เผยโฉมแล้ว Mercedes-Benz (เมอร์เซเดส-เบนซ์) A-Class (เอ-คลาส) ใหม่เวอร์ชั่นล่าสุด … ส่วนเมืองไทยจะมาเมื่อไหร่ ต้องรอลุ้น
The new Mercedes-Benz (เมอร์เซเดส-เบนซ์) A-Class (เอ-คลาส) เวอร์ชั่นล่าสุดนี้ คือ เจนเนอเรชั่นที่ 4 ซึ่งมาพร้อมความลงตัวมากขึ้นโดยเฉพาะเรื่องความหรูหราที่โดดเด่นที่สุดในพิกัดของรถ Compact Class … ฉะนั้นสาวกชาวไทยเห็นแล้วก็อดใจรอซักนิดแล้วกัน เพราะทาง เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) เค้าจัดมาให้แน่นอน
สปอร์ตมากขึ้น ด้วยแนวคิดการดีไซน์ใหม่
เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอ-คลาส ใหม่นี้มากับแนวคิดการดีไซน์ที่เรียกว่า Sensual Purity บนเรือนร่างของยนตรกรรมพิกัด Compact ที่เน้นเส้นสายต่อเนื่องเสริมความเป็นสปอร์ต ที่ได้รับการออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์จากอุโมงค์ลม Wind Tunnel จนได้ค่าสัมประสิทธิแรงเสียดทานที่ต่ำเพียง 0.25 Cd
ส่วนรายละเอียดความโดดเด่นด้านรูปลักษณ์ ด้านหน้าที่มากับดีไซน์ฝากระโปรงหน้าที่ลาดต่ำ รับกับรูปทรงเฉียบคมของชุดไฟหน้า MULTIBEAM LED และชุดไฟ DRL ภายในโคมเดียวกัน ตามด้วยในส่วนของกระจังหน้า Mercedes Star ก็มีการปรับดีไซน์ใหม่เพื่อให้ดูสปอร์ตขึ้นรับกับช่องดักอากาศบริเวณกันชนหน้า
นอกจากนี้ยังมีการปรับขยายความยาวฐานล้อเพิ่มขึ้น ทำให้ตัวรถมุมมองด้านข้างดูมีความทรงพลัง รวมไปถึงการออกแบบซุ้มล้อให้ขนาดใหญ่เพื่อรองรับขนาดของล้อที่มีให้เลือกตั้งแต่ขนาด 16 นิ้วไปจนถึง 19 นิ้ว ปิดท้ายด้วยมุมมองในด้านหลังที่นำเสนอความกว้างขวาง เช่น ชุดกันชนหลังดีไซน์ใหม่ รับกับความดุดันของชุด Diffuser สีดำ, ท่อไอเสีย, ชุดไฟท้าย และสปอยเลอร์หลังสีดำ High-Gloss Black
ส่วนภายในก็มากับการอัพเกรดใหม่ ตั้งแต่ห้องโดยสารภายในที่มีความกว้างขวางมากขึ้น พร้อมด้วยงานดีไซน์ใหม่ที่ผสมผสานความหรูหรา และความสปอร์ต เช่น งานดีไซน์ช่องแอร์แบบ Turbine-Look ตามด้วยการติตดั้งจอ Display ขนาด 7 นิ้วมาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
ในขณะที่การตกแต่งนั้นก็จะต่างกันไปตามแต่ละรุ่นย่อย เช่น Style ซึ่งเป็นรุ่นพื้นฐานที่จะมากับโทนสีเทา Neva Grey ตัดสลับกับสีน้ำเงิน Indigo Blue หรือสีดำ ส่วนรุ่น Progressive ก็จะมากับความสปอร์ตด้วยการตกแต่งจาก Carbon-fibre ผสมผสานด้วยโทนสีดำ Black หรือสีเงิน Silver ปิดท้ายด้วยรุ่นท็อป AMG Line ที่จะมากับการตกแต่งสไตล์ AMG ด้วยโทนสีดำ DINAMICA black
ระบบความปลอดภัยเต็มขั้นที่ยกมาจาก S-Class
The new A-Class ได้รับการติดตั้งระบบ Driving Assistance Systems เจนเนอเรชั่นล่าสุดแบบเดียวกับ S-Class เพื่อยกระดับความปลอดภัยสูงสุดในการขับขี่ โดยจะประกอบด้วย ระบบ Eagle-Eye on the Traffic Situation ซึ่งใช้กล้อง ทำงานร่วมกับเรดาห์ตรวจจับเป็นระยะทางไกลถึง 500 เมตร ตามด้วยระบบ Active Distance Assist DISTRONIC ที่จะช่วยรักษาระยะห่างจากรถที่อยู่ด้านหน้า ที่มาพร้อมระบบ Active Steering Assist ที่จะทำงานตั้งแต่ระดับความเร็ว 0-210 กม./ชม.
