GOODYEAR INTERNATIONAL DRIFT SERIES 2010
ผ่านพ้นไปแล้วสำหรับกิจกรรมที่ทุกคนตั้งตาต่อรอคอย กับรายการ GOODYEAR INTERNATIONAL DRIFT SERIES 2010 สนามที่ 1-2 ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร
นับเป็นการแข่งขันดริฟท์รายการแรกของไทยที่ใช้มาตรฐานความปลอดภัยเดียวกับ Federation International I’Automobile (FIA) สมาพันธ์การแข่งขันรถยนต์ที่ได้รับการยอมรับและเชื่อมั่นทั่วโลก นอกจากนี้ยังได้รับการรับรองจาก ราชยานยนต์สมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (รยสท) ในด้านกฏเกณฑ์การแข่งขันความปลอดภัย รวมทั้งเป็นรายการดริฟท์รายการเดียวที่ได้รับการบรรจุไว้ในรายการกิจกรรม Amazing Thailand Recommended Event ประจำปีนี้ของ ททท. อีกด้วย
ความเร้าใจของรายการดริฟท์มาตรฐานระดับโลก จัดขึ้นที่สนาม Wonder world Park เมื่อวันที่ 17-18 กรกฏาคม 2553 ที่ผ่านมา
เริ่มการแข่งขันในเรซแรก วันเสาร์ที่ 17 ก.ค. 2553 โดยให้นักแข่งทุกคนทำการฟิตซ้อมตั้งแต่เช้า ต่อด้วยการควอลิฟายในช่วงบ่าย เพื่อค้นหาผู้เข้ารอบ 16 คัน แต่ในขณะกำลังจะควอลิฟายนั้นพระพิรุณกลับไม่เป็นใจ ส่งสายฝนโปรยปรายลงมาทำให้เวลาการแข่งขันล่าช้ากว่าปกติ แต่นั่นยิ่งส่งผลให้ความมันส์เพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ นับเป็นความท้าทายสำหรับนักแข่งที่ต้องใช้ทักษะการควบคุมรถที่มากกว่าเดิม ซึ่งในสนามนี้มีนักแข่งพร้อมลงแข่งขันระเบิดความมันอย่างเข้มข้น ไม่ว่าจะเป็น เอส Goodyear, พัฒน์ Goodyer, นคร Goodyear, ป็อป Goodyear แม้สภาพบรรยากาศไม่เอื้ออำนวย ก็ม่ได้เป็นอุปสรรคแต่อย่างใด เนื่องจากมีตัวช่วยคือยางสมรรถนะดีอย่าง “Goodyear Eagle F1 Asymmetric” ไม่ว่าสภาพอากาศแบบไหนรับมือไหวอยู่แล้ว
สำหรับรอบ 16 คันในวันแรก มีคู่ที่เป็นไฮไลท์ชวนติดตามอยู่หลายคู่ เริ่มจากคู่ของ นฤเบศร์ เจอกับ เท๊ด ซึ่งคู่นี้ในรอบ BATTLE รอบแรกทั้งคู่ขับได้ดีมาก ทำให้ต้องแข่งใหม่กันอีกหนึ่งรอบ ซึ่งการแข่งขันในรอบใหม่นี้ นฤเบศร์ สามารถขับตามนาย เท็ดได้อย่างชิดติดบั้นท้าย ส่งผลให้คะแนนเป็นของ นฤเบศร์ ผ่านเข้ารอบไปอย่างนิ่มๆ ส่วนอีกคู่เป็นการพบกันระหว่าง สรานนท์ และมณเฑียร เมื่อดูจากชื่อชั้นแล้ว มณเฑียร ค่อนข้างจะเป็นรอง แต่กระนั้นก็สามารถสู้กับ สรานนท์ ได้อย่างสุดมันส์ จึงต้องทำการแข่งใหม่กันถึง 2 รอบ Battle ถึงจะรู้ผลแพ้ชนะ และแล้ว สรานนท์ โชว์ฟอร์มเก๋าเกมส์เฉือนเอาชนะ มณเฑียร ผ่านเข้ารอบไปในที่สุด
