รีวิว Mercedes-Benz SUV Driving Events 2016 ยกขบวนมาให้สัมผัส เช่น Mercedes-Benz GLS 350d 4MATIC AMG Premium

หลังจากที่ บริษัท เมอร์เซเดส – เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัวรถยนต์ในกลุ่มอเนกประสงค์ SUV หลายรุ่น ซึ่งสามารถขยายตลาดเพิ่มยอดขายในกลุ่มรถ SUV ได้ตามความคาดหมาย จึงตอกย้ำวิสัยทัศน์ความเป็นผู้นำนวัตกรรมยานยนต์ ด้านความปลอดภัย เดินหน้าสานต่อกิจกรรมฝึกอบรมเทคนิคการขับขี่ปลอดภัยครั้งที่ 13 “ Mercedes-Benz Driving Events 2016 ” พร้อมยกทัพยนตรกรรมเอสยูวีระดับพรีเมี่ยม เช่น Mercedes-Benz GLS 350d 4MATIC AMG Premium ให้ลูกค้าและสื่อมวลชนได้สัมผัสกับระบบและฟังก์ชั่นการใช้งานในแบบ Off Road เต็มรูปแบบ ณ บ้านบันยัน จ.ประจวบคีรีขันธ์

 

Mercedes-Benz Driving Events 2016

เพื่อที่จะนำเสนอ “สิ่งที่ดีที่สุด” ให้กับลูกค้าทาง Mercedes-Benz จัดเต็มนำยนตกรรมในกลุ่ม SUV ครบทั้งพอร์ทโฟลิโอจำนวนรวมกว่า 15 คัน ได้แก่ Mercedes-Benz GLS 350 d 4MATIC AMG Premium, Mercedes-Benz GLE 350 d 4MATIC Coupé AMG Dynamic, Mercedes-Benz GLE 500 e 4MATIC AMG Dynamic, Mercedes-Benz GLE 500 e 4MATIC Exclusive, Mercedes-Benz GLC 250 d 4MATIC AMG Dynamic, Mercedes-Benz GLC 250 d 4MATIC OFF-ROAD และ Mercedes-Benz GLA 250 AMG Dynamic มาให้ทดสอบสมรรถนะ พร้อมเชิญทีมครูผู้ฝึกสอนมากประสบการณ์จากประเทศออสเตรเลียร่วมสอนเทคนิคการขับขี่ปลอดภัย เพื่อพัฒนาทักษะการขับขี่ให้กับลูกค้าและสื่อมวลชน ได้มีความรู้ความเข้าใจ ในเรื่องสมรรถนะของ Mercedes-Benz รวมถึงการทำงานของระบบความปลอดภัยต่างๆ ที่จะเป็นประโยชน์แก่ผู้ขับขี่ในการช่วยเหลือตนเองและบุคคลรอบข้างในกรณีที่ เกิดเหตุคับขันเพื่อช่วยลดความรุนแรงที่อาจจะเกิดขึ้นได้อีกทางหนึ่ง

 