นอกจากนี้ยังเพิ่มระบบความปลอดภัยใหม่เข้าไปในฟังค์ชั่น Active safety ด้วยระบบ Extended Active Brake Assist ที่จะช่วยเบรกแบบอัตโนมัติ, ระบบ Active Speed Limit Assist ระบบจำกัดความเร็ว, ระบบ Active Lane Change Assist ช่วยเตือนการเปลี่ยนเลนส์
ตามด้วยระบบ Active Emergency Stop Assist with Cross-Traffic Function สำหรับช่วยเบรกแบบฉุกเฉิน เมื่อตรวจพบสิ่งกีดขวาง, ระบบ Active Lane Keeping Assist ช่วยรักษารถให้อยู่ในเลนส์, ระบบ Active Blind Spot Assist ช่วยเตือนจุดอับสายตา และสุดท้ายกับฟังค์ชั่น Traffic Sign Assist ระบบอ่านป้ายจราจร
เร้าใจไปกับขุมพลังใหม่ของ The new Mercedes-Benz A-Class
The new Mercedes-Benz A-Class มากับการอัพเกรดพละกำลังใหม่ โดยยังคงใช้พื้นฐานเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ โดยจะมีให้เลือก 2 บล็อค คือ รหัส M282 พิกัด 1.4 ลิตร มีพละกำลังให้ใช้ที่ 163 แรงม้า พร้อมแรงบิด 250 นิวตันเมตร ในรุ่น A200 โดยจะมีให้เลือกทั้งเกียร์อัตโนมัติ 7G-DCT คลัทช์คู่ และเกียร์ธรรมดา 6 สปีด
บล็อคต่อมาเป็นเครื่องยนต์รหัส M260 พิกัด 2.0 ลิตร ที่มีพละกำลังถึง 224 แรงม้า พร้อมแรงบิด 350 นิวตันเมตร ในรุ่น A250 และจะมากับระบบส่งกำลังเกียร์อัตโนมัติ 7G-DCT คลัทช์คู่ เท่านั้น โดยในรุ่นเครื่องยนต์เบนซินทั้ง 2 บล้อคยังมาพร้อมกับระบบวล์วแปรผันใหม่ชื่อ CAMTRONIC ที่มีประสิทธิภาพสูงกว่า
นอกจากขุมพลังเบนซินแล้วยังมีอีกหนึ่งทางกับเครื่องยนต์ดีเซลด้วยรุ่น A 180 d ในรหัส OM 608 พิกัด 1.5 ลิตร พื้นฐาน 4 สูบ 116 แรงม้า และแรงบิด 260 นิวตันเมตร ซึ่งมีจุดเด่น คือ ระบบ AdBlue® technology, ระบบอัดอากาศ Turbocharger และ Intercooler ตลอดจนระบบส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 7G-DCT คลัทช์คู่ เจนเนอเรชั่นล่าสุด
ราคาจำหน่าย Mercedes-Benz A-Class
(ยังไม่เปิดเผย)
