Volvo (วอลโว่) S90 R-Design เดินหน้าสู่ความพรีเมี่ยมเต็มขั้น ในราคา 3,590,000 บาท
S90 อีกหนึ่ง “ของใหม่” ล่าสุดจากค่าย Volvo (วอลโว่) ที่มาพร้อมการเติมเต็มความพรีเมี่ยมเต็มขั้นด้วยการสวมชุดแต่ง R-Design สมฐานะ Luxury Sedan ขนาดใหญ่ ควบคู่ไปกับการสื่อถึงสมรรถนะประทับใจจากเครื่องยนต์ T8 Twin Engine AWD อันยอดเยี่ยม ภายใต้ราคาเร้าใจที่ 3,590,000 บาท
S90 R-Design ถือกำเนิดเพื่อตอกย้ำปรัชญาของ Volvo (วอลโว่)
“รถยนต์ควรตอบสนองความต้องการ และความปรารถนาของผู้ใช้เป็นอันดับแรก” คือ สิ่งที่เป็นปรัชญาของวอลโว่ และนำมาซึ่งการเติมเต็ม Luxury Sedan ขนาดใหญ่ให้กับ S90 ด้วยการสวมชุดแต่ง R-Design ใหม่ มาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน เพื่อให้ทุกองค์ประกอบสื่อสารถึงเอกลักษณ์ของผู้ขับขี่
โดยจุดเด่นหลักๆ นั้นประกอบด้วยชุดกระจังหน้า ช่องดักอากาศที่มากับโทนสีดำเงาสไตล์ Piano Black ตามด้วยมุมมองจากด้านข้างที่ดูสปอร์ตเฉี่ยวขึ้นด้วยล้ออัลลอยด์ขนาด 19 นิ้ว แบบ Matt Black Diamond Cut รัดด้วยยางขนาด 255/40 R19 ปิดท้ายด้วยด้านหลังที่สะดุดตาด้วยชุดท่อไอเสียคู่
ภายในห้องโดยสารได้รับการปรับแต่งใหม่ โดดเด่นด้วยเบาะนั่งสไตล์ R-Design Contour Seat ตลอดจนพวงมาลัย พร้อมแป้นเปลี่ยนเกียร์ Paddle Shift และการตกแต่งด้วยลายคาร์บอนไฟเบอร์ ที่ลงตัวกับโทนสีดำชาร์โคลของห้องโดยสาร ที่ยกระดับสู่ความพรเมี่ยมด้วยวัสดุหนังฉลุ Fine Nappa Leather และผ้า Nubuck
โดย S90 R-Design จะมากับทางเลือก 4 เฉดสี ที่ช่วยเน้นความสวยงามของตัวรถได้มากขึ้น คือ สีขาว (Crystal White Premium Metallic), สีเทา (Osmium Grey Metallic), สีดำ (Onyx Black Metallic) และสีน้ำเงิน (Bursting Blue Premium Metallic)
สมรรถนะโดดเด่น ด้วยฐานะยนตรกรรระดับ “เรือธง”
Luxury Sedan สุดหรู S90 R-Design ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ T8 Twin Engine แบบ Plug-in Hybrid ซึ่งประกอบด้วยเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.0 ลิตร แถวเรียง 4 สูบ Drive-E Powertrain เสริมแรงด้วย Turbocharger และ Supercharger พร้อมด้วยการทำงานจากมอเตอร์ไฟฟ้า
ซึ่งสร้างพละกำลังได้สูงสุดถึง 407 แรงม้า พร้อมแรงบิดที่สูงถึง 640 นิวตันเมตร และรับหน้าที่ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดที่มาพร้อม Sport Mode และ Geartronic สู่ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Geartronic ที่มีโหมดการขับขี่ให้เลือก 3 รูปแบบ คือ Pure, Hybrid และ Power
อีกหนึ่งจุดเด่น คือ เรื่องของระบบความปลอดภัยที่ Volvo จัดมาให้เต็มพิกัดทั้งแบบ Active และ Passive พร้อมด้วยการยกระดับมาตรฐานขึ้นอีกระดับ ด้วยการอัพเกรดประสิทธิภาพระบบ Pilot Assist (ระบบช่วยขับขี่กึ่งอัตโนมัติ) ซึ่งทำงานได้ที่ระดับความเร็วสูงถึง 125 กม./ชม. รวมถึงระบบยังช่วยปรับองศาการหักพวงมาลัยอันเป็นส่วนหนึ่งของแพ็คเกจการเพิ่มประสิทธิภาพด้านความปลอดภัย ที่อยู่ในระบบ City Safety รุ่นใหม่
ซึ่งจะมาพร้อมด้วยระบบอื่น ๆ เช่น ระบบการตรวจจับสัตว์ใหญ่และการขับขี่เวลากลางคืน (Large animal detection and Night time detection), ระบบเบรกอัตโนมัติบริเวณทางแยก (Intersection Braking), ระบบป้องกันอันตรายจากรถตกถนน คอยตรวจจับเมื่อรถออกนอกเส้นทาง ซึ่งทำงานร่วมกับระบบเตรียมการรัดตรึงเข็มขัดนิรภัยเบาะหน้า และใช้โครงสร้างเบาะที่ช่วยดูดซับพลังงาน (Run-off Road Mitigation – Detects Car Leaving the Road, Prepares Front Seat Belts and Energy-Absorbing Seat Structure)
ตลอดจนความสะดวกสบายอย่างระบบช่วยจอดรถอัตโนมัติสำหรับการจอดแบบขนานและแบบตั้งฉากด้วยกล้องช่วยจอด 360 องศา (Park Assist Pilot for Parallel and Perpendicular Parking with 360º Parking Camera) ที่มาพร้อมฟังก์ชั่นการแสดงผลข้อมูลทั้งจากจอแสดงผล Full Digital TFT Driver Display และบนกระจกหน้าแบบ (Head-up Display) ไปจนถึงระบบเชื่อมต่อ Sensus Connect ที่ช่วยเชื่อมต่อกับโลกกว้างได้อย่างง่ายดาย