วอลโว่ร่วมสร้างประวัติศาสตร์ใหม่เพื่อโลกยั่งยืน

ส่ง C30 พลังงานไฟฟ้าร่วมโปรเจ็คระดับโลก “One Tonne Life” พิสูจน์ใช้ชีวิตแบบใหม่ช่วยลดโลกร้อน

ในฐานะเจ้าแห่งนวัตกรรมยานยนต์เพื่อโลกที่ยั่งยืน วอลโว่ส่งรถยนต์พลังงานไฟฟ้า C30 Electric เข้าร่วมโปรเจ็คท้าทายที่วอลโว่และแบรนด์ชั้นนำของโลกจับมือกันจัดขึ้นเพื่อพิสูจน์ว่านวัตกรรมสุดทันสมัยของโลกช่วยให้เราใช้ชีวิตได้ตามปกติโดยลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่แต่ละคนสร้างขึ้นใน 1 ปีจากคนละ 7 ตันโดยเฉลี่ยให้เหลือ 1 ตันต่อคนได้จริง

 

ไอเดียหลักของโปรเจ็ค One Tonne Life นี้ คือการใช้เทคโนโลยีที่มีอยู่แล้วหรือกำลังจะเปิดตัวออกสู่ตลาดในอนาคตเพื่อช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะก๊าซเรือนกระจกหรือคาร์บอนไดออกไซด์ให้เหลือน้อยที่สุด โปรเจ็คนี้เกิดขึ้นในประเทศสวีเดน ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดของเทคโนโลยีเพื่อสิ่งแวดล้อมมากมาย รวมทั้งวอลโว่ด้วย โดยครอบครัวที่ได้รับการคัดเลือกจะเข้ามาอยู่ในบ้านที่สร้างขึ้นเป็นพิเศษ พร้อมทั้งมีเทคโนโลยีต่างๆ ที่จะช่วยให้พวกเขาสามารถใช้ชีวิตตามปกติได้อย่างสะดวกสบายเป็นเวลา 1 ปี เพื่อพิสูจน์ว่าเราสามารถลดปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ลงได้ตามเป้าหมาย 

 

ต้นคิด

3 บริษัทยักษ์ในยุโรปซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีทั่วโลก ได้แก่ วอลโว่ แบรนด์รถยนต์ชั้นนำที่ขึ้นชื่อในเรื่องนวัตกรรมความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อม  A-hus บริษัทรับสร้างบ้านชั้นนำที่เน้นเทคโนโลยีประหยัดพลังงานและเหมาะกับสภาพภูมิอากาศ  และ Vattenfall บริษัทที่ปรึกษาและจัดทำโซลูชั่นพิเศษสำหรับการติดตามการใช้และประหยัดพลังงานไฟฟ้าในครัวเรือน  ทั้ง 3 ล้วนมีจุดยืนเดียวกันคือ สร้างสรรค์และสรรหาทางเลือกใหม่ที่จะช่วยให้โลกนี้มีความยั่งยืนมากขึ้น โดยที่เรายังคงใช้ชีวิตได้ตามปกติ สะดวกสบายเหมือนเดิมหรือยิ่งกว่าเดิม

 

เมื่อ 3 ยักษ์แห่งยุโรปจับมือกัน พันธมิตรชั้นนำอีก 2 รายก็พร้อมร่วมมือ คือ ซีเมนส์ ผู้นำด้านอุปกรณ์เครื่องใช้และอำนวยความสะดวกภายในบ้าน  และ ICA บริษัทอาหารออร์กานิกและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งทั้งสองพร้อมที่จะทำให้ชีวิตในโปรเจ็คท์ยักษ์  “One Tonne Life” สมบูรณ์ยิ่งขึ้น

 

บ้านประหยัดพลังงาน

งานนี้ A-hus รับหน้าที่สร้างบ้านประหยัดพลังงาน เพื่อให้คนอยู่อาศัยได้อย่างสบายในทุกสภาพอากาศ ซึ่งถ้าโครงการนี้ประสบความสำเร็จ เราก็อาจจะได้มีโอกาสได้อยู่ในบ้านอัจฉริยะแบบนี้กันในอนาคต 