มาถึงรอบ 8 คัน มีนักแข่งต่างชาติ Daniel จากนิวซีแลนด์เจอกับ วัทนพร หรือ โจ้ (โจ-ป็อป) สำหรับคู่นี้ขับได้ดีมากทั้งคู่ ทำให้ต้องแข่งใหม่กันอีกหนึ่งรอบ Battle ในรอบแข่งใหม่นี้ Daniel รถเกิดเสียอาการทำให้คะแนนเสียไปอย่างน่าเสียดาย โจ้ จึงผ่านเข้ารอบไป
มาต่อกันที่คู่ของนฤเบศร์ ปะทะกับ kiki เป็นคู่ที่ขับสนุกกันอีกคู่หนึ่งสำหรับการแข่งขันในวันนั้น คนที่ขับดีที่สุดทั้งรอบนำและรอบตามคือ นฤเบศร์ ที่สามาถขับได้อย่างคงเส้นคงวาและชนะผ่านเข้ารอบไป
ส่วนในคู่ชิงที่ 3 วัทนพร พบกับ ชัยยศ คู่นี้ขับได้อย่างดุเดือดและดีทั้งคู่ ไม่ว่าจะเป็นรอบนำและรอบตามทำให้ทั้งคู่ต้องแข่งใหม่กันอีกรอบ ในรอบแข่งใหม่นี้ วัทนพร แม้จะขับได้ดี แต่ทาง ชัยยศ นั้นขับได้นิ่งและไลน์สวยกว่า ประกอบกับความเร็วที่เร็วกว่าทำให้ชนะคว้าที่ 3 ไปครอง
ปิดท้ายของค่ำคืนวันเสาร์คู่ชิงที่ 1 นฤเบศร์ เจอกับ สรานนท์ สำหรับคู่นี้เจอกันกี่ครั้งก็สร้างความมันส์ได้ทุกครั้ง แม้ชื่อชั้นและฝีมือของสรานนท์จะน่าเกรงขามอยู่ไม่น้อย แต่ นฤเบศร์ หาได้ยี่หระแต่อย่างใด งัดขุมพลังที่มีทั้งหมดมาสู้กับ สรานนท์ อย่างถึงพริกถึงขิง ทั้งคู่โชว์ฟอร์มดีไม่มีตก ทำให้ต้องแข่งขันกันใหม่ แต่โดยรอบที่แข่งใหม่นั้น สรานนท์ โชว์ชั้นเชิงการขับได้ดีกว่า นฤเบศร์ จึงเฉือนเอาชนะรับที่ 1 ไปครอง
สรุปผลการแข่งขัน สนามแรก
ที่ 1 ได้แก่ สรานนท์
ที่ 2 ได้แก่ นฤเบศร์
ที่ 3 ได้แก่ ชัยยศ
ตื่นมาพบกับความสดใสของเช้าวันอาทิตย์ในสนามที่ 2
บรรยากาศวันนี้เหมือนจะเป็นใจ ไร้วี่แววกลุ่มเมฆดำแถมแสงจากดวงอาทิตย์ยังเจิดจรัส เป็นสัญญาณบ่งบอกถึงความมันส์อันสุดยอดที่กำลังบังเกิดแก่สายตาประชาชนในสนาม ในเรซนี้เริ่มทำการควอลิฟาย หารถเข้าทำการแข่งขันทั้งหมด 32 คัน เพื่อให้ผู้ชมสนุกแบบสุด…สุด เรียกได้ว่าให้เมาควันยางออกสนามกันไปเลย
