รีวิว : HONDA Brio ( ฮอนด้า บริโอ้ ) ECO CAR ใน ราคา เริ่มต้น 399,900 บาท

ในที่สุดบริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ก็ปล่อยไม้เด็ดเล่นกับรถ ECO CAR คลอดน้องคนเล็ก HONDA Brio ( ฮอนด้า บริโอ้ ) ออกมาให้คนไทยยลโฉมเมื่อกลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ในราคาเริ่มต้นที่โดนใจใครหลายคน 399,900 บาท พร้อมพรีเซ็นเตอร์ทั้งสวย ทั้งหล่อ และที่สำคัญเป็นหนุ่มสาวที่กำลังอยู่ในกระแสนิยมของวัยรุ่นในบ้านเรา แล้วเมื่อ 28 เมษายน ที่ผ่านมา ฮอนด้า จัดการทดสอบเต็มรูปแบบ ณ จังหวัดเชียงราย ในแก่สื่อมวลชนได้สัมผัสกัน

 

มุ่งหน้าสู่จังหวัดเชียงราย

คณะสื่อมวลชนเดินทางกันตั้งแต่เช้าตรู่ มุ่งหน้าสู่จังหวัดเชียงราย โดยเริ่มการทดสอบกันที่โรงแรมเลอเมอริเดียน เชียงราย เพื่อฟังบรรยายถึงตัวผลิตภัณฑ์ Brio ซึ่งออกมาเพื่อตอบสนองความต้องการด้านไลฟ์สไตล์ของคนเมือง ที่มองหารถที่มีรูปลักษณ์โดดเด่น สะดุดตา ขนาดกะทัดรัด แต่ให้ความรู้สึกกว้าง โปร่งสบาย และประหยัดน้ำมัน

 

HONDA Brio

โดย HONDA  Brio มีให้เลือกสองรุ่น S กับ V ซึ่งทั้งคู่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ i-VTEC 4 สูบ ความจุ 1.2 ลิตร ที่ให้พลัง 90 แรงม้า สามารถใช้น้ำมันเชื้อเพลิง E20 ปล่อยไอเสียสะอาดตามเกณฑ์มาตรฐานยูโร-4 และตัวถังยังผ่านมาตรฐานความปลอดภัยจากการทดสอบการชนทั้ง ด้านหน้าและด้านข้างตามที่ระบุโดย UNECE 94 และ 95 ตามลำดับ ในส่วนของระบบส่งกำลัง HONDA  Brio มีทั้งแบบธรรมดาและอัตโนมัติทั้งในรุ่น S และ รุ่น V ขณะที่เกียร์อัตโนมัติแบบ CVT จะมีเฉพาะในรุ่น V

 

เทคโนโลยีความปลอดภัย

พร้อมด้วยติดตั้งเทคโนโลยีความปลอดภัยทั้งแบบเชิงป้องกันและเชิงรับ อาทิ ระบบเบรคป้องกันล้อล็อค (ABS) ซึ่งช่วยป้องกันล้อล็อคขณะเบรคกะทันหัน และช่วยให้คนขับยังสามารถควบคุมทิศทาง ของรถได้อย่างปลอดภัย ระบบกระจายแรงเบรคอิเล็กทรอนิกส์ EBD) ถุงลมคู่หน้า พร้อมโครงสร้างตัวถังเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ออกแบบมาให้กระจายแรงกระแทกจากการชน เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและความมั่นคงให้แก่ ตัวถังรถในขณะเดียวกัน และเข็มขัดนิรภัยชนิดปรับความตึงอัตโนมัติ พวงมาลัยเพาเวอร์ไฟฟ้า (EPS) ที่นั่งหลังพับเก็บได้ ไฟสัญญาณประหยัดเชื้อเพลิง ECO ระบบล็อกป้องกันเด็ก กุญแจ WAVE ระบบ Immobilizer และไฟเบรคดวงที่สามแบบ LED

 

เครื่องยนต์

หลังจากที่ฟังบรรยายเรียบร้อย คณะสื่อมวลชนพร้อมทั้ง iAMCAR ก็เริ่มทำการทดสอบในช่วงแรกเป็นระยะทางร้อยกว่ากิโลเมตร โดยใช้เส้นทางจากโรงแรมมุ่งหน้าสู่ “ดอยตุง” แล้ววนกลับมาที่โรงแรม ซึ่งระหว่างทางการทดสอบจะเป็นเส้นทางหลายสถานการณ์ทั้งทางตรงยาวๆ ขึ้นลงเขาชันๆ ทางโค้งแบบสุดคดเคี้ยว และโค้งกว้างใช้ความเร็วสูง โดยใช้ HONDA  Brio V เกียร์ CVT ผมเริ่มออกเดินทางด้วยการขับแบบชิวๆ ใช้ความเร็วสัก 80 กม./ชม. จะมีไฟ ECO สีเขียวขึ้นที่เรือนไมล์ บ่งบอกถึงว่าอยู่ในช่วงความเร็วและรอบเครื่องที่ประหยัดน้ำมันมากๆ สักพักอดรนทนไม่ไหวขอใช้ผิดประเภทเล็กน้อย เรียกสมรรถนะออกมาเต็มที่ ในช่วงต้นๆ ความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ถือว่าเป็นเครื่องยนต์ 1.2 ลิตรที่เยี่ยม ขึ้นเร็วมาก ช้ากว่าเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร เล็กน้อยจริงๆ จาก 100-145 กม./ชม. ยังถือว่าทำได้ดีรวดเร็ว แต่ความเร็วดันมาหยุดที่ 145 กม./ชม. เพราะมีการล็อคเอาไว้ ซึ่งวิศวกรจากญี่ปุ่นให้เหตุผลว่าเป็นความเร็วที่เหมาะสมกับรถยนต์ที่ใช้ในเมือง (ECO CAR) ไม่ควรจะเร็วไปกว่านี้ แต่ว่าทางวิศวกรญี่ปุ่นก็กล่าวไว้ว่า ถ้าลูกค้าชาวไทยมีความต้องการความเร็วที่มากกว่านี้เป็นจำนวนมากๆ ก็ยินดีจะปลดให้ ฉนั้นวัยแรงอย่างเราก่อนจะซื้อก็แจ้ง HONDA กันเยอะๆ ว่าช่วยปลดล็อคให้ด้วย แต่ขอกระซิบว่า “เครื่อง 1.2 ลิตรตัวนี้แรงจริง” ส่วนเรื่องการประหยัดผมไม่ได้ทดสอบด้วยตัวเอง จริงๆ ทั้งๆที่เค้ามีตัวประมวลอัตราการบริโภคน้ำมันดิจิตอลที่เรือนไมล์ แต่ยอมรับเลยครับ ผมขับมันส์ไปหน่อยเลยม่ได้ดูครับ แต่วิศวกรญี่ปุ่นบอกว่าทำได้ดีที่สุด 21 กม./ลิตร การใช้งานปกติอยู่ที่ 17 กม./ลิตร

