รีวิว : PROTON Exora ( โปรตอน เอ็กซ์โซร่า ) MPV 7 ที่นั่ง ราคา ประหยัด
สำหรับครอบครัวใหญ่ที่รักการท่องเที่ยว รถแบบอเนกประสงค์ MPV 7 ที่นั่ง เหมาะมากๆ ครับ สำหรับการเดินทาง แต่เรื่องราคาของรถประเภทนี้มันเป็นปัญหามากเหลือเกินในการซื้อหามาใช้งาน เพราะส่วนใหญ่ราคาหลักล้านทั้งสิ้น ฉบับนี้ผมเลยไปหา MPV 7 ที่นั่ง ราคา ประหยัด PROTON Exora ( โปรตอน เอ็กซ์โซร่า ) มาลองทดสอบให้ชมกันครับ
แม้ราคาจะประหยัด แต่ความหรูยังมีไม่น้อย
จริงๆ แล้วผมได้ทดสอบรถยนต์ PROTON Exora ไปแล้วครั้งหนึ่งเมื่อไม่นานนี้ แต่ทาง PROTON ได้ส่ง Exora BASE LINE มาใหม่ซึ่งออกมาเพื่อเอาใจผู้บริโภคที่มองราคาเป็นหลัก เพราะเปิดราคามาถูกมากๆ แต่ก็มีการลดออฟชั่นบางตัวลงไปเล็กน้อย ผมจึงอยากลองทดสอบดูว่าสิ่งที่หายไป จะทำให้คุณภาพของตัวรถลดลงไปหรือไม่
ฉะนั้นก็อย่าให้ค้างคาใจ ผมจึงทำการยกหูโทรศัพท์ไปขออนุญาติยืม Exora BASE LINE มาทดสอบกันเลย แล้วก็เป็นโชคร้ายเล็กๆ ของ iAMCAR VARIETY E-MAGAZINE เพราะช่วงที่ยืมเกิดเหตุน้ำท่วมพอดี ผมเลยต้องมารับรถทดสอบอีกทีในช่วงหลังปีใหม่ จึงต้องมาทดสอบให้ชมกันในฉบับนี้
รูปลักษณ์ภายนอก
เริ่มด้วยรูปลักษณ์ภายนอกเรื่องความหรูหรา พร้อม Aerodynamics ที่ลดค่า cd. ต่ำเพียง 0.33 ซึ่งสามารถลดแรงปะทะของลมได้ดี เพราะรถยนต์ในรูปแบบของ MPV มักจะมีส่วนที่ต้านลมอยู่ค่อนข้างมาก ยิ่งมีลมต้านน้อยเท่าไรจะทำให้ตัวรถไปข้างหน้าได้เร็วขึ้น ประหยัดน้ำมันมากขึ้นด้วยในจุดนี้ยังมีอยู่
แต่ว่าสิ่งที่หายไปจะเป็นไฟตัดหมอกคู่หน้า ส่วนกระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวแบบ LED ยังมีอยู่แต่จะเป็นสีดำด้านๆ แทน แม้จะมีการเอาอุปกรณ์ภายนอกออกไปบ้าง แต่ก็ไม่มีผลกับความสวยงามของตัวรถสักเท่าไร จะมีก็สีดำของกระจกมองข้างที่ดูขัดสายตาไปนิดเท่านั้นเอง
พื้นที่ใช้สอยมีเหลือเฟือ
เปิดประตูเข้าไปชมภายในพร้อมๆ กันครับ ผมจะไล่จากที่คอนโซลหน้าก่อน ในเรื่องของการออกแบบก็ลงตัวดีครับ ผมไล่จากฝั่งคนนั่งมีช่องเก็บของ 2 ช่องใหญ่ พร้อมอุปกรณ์ที่ใส่ใจคนไทยมากๆ เป็นตัวแขวนถุงที่อยู่ข้างช่องเก็บของด้านล่าง สามารถเก็บได้ไม่เกะกะ ขยับมาที่คอนโซลกลางผมไล่จากบนสุดเป็นนาฬิกาแบบดิจิตอล แล้วก็ช่องแอร์ ไฮไลท์ของกลางคอนโซลเป็นเครื่องเสียงแบบ Single CD / MP3 / WMA ลงมาเป็นปุ่มเปิดไฟฉุกเฉิน ต่อมาเป็นระบบเปิด-ปิดระบบปรับอากาศของช่วงด้านหน้า สุดท้ายเป็นตำแหน่งของด้ามเกียร์ที่ใช้สไตล์แบบขั้นบันไดตามสไตล์รถหรู
พวงมาลัย
มาต่อกันที่พวงมาลัยเป็นแบบสามก้าน พร้อม Airbag แต่ที่ขาดหายไปจากตัว TOP คือ ฟังค์ชั่นควบคุมระบบโทรศัพท์ ฟังค์ชั่นควบคุมเครื่องเสียง และระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control System) ส่วนที่หลังพวงมาลัยมีก้านเปิดไฟและที่ปัดน้ำฝนตามปกติ เรือนไมล์เป็นมาตราวัดแบบเรืองแสง ที่ตัวความร้อนเครื่องยนต์ วัดปริมาณน้ำมันในถัง พร้อมตัวคำนวนระยะทางน้ำมันในถังจะวิ่งได้เป็นกิโลเมตร ทั้งหมดเป็นแบบดิจิตอล คราวนี้มาดูส่วนเบาะนั่งบ้างมีให้ทั้งหมด 7 ที่นั่ง แถวที่ 2 และ 3 สามารถปรับการใช้ง่ายได้หลากหลายรูปแบบมาก และที่สำคัญมีระบบปรับอากาศให้แถวที่ 3 ด้วย โดยมีปุ่มเปิดอยู่ที่บนเพดาน