ผมขอตัดมาที่รอบ 16 คันมีไฮไลท์กันมากมายเช่นกัน อย่างคู่นี้ระหว่าง เอส Goodyear เจอกับ ปอนด์ อยากจะบอกว่าต้องแข่งกันถึง 4 รอบ Battle ถึงจะรู้ผลแพ้ชนะ เรียกได้ว่าไม่มีใครยอมใคร ต้องเปลี่ยนยางใหม่ พร้อมเซอร์วิสกันชุดใหญ่ และผลที่ออกมาก็คือ เอส Goodyear โชว์พลังคลื่นลูกใหม่ไฟแรงเฉือนเอาชนะรุ่นพี่ด้วยฝีมือล้วนๆ ต้องบอกก่อนว่า เอส อายุเพียง 17 เป็นวัยรุ่นที่มีความสามารถไม่แพ้ผู้ใหญ่เลยก็ว่าได้ ซึ่งทาง Goodyear เล็งเห็นในจุดนี้ จึงให้การสนับสนุนมาร่วมในทีม Goodyear Racing Thailand และในขณะนี้ เอส ถือว่าเป็นนักแข่งที่อายุน้อยที่สุดในเอเชียเลยทีเดียว
มาชมต่ออีกคู่หนึ่งเป็นการเจอกันระหว่าง ใหม่ เจอกับ พัฒน์ “นิธิพัฒน์” Goodyear ใช้รถ Nissan Cefiro A31 เครื่องยนต์ SR 20 DET พร้อมยางสมรรถนะสูงอย่าง “Goodyear Eagle F1 Asymmetric” ส่งผลให้การแข่งเป็นไปอย่างดุเดือด คู่นี้ถือว่าขับได้ดีทั้งคู่เช่นกันทำให้ต้องแข่งกันถึง 3 รอบ Battle ทำเอาผู้ชมลุ้นจนตัวโก่ง จนในที่สุด พัฒน์ Goodyear โชว์ฝีมือในการควบคุมรถได้ดีกว่า เป็นฝ่ายชนะลอยลำเข้ารอบไปได้เป็นผลสำเร็จ
ก่อนจะไปชมรอบ 8 คัน ทาง Goodyearได้จัดกิจกรรมให้ผู้ชมลงมาร่วมสนุกกับบรรดา พริตตี้สาวสวยกว่า 40 ชีวิตจาก Goodyear ที่นำเกมส์สนุกๆ พร้อมแจกยางรถยนต์สมรรถนะสูงแก่ผู้ชมในสนามแบบไม่อั้นอีกด้วย
ไฮไลท์อีกหนึ่งอย่างในวันนี้คือมินิคอนเสิร์ตน่ารัก…น่ารักจากสาว…สาว G TWENTY ซึ่งออกมาโชว์ความ Sexy ให้ผู้ชมรอบสนามได้เพลิดเพลินไปกับความสดใส นอกจากนี้ยังมีของรางวัลจาก Goodyear และผู้สนับสนุนแจกให้ผู้ชมรวมมูลค่ากว่า 500,000 บาท
ที่สำคัญผมมองว่าการแข่ง Drift ที่ทางผู้จัดจัดขึ้นทำให้เกิดวัฒนธรรมใหม่ในการชมการแข่งขัน ที่สำคัญเกิด “ความสามัคคี” ภายในสนาม ผู้ชมจะช่วยสร้างสีสันโดยร่วมกันเล่น Wave เป็นคลื่นพลังที่สวยงามทั่วทั้งสนาม หรือหากผู้ชมคิดว่าคู่ที่แข่งขันมีคะแนนใกล้เคียงกันมาก จะช่วยกันตะโกนออกมาว่า “One More Time” เพื่อให้มีการแข่งใหม่อีกรอบ นับว่าเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ชมได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมอย่างแท้จริง นี้สิการพัฒนาของวงการมอเตอร์สปอร์ตไทย
มาเข้าเรื่องการแข่งบ้างดีกว่าคู่แรกระหว่าง Daniel เจอกับ โย ซึ่งคู่นี้ต้องแข่งกันถึง 3 รอบ Battle ถึงจะรู้ผลแพ้