บ้านหลังนี้ถูกออกแบบมาอย่างดี โดยมีผนัง 3 ชั้นที่ติดฉนวนกันความร้อนและหนาวเป็นอย่างดี ช่องหน้าต่างและประตูที่ยื่นออกมาจากตัวบ้าน เพื่อป้องกันไม่ให้ความหนาวเย็นจากข้างนอกลอดเข้าไปในบ้าน และไม่ให้ความอบอุ่นในบ้านลอดออกมา พร้อมกับยังคงให้แสงสว่างจากธรรมชาติผ่านเข้ามา และแน่นอนว่า บ้านหลังนี้ก็ยังดูดีด้วยเช่นกัน   ส่วนด้านนอก หลังคาสีดำติดแผงวงจรสุริยะหรือ Solar cell ทางทิศใต้เพื่อให้รับแสงเต็มที่ สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์เพื่อใช้ในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นเครื่องทำน้ำอุ่น ตู้เย็น ระบบระบายอากาศ รวมทั้งชาร์จไฟให้กับ วอลโว่ C30 Electric รถอัจฉริยะพลังงานไฟฟ้าที่ได้รับเลือกมาเข้าร่วมพิสูจน์ในครั้งนี้ด้วย     

 

อยู่อย่างไรจะใช้พลังงานน้อย

เพราะ 50% ของพลังงานที่เราใช้กันในบ้านมาจากเครื่องใช้ต่างๆ  ซีเมนส์จึงรับหน้าที่ในการจัดหาอุปกรณ์เครื่องใช้ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นตู้เย็น โทรทัศน์ เครื่องทำน้ำอุ่น เครื่องระบายอากาศไปจนกระทั่งเครื่องซักผ้า ล้างจานและอื่นๆ  เพื่อให้ผู้ที่อยู่อาศัยในโครงการนี้สะดวกสบายตามปกติ

 

กินอะไรถึงจะช่วยลดโลกร้อน

ICA  เป็นผู้รับหน้าที่จัดหาอาหาร โดยจะช่วยให้ทุกคนเลือกอาหารที่เหมาะสม อร่อย และที่สำคัญคือช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์  เพราะเชื่อหรือไม่ว่า อาหารที่เรากินกันอยู่ทุกวันนี้เป็นตัวการที่สร้างคาร์บอนฟุตพริ้นท์ถึง 1 ใน 4 ของทั้งหมดที่แต่ละครอบครัวสร้างขึ้น  โดย ICA จะดูทุกขั้นตอนตั้งแต่การเลือกอาหารที่ปลูกหรือเลี้ยงขึ้นแบบออร์กานิก เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมจริงๆ    ICA ตั้งเป้าหมายว่าภายในปี 2563 บริษัทฯ จะลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลง 30% ให้ได้

{phocagallery view=category|categoryid=201|limitstart=0|limitcount=0}

รถอัจฉริยะ

แน่นอนว่ารถที่เลือกมาเข้าโครงการนี้จะต้องเป็นรถที่ประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่สุด และนั่นก็คือ วอลโว่ C30 Electric เลนนาร์ท สเตแกลนด์ ผู้จัดการฝ่ายพัฒนายานยนต์พิเศษของวอลโว่ กล่าวว่า “การที่เรานำวอลโว่ C30 Electric มาเข้าร่วมโปรเจ็คนี้จะช่วยให้เรามีโอกาสได้ศึกษาในสถานการณ์จริงว่า วอลโว่ C30 Electric เหมาะกับการใช้ชีวิตยุคใหม่มากน้อยเพียงไร เราจะได้เก็บข้อมูลว่ามีอะไรอีกที่เราต้องเพิ่มเติมเพื่อให้สามารถสนองความต้องการและให้ความมั่นใจกับผู้บริโภคได้ว่ารถยนต์พลังงานไฟฟ้านั้นเป็นทางเลือกที่เหมาะกับการใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ เป็นรถที่จะต้องซื้อและเป็นเจ้าของให้ได้”