนกุมภาพันธ์

มอนติ คาร์โล แรลลี่ เป็นสนามเปิดการแข่งขันรถยนต์แรลลี่ Intercontinental Rally Challenge (IRC) ซึ่งเอ็ม-สปอร์ต ได้ลงทะเบียนเข้าเป็นหนึ่งในผู้เข้าร่วมการแข่งขัน โดยมัลคอล์ม วิลสัน ผู้อำนวยการบริษัท ได้ติดตามชมการถ่ายทอดสดการแข่งขันในช่วงสุดท้ายอย่างอารมณ์ดี ขณะที่เฮอร์โวเนนขับเฟียสต้า เอส2000 เข้าสู่เส้นชัยอย่างปลอดภัย พร้อมกับคว้าชัยชนะจากการแข่งขัน

แม้ว่าทั้งหิมะ และก้อนน้ำแข็งจะปกคลุมเส้นทางบนภูเขาทั้งในเขตอาร์เดช และแอล์ปส์-มาริไทมส์ ทำให้สภาพถนนเกิดการความลื่นไถลในระดับที่แตกต่างกันอย่างมากในแต่ละช่วงของเส้นทาง ทว่า ยางพิเรลลี่ที่ทีมฟอร์ดเลือกใช้นับว่าเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม และเฮอร์โวเนนก็สามารถขับได้อย่างไร้ข้อบกพร่องตลอดการแข่งขันทั้ง 15 รอบ

“มอนติ คาร์โล แรลลี่ เป็นหนึ่งในการแข่นขันแรลลี่ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก และการได้รับชัยชนะจากสนามนี้ทำให้ผมรู้สึกตื่นเต้นมาก” เฮอร์โวเนน วัย 29 ปี กล่าว “การแข่งขันครั้งนี้ทั้งยาวนาน และยากมาก อีกทั้งสภาพอากาศยิ่งทำให้การแข่งขันครั้งนี้ลำบากมากขึ้นไปอีก สำหรับเฟียสต้า เอส2000 คันนี้แม้ว่าจะเป็นรถใหม่สำหรับการแข่งขัน แต่การทำงานทุกอย่างสมบูรณ์แบบมากตั้งแต่กิโลเมตรแรกของการขับ นับว่าเป็นความสำเร็จของทุกคนในทีม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ทุกๆ คนที่ทุ่มเทกันอย่างมากตลอด 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา”

“การเริ่มต้นฤดูกาลด้วยชัยชนะ นับว่าช่วยกระตุ้นความมั่นใจได้มาก ผมชอบความรู้สึกของชัยชนะและผมอยากจะทำได้ดีแบบนี้ต่อไปในการแข่งขันดับบลิวอาร์ซีที่จะเริ่มขึ้นในประเทศสวีเดน” เฮอร์โวเนน กล่าว

วิลสัน ผู้อำนวยการบริษัท เอ็ม-สปอร์ต กล่าวว่า “การแข่งขันครั้งนี้นับเป็นการเปิดตัวในฝันสำหรับเฟียสต้า เอส2000 เราเป็นผู้นำตั้งแต่การแข่งขันในรอบแรกจนถึงรอบสุดท้าย และไม่ประสบปัญหาเลยแม้แต่น้อย ซึ่งช่วยสร้างความมั่นใจให้แก่รถคันใหม่นี้อย่างมาก มิกโกควบคุมรถได้เป็นอย่างดี สำหรับการคว้าชัยชนะและความคิดเห็นของเขาที่มีต่อรถจะเป็นสิ่งสำคัญที่เราจะนำมาพัฒนาเฟียสต้าต่อไป”

“ผมอยากจะชอบคุณทีมงานของเอ็มสปอร์ต ที่ได้ทุ่มเทความพยายามและความมุ่งมั่นในการทำให้รถคันนี้พลิกโฉมหน้าจากรถยนต์ธรรมดาสู่การเป็นผู้ชนะในสนามมอนติ คาร์โล แรลลี่ ภายในเวลาเพียง 9 เดือนเท่านั้น” วิลสัน กล่าว

เจอราร์ล ควินน์ หัวหน้าฝ่ายมอเตอร์สปอร์ต ประจำฟอร์ด ยุโรป กล่าวว่า “ผมดีใจมากที่ได้เห็นรถฟอร์ด เฟียสต้า เอส2000 ได้รับชัยชนะในการแข่งขันอันทรงเกียรติบนสนามมอนติ คาร์โล แรลลี่ การที่รถคันนี้สามารถครอบครองชัยชนะได้ตั้งแต่การลงแข่งขันในสนามแรก นับเป็นข้อพิสูจน์ที่ชัดเจนถึงความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งระหว่างฟอร์ด และเอ็ม-สปอร์ต รวมทั้งบริษัทต่างๆ ที่ร่วมแบ่งปันเทคโนโลยีชั้นเยี่ยมในการพัฒนารถยนต์เพื่อการแข่งขันแรลลี่ ความแข็งแกร่งและความน่าเชื่อถือที่เห็นได้อย่างชัดเจนในรถฟอร์ด เฟียสต้า ที่วิ่งอยู่บนท้องถนน นับว่าเป็นพื้นฐานที่ดีเยี่ยมสำหรับการพัฒนาเฟียสต้า เอส2000”