ชนะ ซึ่งโยสามารถขับเก็บ Apex ได้ครบและขับไลน์ได้ดี Speed ก็สูงเรียกว่าครบสูตรทีเดียว แต่ Daniel จังหวะที่เป็นผู้ตามไม่สามารถไล่ให้ชิดได้มากนักเพราะ ไม่มี NOS แต่รถของโยใช้ NOS เรียกรอบในช่วงโค้งกว้างทำให้ Daniel จี้ติดยากมาก ทำให้โยผ่านเข้ารอบไป ต่อกันอีกคู่หนึ่งเป็นคู่กัดกันสุดมันส์ระหว่าง สมชาย เจอกับ สรานนท์ คู่นี้เจอกันกี่ทีก็สนุกมากๆ ผลัดกันแพ้ ผลัดกันชนะกันมา ในรอบที่สมชายตามรอบแรกรถเกิดเสียอาการทำให้หมุน ส่วนในรอบนำสามารถทิ้งห่างอย่างสบายๆ แต่คะแนนรวมกันสองรอบสรานนท์ดีกว่าทำให้ผ่านเข้ารอบไปตามระเบียบ
เพราะฉะนั้นคู่ชิงที่ 3 จึงเป็น kiki เจอกับ โย งานนี้ขับได้ดีทั้งคู่ไม่ว่าจะเป็นรอบนำหรือรอบตาม ซึ่งขับไม่มีข้อเสียเลยทั้งไลน์ทั้งความเร็ว ทำให้ต้องแข่งกันใหม่อีก 1 รอบ Battle ในรอบนี้ kiki สามารถหนี โย ได้และรอบที่ kiki ตามสามารถตามได้ชิดโยมากๆ ทำให้คะแนนรวมสองรอบ kiki คว้าอันดับ 3 ไปนอนกอดสบายๆ
คู่ชิงที่ 1 นับว่าเป็นคู่ที่น่าจับตามองเป็นอย่างยิ่ง เป็นการพบกันระหว่างหนุ่มน้อยหน้าใสแต่ฝีมือเข้าขั้นระดับเทพ น้องเอส “ชนะพล เกิดเปี่ยม” Goodyear พบกับจ้าวยุทธจักรอย่าง สรานนท์ รอบแรกนั้นสรานนท์ขับหนีน้องเอส Goodyear ไปแบบไม่คิดชีวิต แต่มีหรือนักสู้ฟันน้ำนมอย่างเอส จะยอม จึงรีบเร่งสปีดเข้ากระชับวงล้อมประชิดบั้นทายของสรานนท์ได้สำเร็จ ส่วนรอบที่สรานนท์เปลี่ยนเป็นฝ่ายตามนั้นได้อาศัยชั้นเชิงระดับเทพทิ้งห่าง เอส ได้เป็นผลสำเร็จ แม้เอสจะขับได้ดีไม่มีพลาด แต่ด้วยเครื่องยนต์ที่ค่อนข้างเป็นรองประกอบกับประสบการณ์อันน้อยกว่าสรานนท์ ซึ่งมีประสบการณ์มากว่าเป็นสิบๆ ปี น้องเอส จึงรับที่สองเป็นครอง แต่ก็สามารถเรียกใจและเสียงปรบมือจากผู้ชมได้ทั้งสนาม ส่วนอันดับหนึ่งตกเป็นของเดอะแชมป์ อย่าง สรานนท์ ที่สามารถโชว์ความเก๋าเกมส์รับถ้วยรางวัลชนะเลิศไปครองได้เป็นผลสำเร็จ
สรุปผลการแข่งขันสนามที่ 2
ที่ 1 สรานนท์
ที่ 2 “เอส” ชนะพล Goodyear
ที่ 3 กีกี้ ศักดิ์ นานา
ความเร้าใจแบบนี้คุณสามารถสัมผัสอีกครั้ง ในรายการ GOODYEAR INTERNATIONAL DRIFT SERIES 2010 สนาม 3-4 วันที่ 18-19 กันยายน ที่ Wonder World Park รามอินทราครับ ทาง Goodyear กระซิบมาว่ามีของรางวัลเด็ดๆ แจกรวมมูลค่ากว่า 500,000 บาท พร้อมกิจกรรมแสนสนุกเตรียมไว้แก่ท่านผู้ชมมากมายเลยทีเดียว บัตรเข้าชมราคา 150 บาทต่อการแข่งขัน 1 รอบ ผู้ที่สนใจสามารถจองตั๋วได้ทาง www.thaiticketmajor.com ครับ
{phocagallery view=category|categoryid=112|limitstart=0|limitcount=0}