8 เคล็ดลับแก้ง่วงยามขับขี่
หลายท่านที่ขับรถเดินทางไกลๆ ถ้าจากประสบการณ์ส่วนตัวของผมถ้าให้เปรียบเทียบกันระหว่างขับรถเวลาเมา กับขับรถในขณะที่ง่วงนอน ผมว่าการขับรถในขณะที่ง่วงนั้น เกิดอันตรายได้มากกว่า เพราะหากถ้าผู้ขับขี่เกิดอาการง่วงนอนมากๆ ร่างกายอาจจะวูบไปและขาดสติไปช่วงเวลาหนึ่ง ที่เรียกกันว่าหลับใน ผมจึงอยากนำ 8 วิธี แก้ง่วงยามขับขี่ มาให้ลองปฎิบัติกันดู เพื่อจะช่วยคุณจากอุบัติเหตุไม่คาดฝัน
1). นอนพอคืนเดียว = ไม่พอ
ทางที่ดีคือ ถ้าไม่ได้นอนเต็มที่ 7-8 ชั่วโมง 1 คืน ติดกันอย่างน้อย 2 วันไม่ควรขับรถ หรือถ้าขับรถก็อย่าขับรถทางไกล
(2). หลีกเลี่ยงช่วงเวลาอันตราย
ช่วงเวลาอันตรายที่คนเรามักจะหลับในมากที่สุด คือ 12.00-7.00 นาฬิกา… ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ ควรหลีกเลี่ยงช่วงเวลานี้
(3). อย่าขับรถคนเดียว
การมีคนนั่งบนรถหลายคนมีส่วนช่วยให้โอกาสหลับน้อยลง ซึ่งแน่นอน… ควรเลือกคนโดยสารที่ตื่นนอนและคุยด้วยมากกว่าคนโดยสารที่หลับไปตลอดทาง ถ้าทำไม่ได้… ควรหาอะไรทำไปด้วย เช่น สวดมนต์ ร้องเพลง ฯลฯ แต่อย่าดูโทรทัศน์ หรือใช้มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์อีกข้างจับพวงมาลัย เพราะจะทำให้เกิดอุบัติเหตุง่ายขึ้นมาก
(4). พักรถพักคนบ่อยๆ
พักรถพักคน และควรเดินไปเดินมา เข้าห้องน้ำ ดื่มน้ำหรือเครื่องดื่ม
(5). หาจุดพัก
ถ้าเป็นไปได้… ควรหาจุดพักนอน 15-20 นาทีทันทีที่ง่วง ซึ่งต้องวางแผนล่วงหน้า เพื่อหาสถานที่ที่ปลอดภัยพอที่จะพักผ่อนนอนหลับได้
(6). กาเฟอีน
กาเฟอีนอาจช่วยให้หายง่วงได้ถ้านอนมากพอก่อนเดินทางอย่างน้อย 2 วัน แต่ถ้านอนไม่พอหรือง่วง… การนอนพัก 15-20 นาทีดีกว่าดื่มกาแฟแล้วขับต่อไปเรื่อยๆ
(7). อย่าดื่ม
แอลกอฮอล์เพิ่มเสี่ยงหลับใน และถ้าเกิดอุบัติเหตุ… โอกาสแพ้คดีหรือได้รับโทษจะเพิ่มขึ้นมาก
(8). อะไรที่ไม่ได้ผล
ถ้าง่วงไปแล้ว… การเปิดวิทยุหรือหน้าต่างรถมักจะช่วยอะไรไม่ค่อยได้ อาการที่อาจบอกเราว่า ง่วงและควรหยุดขับรถได้แล้ว คือ ตาเริ่มโฟกัสภาพไม่ค่อยได้, มองเห็นภาพข้างหน้าไม่ชัดเท่าเดิม, หาว, จำอะไรไม่ได้หรือนึกอะไรไม่ออก เมื่อมีอาการเหล่านี้คงต้องหยุดรถ นอนพักทันที