มาลองสัมผัสกับอุปกรณ์ต่างๆ ดีกว่าพวงมาลัย กับทัศนวิสัยการขับขี่อันนี้ดีครับ เบาะนั่งของคนขับกว้างนั่งสบาย แต่เวลาขับมันจะลื่นไปนิด อุปกรณ์ต่างๆ อยู่ในตำแหน่งใช้งานง่าย โดยรวมดีครับ
1.6 ลิตร “CAMPRO” เดินทางสบายๆ
สตาร์ทเครื่องออกเดินทางทดสอบดีกว่า เครื่องยนต์ที่อยู่ใน PROTON Exora เป็นบล็อคเดียวกับที่อยู่ในรุ่นอื่นๆ ของ PROTON พิกัด 1.6 ลิตร คือ CamPro 4 สูบ DOCH 16 วาล์ว พร้อมระบบวาล์วแปรผัน CPS และท่อไอดีแปรผัน VIM กับแรงม้าสูงสุด 125 แรงม้า ผมใช้เส้นทางการทดสอบกรุงเทพฯ-พัทยา เรื่องอัตราเร่งถ้าดูจากน้ำหนักตัวรถ 1,442 กก.มาหารกับแรงม้า 125 แรงม้า มันก็ดูน้อยไปหน่อยสำหรับแรงม้า แต่อัตราเร่งก็พอสำหรับการเดินทาง วิ่งความเร็วคงที่สัก 100-120 กม./ชม. ก็ยังใช้ได้อยู่ กดคันเร่งเพื่อหา Top Speed ก็สามารถทำได้ที่ 165 กม./ชม. แต่อาจจะไม่ได้ขึ้นได้รวดเร็วมากมายนัก มันเป็นรถที่เหมาะแก่การเดินทางแบบสบายๆ มากกว่า แต่ในตัว นี้สามารถทำความเร็วได้ดีกว่าตัว TOP อยู่ 5 กม./ชม. ซึ่งน่าจะเป็นเพราะน้ำหนักตัวถังที่น้อยลง ระบบส่งกำลังแบบอัตโนมัติแบบ 4 สปีดถือว่าทำงานได้ดีราบเรียบดีครับ จะมีบ้างช่วงถอนคันเร่งที่เกียร์จะช่วยเปลี่ยนลงเอง อาจจะทำให้หน่วงๆ บ้างนิดหน่อย แต่ก็เป็นเรื่องของความปลอดภัยทำให้เราเบรกได้ง่ายขึ้น
อัตราการบริโภคน้ำมัน
เรื่องอัตราการบริโภคน้ำมันผมใช้ระยะการทดสอบ 235 กม./ชม. ใช้เงินเติมน้ำมันไป 640 บาท (แก๊สโซฮอล 91 ราคาลิตรละ 35.51) ความเร็วเฉลี่ย 100 กม./ชม. แต่ด้วยอัตราทดของเกียร์รอบเครื่องยนต์จึงดูสูงมาก ถ้าจะขับให้ประหยัดน้ำมันน่าจะใช้ความเร็วในการเดินทางประมาณ 80-90 กม./ชม. จะประหยัดกว่าครับ อีกอย่างคันนี้ใช้น้ำมัน E20 ได้นะครับ
เด่นที่สุดช่วงล่างจาก LOTUS
ระบบช่วงล่างเวลาเดินทางถือได้ว่านิ่มนวล ขับสบายๆ การตอบสนองของพวงมาลัยทำได้ชับไว้ เปลี่ยนเลนก็คล่องตัวใช้ได้ แม้ความเร็วทางตรง 165 กม./ชม. ก็ยังนิ่งอยู่มากครับขับแล้วรู้สึกมั่นใจดี แต่ในทางโค้งแคบๆ หักเลี้ยวเยอะๆ มันเป็นปัญหาของรถรูปแบบนี้เกือบทุกยี่ห้อ มักจะเข้าโค้งไม่ค่อยดี แม้ PROTON จะโดดเด่นในเรื่องของช่วงล่างเกือบทุกรุ่นที่ผมทดสอบมา แต่ Exora ด้วยความสูงของรถที่มีมาก ทำให้เวลาเข้าโค้งมีอาการอยู่บ้างครับ แต่ก็ไม่ได้น่ากลัวอะไรมากนัก ถ้าใช้ความเร็วปกติของการเดินทาง ตามถนนหลวงทั่วไปก็เดินทางแบบสบายๆ ครับ ส่วนที่หายไปอีกอย่างคือระบบเบรก ABS แต่ผมลองใช้งานบนถนนแห้งๆ ยังถือว่าใช้งานได้ดีวางใจได้ในเรื่องของเบรก แต่ถ้าถนนเปียกเวลาขับด้วยความเร็วสูดจะต้องเบาความเร็วลงนิด เพราะบ้างทีอาจจะเกิดอาการท้ายปัดบ้างเวลาเหยียบเบรกแรงๆ
ราคา 699,000 บาท ในรุ่น BASE LINE แม้จะมีการเอาอุปกรณ์ออกไปบ้าง แต่คุณค่าของรถสไตล์รถอเนกประสงค์ MPV 7 ที่นั่ง กับรูปลักษณ์ที่หรูหรา ยังมีให้อยู่ครบครัน ซึ่งผมถือว่าในราคาเท่านี้กับสิ่งที่ได้มาก็สมเหตุสมผลครับ ลองพิสูจน์ด้วยตัวเองทุกโชว์รูมของ PROTON ครับ