 

ช่วงล่าง

มาทดสอบกันต่อในส่วนของช่วงล่าง HONDA  Brio ใช้ระบบกันสะเทือนหน้าอิสระแม็กเฟอร์สันสตรัต พร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลังคานบิดทอร์ชั่นบีมทรงตัว H และยางขนาด 175/65 R14 ซึ่งเป็นยางแนวประหยัดน้ำมันตามคอนเซ็ปต์ตัวรถ ซึ่งการทดสอบช่วงล่างในทางโค้งต่างๆ บน “ดอยตุง” ซึ่งมีอุปสรรค์อย่างมาก เช่น สายฝนที่พร้อมใจกันตกลงมาแบบไม่ได้รับเชิญให้มาร่วมการทดสอบ ซึ่งทำให้ผมต้องเรียกสมรรถนะของรถออกมามากกว่าเดิม ตั้งแต่การทรงตัวในทางตรงในช่วงความเร็ว 100-120 กม./ชม. สบายๆไว้ใจได้ ผ่านถนนที่เป็นคลื่นต่างๆ หลุมเล็กๆน้อยๆผมถือว่าช่วงล่างนิ่มนวลดีทีเดียว ในช่วงโค้งกว้างๆ ที่ใช้ความเร็วสูงๆ น้ำหนักพวงมาลัยที่เบาอาจจะทำให้เสียวนิดหน่อย แต่การใช้ความเร็วของผมเกิน 120 กม./ชม. ซึ่งถือว่าเกินที่กฎหมายกำหนด ถ้าใช้ความเร็วที่กำหนด Brio ผ่านโค้งได้สบาย..สบายแน่นอน ส่วนในโค้งแคบๆ บนดอยบวกกับความลื่นของถนนที่ฝนตกหนัก ทำได้ดีครับเข้าโค้งได้สนุก ปลอดภัย เรียกได้ว่าผมไล่แซงรถทุกคันที่ขึ้นลงดอยแบบสบายๆ กำลังเครื่องยนต์ก็เพียงพอกับการแซง เรียกได้ว่าอยู่ในระบบที่วางใจได้ทั้งเครื่องยนต์และช่วงล่าง

 

ดีไซน์ภายใน

ส่วนเรื่องของการดีไซน์ภายในเน้นความกว้างขวาง การดีไซด์แบบเรียบง่าย  แต่โดนใจวัยรุ่นอย่างเราๆ ภายใน มีอุปกรณ์ต่างๆ มาให้ครบครัน แต่ที่ผมชอบที่สุดคงเป็นเบาะที่นั่งคู่หน้า ที่โอบกระชับ ตำแหน่งการพิงศรีษะเยี่ยม นั่งสบาย การดีไซน์สวยงาม

 

หลังทดสอบในรุ่น V หรือ เกียร์ CVT เสร็จ ก็มาเปลี่ยนมาเป็นรุ่นเกียร์ธรรมดา ต้องบอกว่าผมไม่ได้ทดสอบมากนัก เพราะระยะการทดสอบสั้นเพียง 30 กม./ชม. และก็เป็นในตัวเมือง จ.เชียงราย แถมผมยังเจอรถติดๆอีก ไปได้แค่เกียร์ 1-3 เลยตอบท่านผู้อ่านได้ยาก เอาเป็นว่าคลัทช์นิ่มนวล การเข้าเกียร์ง่าย ขับสบายแม้การจราจรติดขัด

 

สุดท้ายขอบคุณ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ที่ให้เรา iAMCAR VARIETY E-MAGAZINE & www.iamcar.net  ที่ให้เราได้สัมผัสกับยนตกรรมดี..ดี ครับ แต่น่าเสียดายที่ภัยพิบัติในญี่ปุ่นทำให้ HONDA ต้องยืดระยะการส่งมอบรถออกไปครับ แต่ถ้าใครสนใจก็ลองไปชมกันที่โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศครับ “ของดีก็ต้องรอกันหน่อยครับ”

 


บทความแนะนำ

Grand Opening HONDA  Brio Amaze

HONDA  Brio Preview

HONDA  Brio V-CVT

แท็กยี่ห้อรถยนต์ : Honda

แท็กฮิต : , , , , , ,