ย้อมแมวน้ำท่วม ดูอย่างไร
ทางเลือกหลังน้ำท่วมในการซื้อรถมือหนึ่ง คงมีทางเลือกไม่มากนัก เพราะหลายยี่ห้อกว่าจะส่งรถให้ลูกค้าได้ต้องรอถึงปีหน้า ฉะนั้นหากใครต้องรีบใช้รถคงต้องย้อนกลับไปมองรถมือสอง แต่ก็ยังมีรถจำนวนไม่น้อยที่จมอยู่ใต้บาดาลในช่วงน้ำท่วม จึงทำให้ผู้บริโภคอย่างเรากลัวโดนย้อมแมวขาย
มหาวิปโยคของวงการรถมือสองจึงเกิดขึ้นอีกครั้ง บรรดาผู้ค้าที่ไม่มีจรรยาบรรณซื้อรถจมน้ำราคาถูกๆ มาซ่อมแบบขอไปทีแล้วก็ขายราคาปกติ เรียกได้ว่าเปลี่ยนวิกฤติเป็นโอกาสบนความทุกข์ของผู้อื่น วันนี้ผมจึงอยากนำวิธีสังเกตเบื้องต้นมาให้พอทราบกันครับ
ตัวถัง
ข้อแรกที่สามารถจะเดาประวัติว่ารถถูกน้ำท่วมมาหรือไม่ เริ่มดูที่ตัวถังรถกันก่อน ซึ่ง หากมีจุดที่ผุหรือเกิดสนิมในบริเวณที่ไม่ควรจะเกิด เช่น ประตูที่ไม่มีรอยชน ให้สันนิษฐานกันก่อนเลยว่า รถถูกน้ำท่วมมา โดยดูต่อตามรอยจะเข็บตัวถัง ในจุดต่างๆ โดยเฉพาะใต้ท้องรถ อันนี้ดูได้ง่ายๆ ไม่ยาก โดยเฉพาะในพวกชุดช่วงล่างหรือใต้ท้อง ยิ่งแชสซีนี่เห็นชัดเลย เราจึงควรยกแม่แรงดูใต้ท้องสักนิด ถ้าคนขายเค้าบริสุทธิ์ใจ เค้าให้เรายกดูอยู่แล้ว
เรื่องกลิ่นห้องโดยสาร
ปกติแล้ว เบาะ พรม และทุกอย่างของรถน้ำท่วม จะถูกนำออกไปซัก เพื่อขจัดคราบต่างๆ แต่สิ่งหนึ่งที่กำจัดยากมากที่สุด คือ กลิ่นในห้องโดยสาร ที่จะติดรถอยู่อย่างนั้น เนื่องจากน้ำที่ท่วมนั้นเป็นน้ำโคลน กลิ่นต่างๆ จะอยู่เป็นเวลานาน แล้วจะเกิดกลิ่นอับๆ ชื้นๆ โดยเฉพาะที่เบาะเพราะเป็นจุดที่แห้งยากมากๆ ตากแดดเป็นอาทิตย์บางทียังไม่แห้งเลย จึงถือเป็นหลักฐานที่สำคัญในการสังเกต
ห้องเครื่องยนต์
ตัวเครื่องยนต์เป็นอีกจุดหนึ่งที่มีความสำคัญในการบ่งบอกประวัติในกรณีน้ำท่วม ในกรณีน้ำท่วมมิดฝากระโปรงหน้า เครื่องยนต์จะถูกยกออกมาถอดประกอบใหม่ เพื่อล้างไส้ในจากน้ำโคลนที่เข้าไป แต่หลายๆอู่ มักจะไม่นิยมเปลี่ยนน๊อตตัวเครื่องยนต์ใหม่สักเท่าไรนัก และ เมื่อเหล็กอยู่ในน้ำเป็นเวลานานๆ น๊อตก็จะเป็นสนิมหรือมีร่องรอยการยากาวในการถอดประกอบเครื่อง โดยเฉพาะส่วนฝาสูบ หรือไม่ถ้ามีความรู้สึกว่าน๊อตเครื่องยนต์หรือตัวเครื่องยนต์มันดูใหม่เกินไปนั้น ให้ลองดูอย่างละเอียดดีๆ เพราะบางครั้ง เขาก็ใช้วิธีเปลี่ยนน๊อคเครื่องหรือเปลี่ยนเครื่องท่อนบนก็เป็นไปได้ ฉะนั้นต้องสังเกตในห้องเครื่อง เช่น ตะเข็บในห้องเครื่องว่ามีสนิมไหม อุปกรณ์ข้างเครื่อง เช่น ไดชาร์ท คอมแอร์ หม้อน้ำ แผงแอร์ ฯลฯ ว่ามีสนิมมากกว่าที่ควรจะเป็นหรือเปล่า
ระบบไฟฟ้า
อุปกรณ์ไฟฟ้าเจอกับน้ำแน่นอนว่าพัง ระบบไฟฟ้าในรถยนต์ปัจจุบันถือว่าละเอียดอ่อนและมีอยู่หลายจุดมาก ถ้าไล่ดูทุกจุด เช่น กระจกไฟฟ้า ไฟเรือนไมล์ ไฟหลังคา วิทยุ ฯลฯ ถ้าเช็คแล้วมีทำงานบ้างไม่ทำงานบ้าง หรือพอเปิดนานๆ แล้วช็อต อันนี้สันนิษฐานได้ว่า อาจเคยจมน้ำมาก่อน เนื่องจากความชื้นที่ยังจับตัวแน่นในแผงวงจรทำให้เกิดการทำงานที่ผิดปกติ เพราะเป็นการยากที่จะไล่ความชื้นออกจากทุกจุดของรถที่มีระบบไฟฟ้า
นี่เป็นแค่หลักการเบื้องต้นในการดูรถมือสอง ว่าจมน้ำมาหรือไม่ แต่สิ่งที่ผมอยากให้เกิดขึ้น คือ อย่าย้อมแมวขายกันเลยครับ เท่านี้ก็เดือดร้อนกันมากพอแล้วครับ