“SUZUKI CELERIO Eco Champion” ขับเคี่ยวสุดเข้มข้น ชาวภาคอีสานร่วมสร้างสถิติใหม่เซอร์ไพร์สได้อีก

โพสต์เมื่อ 25 กุมภาพันธ์ 2015 เวลา 10:40 น. หมวดหมู่: ข่าวประชาสัมพันธ์ โดย ป๋าซุ่ม..ขยุ้มหัวใจ

iamcar_suzuki_celerio_eco_champion

บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำตลาดรถยนต์อีโคคาร์ นำโดย มร. ทาคายูคิ ซูกิยามา กรรมการผู้จัดการใหญ่ และ คุณวัลลภ ตรีฤกษ์งาม ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด ร่วมกับ ดร.พงษ์ศักดิ์ สกุลคู ประธานกลุ่ม บริษัท เจียง อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ยังคงเดินหน้าจัดการแข่งขัน “SUZUKI CELERIO Eco Champion” เพื่อเฟ้นหาสุดยอดผู้ใช้งานจริงจากกลุ่มลูกค้าซูซูกิ เซเลริโอ้ทั่วประเทศ ที่สามารถสร้างสถิติการขับประหยัดน้ำมันด้วยค่าเฉลี่ยอัตราการใช้เชื้อเพลิงที่ต่ำที่สุด โดยเน้นการขับจริง บนสภาพการจราจรปกติ ด้วยระยะทางการแข่งขันประมาณ 50 กิโลเมตรและกำหนดเวลาการเดินทาง 1 ชั่วโมง 20 นาที

โดยใช้รถยนต์ ซูซูกิ เซเลริโอ้ เครื่องยนต์มาตรฐานจากโรงงาน ปราศจากการปรับแต่งใด ๆ ทั้งสิ้น ซึ่งการแข่งขันประจำภาคอีสานครั้งนี้จัดขึ้นที่จังหวัดอุดรธานี โดยมีผู้เข้าแข่งขันจากจังหวัดใกล้เคียงเข้าร่วมการแข่งขัน นอกจากบรรดาผู้เข้าแข่งขันจะนำทักษะการขับขี่แบบประหยัดน้ำมันที่ถูกต้องมาใช้อย่างถูกวิธีแล้ว ยังดึงเทคนิคต่าง ๆ ที่ช่วยเสริมความประหยัดมาใช้ในการแข่งขันอีกด้วย ซึ่งผู้เข้าแข่งขันแต่ละท่านก็งัดกลยุทธ์เคล็ดลับมาใช้กันอย่างสุดฝีมือ ทำให้เมื่อคำนวณอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยจากผู้เข้าแข่งขันทั้งหมดแล้วสามารถสร้างสถิติได้สูงถึง 79.93 กิโลเมตร/ลิตร ทำลายสถิติในภูมิภาคแรกไปอย่างขาดลอย
 

สำหรับผู้ที่สามารถสร้างสถิติอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงได้ดีที่สุด คว้าตำแหน่งผู้ชนะเลิศรอบภูมิภาคประจำภาคอีสาน ได้แก่ คุณพิชัยยุทธ นาพิสาร ส่วนอันดับที่ 2 ได้แก่ คุณวันชัย กันหาทอง อันดับที่ 3 ได้แก่ คุณกัลยา ทองอนันติวงศ์ตามลำดับ และในครั้งนี้ยังได้รับเกียรติจาก มร.ทาคายูคิ ซูกิยามา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมพิสูจน์สมรรถนะด้วยตนเอง และสามารถทำสถิติได้ถึงอันดับ 2 ของผู้เข้าแข่งขันทั้งหมด แต่ทำการสละสิทธิ์การรับรางวัลให้แก่ผู้เข้าแข่งขันในลำดับถัดไป คุณพิชัยยุทธ นาพิสาร ได้เปิดเผยกลยุทธ์ในการพิชิตตำแหน่งผู้ชนะเลิศในการแข่งขัน SUZUKI CELERIO Eco Champion ว่า “ตัวรถที่ใช้แข่งขันนั้นไม่ได้ทำการดัดแปลงอะไรเลย เซททุกอย่างตามกฎของการแข่งขัน ที่เหลือคือใช้ทักษะแต่ทำการปิดแอร์ เปิดกระจกขับด้วยเพื่อเสริมความประหยัดซึ่งเป็นเทคนิคปกติ พยายามขับให้ความเร็วคงที่ 60 กม./ชม. เมื่อเจอแยกไฟแดงก็ชะลอคำนวณจังหวะให้ผ่านพ้นไปได้พอดี จุดนี้นับว่าเป็นความท้าทายและเพิ่มความสนุกให้กับการประลองในเกมส์การแข่งขันครั้งนี้มากครับ”