ในการฝึกอบรมเทคนิคการขับขี่ครั้งนี้ ทาง Mercedes-Benz จัดเตรียมสนามทดสอบเอาไว้ มีทั้งหมด 3 ฐานด้วยกัน ซึ่งแต่ละฐานจะมีวัตถุประสงค์ในการทดสอบสมรรถนะรถยนต์ที่แตกต่างกันออกไป โดยจะเน้นทักษะการควบคุมคันเร่งและเบรกของผู้ขับขี่เป็นหลัก โดยฐานแรกเป็นการทดสอบการทำงานของระบบ 4MATIC ด้วยการขับขึ้นโครงเหล็กที่ถูกออกแบบมาเพื่อการขับขี่ที่ท้าทาย การทดสอบครั้งนี้ผมใช้ Mercedes-Benz GLC 250 d 4MATIC ในการอบรม ซึ่งการขับทำได้ด้วยความง่ายดาย ถ้าเรามองจากด้านนอกจะเห็นล้อรถลอยสูงมากๆ ตะแคงข้างเหมือนจะคว่ำ แต่ในรถชิวมาก ใช้แตะคันเร่งเบาๆ ควบคุมเบรกเล็กน้อยที่เหลือให้ระบบทำงานเอง เราก็สามารถผ่านได้ไม่ยาก ต่อมาเป็นการจำลองสถานการณ์การขับขี่ขณะลุยน้ำที่มีระดับสูง เพื่อให้ผู้ขับได้เรียนรู้วิธีการรับมือสถานการณ์คับขันที่ต้องอาศัยทั้งเทคนิคการขับเฉพาะตัวและการรักษาระดับความ เร็ว ให้คงที่ควบคู่กัน ซึ่งในจุดนี้ก็ไม่ยากเพียงลงไปในแอ่งน้ำช้าๆ พอหน้ารถถึงน้ำอย่าเบรกจนรถหยุดค่อยๆ ขับตามคลื่นที่นำหน้าเราไปเรื่อยๆ ควบคุมความเร็วให้คงที่

 

ฐานที่สองเป็นการทดสอบ¬¬¬¬สมรรถนะในการทรงตัว ด้วยการขับขึ้นและลงเนิน ทั้งเนินสูงและเนินต่ำบนสภาพถนนที่เป็นดิน อันนี้หวาดเสียวนิดหน่อย เพราะตอนขึ้นมันไม่เห็นอะไรเเลยนอกจากท้องฟ้า แต่ในรถมีระบบกล้องรอบทิศทางทำให้ง่ายในการขับ แต่พอต้องลงเนินสูง ตัวรถเองมีระบบช่วยในการลงทางลาดชัน ทำให้เราไม่ต้องแตะเบรกด้วยซ้ำ เพียงแค่ควบคุมพวงมาลัยลงมาตรงๆ ก็พอครับ

 

ฐานสุดท้ายนั้นเป็นการทดสอบสมรรถนะในสถานที่จริงโดยมีสภาพแวดล้อมที่ท้าทายความสามารถของผู้ ขับขี่ ด้วยถนนที่แคบและมีแหล่งน้ำล้อมรอบ ซึ่งผู้ขับขี่ต้องใช้ทักษะจากการอบรมในฐานต่างๆ มาประยุกต์ใช้ เพื่อให้ผ่านสถานการณ์จำลองต่างๆ ในฐานนี้สนุกสนานมาก เพราะได้ใช้ทักษะที่อบรมมาลองขับขี่ในสภาพถนนแบบ Off Road จริงๆ ซึ่งเส้นทางดูเหมือนลำบากยากเย็นที่จะผ่านไป แต่บอกได้เลยใส่เกียร์ D แล้วก็ควบคุมพวงมาลัย เบรก คันเร่ง เท่านั้นพอเลยครับ เนื่องจากที่เหลือระบบจะทำงานให้เราเอง การอบรมในครั้งนี้เป็นการเรียนเพื่อให้ทราบว่าระบบจะเข้ามาช่วยเราตอนไหน และจะใช้ประโยชน์จากระบบอย่างไรให้ปลอดภัยสูงสุดได้มากกว่า 

 

สุดท้ายต้องบอกว่านวัตกรรมที่ Mercedes-Benz ใส่เข้ามาให้ใน SUV ทุกๆ รุ่น ทำให้เราขับขี่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากได้ง่ายขึ้น จริงๆ ไม่ต้องเรียนทักษะการขับขี่เพิ่มอะไร เพียงแต่ทำความรู้จักระบบและฟังก์ชั่นความปลอดภัยที่ Mercedes-Benz ให้มาก็พอ ที่เหลือใส่เกียร์ “D” แล้วก็ขับชิวๆ เหมือยอยู่บนไฮเวย์นั่นแหละครับ