และด้วยสถิติที่สูงขึ้นจนน่าตื่นเต้นในครั้งนี้ ถือเป็นสถิติที่ยิ่งท้าทายผู้เข้าแข่งขันในภูมิภาคถัดไปมากขึ้นเรื่อย ๆ ว่าจะมีใคร ที่สามารถนำเทคนิคการขับขี่ประหยัดน้ำมัน มาสร้างสถิติใหม่เซอร์ไพร์สวงการการแข่งขันได้อีกหรือไม่ โดยผู้ชนะทั้งสามอันดับของทุกภูมิภาคจะได้เป็นตัวแทนไปท้าชิงเงินรางวัล 100,000 บาท ในรอบชิงชนะเลิศระดับประเทศต่อไป

ผู้ที่สนใจอยากร่วมท้าทาย สร้างสถิติใหม่ให้การแข่งขันนี้ หรือท่านที่พลาดโอกาสไปจาก 2 ภูมิภาคแรก และต้องการลงชิงชัยเพื่อก้าวเข้าสู่การเป็นตัวแทนภูมิภาคอีกครั้ง โอกาสร่วมท้าชิงตำแหน่งเจ้าแห่งความประหยัดน้ำมัน พร้อมเงินรางวัล 100,000 บาท ยังรออยู่อีก 5 สนามด้วยกันโดยจังหวัดที่เป็นเจ้าภาพในแต่ละภูมิภาค มีดังนี้

– วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2558 จังหวัดเชียงใหม่(ณ โชว์รูม อริยกิจ จี พี)

– วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2558 จังหวัดนครสวรรค์(ณ โชว์รูม เควิน มอเตอร์)

– วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2558 จังหวัดระยอง(ณ โชว์รูม สยามอินเตอร์ ซูซูกิ)

– วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2558 จังหวัดนครราชสีมา(ณ โชว์รูม คลังโอโตโมบิล)

– วันที่ 1 มีนาคม 2558 จังหวัดกรุงเทพฯ (ณ โชว์รูม ซูซูกิ นวนคร)

รอบชิงชนะเลิศ : วันที่ 7 มีนาคม 2558 เส้นทางการแข่งขัน ณ เขาใหญ่

สำหรับผู้ที่สนใจร่วมกิจกรรมแข่งขันขับประหยัดน้ำมัน Suzuki Celerio Eco Champion ที่อาศัยอยู่ในจังหวัดดังกล่าว หรือจังหวัดใกล้เคียงยังสามารถติดต่อขอรับใบสมัคร เพื่อร่วมชิงชัยได้ตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2558 ณ ตัวแทนจำหน่ายซูซูกิ ทั่วประเทศ ใกล้บ้านท่านหรือติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมและดาวน์โหลดใบสมัครที่ www.suzuki.co.th และส่งใบสมัครด้วยตนเองที่ [email protected]

เงินรางวัลสำหรับการแข่งขันระดับภูมิภาค (7 จังหวัด)

– ผู้ชนะเลิศระดับภาค : รางวัลเงินสด 10,000บาท

– ผู้ชนะอันดับ 2 : บัตรเติมน้ำมันมูลค่า 3,000 บาท

– ผู้ชนะอันดับ 3 : บัตรเติมน้ำมันมูลค่า 2,000 บาท

ระดับประเทศ

– ผู้ชนะเลิศอันดับ 1 : เงินรางวัลจำนวน 100,000 บาท

– ผู้ชนะอันดับ 2 : เงินรางวัลจำนวน 50,000 บาท

– ผู้ชนะอันดับ 3 : เงินรางวัลจำนวน 30,000 บาท