Chevrolet Trailblazer 2.5L VGT 4×4 AT LTZ รถอเนกประสงค์ เรียบหรู อ็อพชั่นเต็ม คุ้มด้วย ราคา1,299,000 บาท

โพสต์เมื่อ 18 พฤษภาคม 2019 เวลา 8:25 น. หมวดหมู่: Test Drive by iAMCAR โดย Joey24

Chevrolet Trailblazer 2.5L VGT 4×4 AT LTZ ซึ่งนับว่าเป็นการปรับไมเนอร์เชนจ์มาใหม่ ที่มีการปรับทั้งรูปลักษณ์ภายนอกและภายใน แถมแต่ยังมี ฟีเจอร์ใหม่ ทำให้เจ้า Chevrolet Trailblazer 2.5L VGT 4×4 AT LTZ คันนี้ดูน่าสนใจยิ่งขึ้น

Chevrolet Trailblazer 2.5L VGT 4×4 AT LTZ ใหม่มาพร้อมการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ ฝากระโปรงหน้าที่เคียงคู่กับกระจังหน้าโครเมี่ยมดีไซน์ใหม่ที่ดูหรูหรายิ่งขึ้น พร้อมชุดไฟหน้าออกแบบใหม่แบบแต่ติดตรงที่ยังใช้แบบ Halogen อยู่ แต่ให้ระบบเปิด – ปิดไฟหน้า อัตโนมัติ และ ไฟ Daytime Running Light มาแทน ในส่วนของไฟท้าย และไฟเบรกดวงที่ 3 จะเป็นแบบ LED ทั้งหมด ไฟตัดหมอกมีให้มาทั้งด้านหน้า และหลัง

Chevrolet Trailblazer 2.5L VGT 4×4 AT LTZ มาด้วยภายในห้องโดยสารที่กว้างขวาง ในแบบรถยนต์ 7 ที่นั่ง จากเบาะนั่งแบบ 3 แถว โดยเบาะทั้งหมดจะเป็นเบาะหนัง บริเวณหัวหมอนรองศีรษะในเบาะคู่หน้าจะมีการปักลาย Z71 4×4 เอาไว้ ส่วนตำแหน่งเบาะคนขับสามารถปรับได้ 6 ทิศทางด้วยระบบไฟฟ้า เบาะผู้โดยสารแถวที่ 2 สามารถปรับพับได้แบบ 60:40 เพื่อความสะดวกของผู้โดยสารแถว 3 ในการขึ้นลง สำหรับเบาะนั่งแถวที่ 3 สามารถปรับพับแบนราบได้เมื่อไม่ต้องการใช้งาน

วงพวงมาลัยเป็นแบบมัลติฟังก์ชั่น หุ้มด้วยหนัง โดยมีชุดควบคุมการทำงานของระบบเครื่องเสียงและโทรศัพท์มือถือ ส่วนทางด้านขวาจะเป็นชุดควบคุมการทำงานของระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control) หน้าจอแสดงผลบริเวณเรือนไมล์

สวิตช์การทำงานของระบบส่องสว่างทั้งไฟหน้า และไฟตัดหมอก ถูกย้ายมาติดตั้งบริเวณด้านล่างขวามือใต้ช่องปรับอากาศของผู้ขับโดยจะมีชุดควบคุมการทำงานของระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ, ปุ่มเปิด-ปิดไฟตัดหมอกหน้า-หลัง, ปุ่มปรับความสว่างมาตรวัดและปุ่มปรับระดับไฟหน้า

Chevrolet Trailblazer 2.5L VGT 4×4 AT LTZ ยังมีระบบสตาร์ทเครื่องยนต์ด้วยรีโมท เพื่อสั่งการให้ระบบปรับอากาศภายในห้องโดยสารทำงานโดยอัตโนมัติ เพื่อปรับสภาพอากาศภายในห้องโดยสารก่อนที่จะขึ้นซึ่ง ช่วยได้มากเวลาที่ต้องจอดรถตากแดดเป็นเวลานานๆ

ระบบความปลอดภัยของ Chevrolet Trailblazer 2.5L VGT 4×4 AT LTZ มีทั้ง

-ระบบแจ้งเตือนการชนด้านหน้า (Forward Collision Alert) เมื่อตัวรถเกิดอยู่ในระยะที่ใกล้กับรถยนต์คันหน้ามากเกินไประบบจะทำการแจ้งเตือนด้วยสัญญาณสีแดงบนกระจกหน้ารถ พร้อมเสียงเตือน
-ระบบแจ้งเตือนจุดอับสายตา (Side Blind Zone Alert) ที่จะช่วยเตือนให้ทราบเมื่อมีรถผ่านบริเวณด้านข้างทั้ง 2 ข้าง ในจุดอับสายตา โดยจะแจ้งเตือนผ่านกระจกมองข้าง
-ระบบตรวจวัดและแจ้งเตือนแรงดันลมยาง (Tire Pressure Measuring System) ที่จะแจ้งเตือนผ่านหน้าจอแสดงผลแบบเรียลไทม์
-ระบบช่วยเตือน เมื่อขับขี่รถออกนอกช่องจราจร (Lane Departure Warning)
-ระบบช่วยเตือนการจราจรที่ด้านหลัง ขณะถอยรถ (Rear Cross Traffic Alert)
-ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวของรถ (ESC – Electronic Stability Control)
-ระบบควบคุมเสถียรภาพของรถ ขณะลากจูง (TSC – Trailer Sway Control)
-ระบบป้องกันการพลิกคว่ำ (ARP – Anti Rolling Protection)
-ระบบป้องกันการลื่นไถล และล้อหมุนฟรี (TCS – Traction Control System)
-ระบบช่วยการออกตัว ขณะรถอยู่บนทางลาดชัน (HSA – Hill Start Assist)
-ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ ขณะรถลงทางลาดชัน (HDC – Hill Descent Control)
-ระบบช่วยเบรกกะทันหัน (PBA – Panic Brake Assist)
-ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS – Anti-lock Braking System)
-ระบบกระจายแรงเบรก (EBD – Electronic Brake Force Distribution)
-ระบบเซ็นเซอร์หน้า-หลัง ช่วยในการนำรถเข้าจอด (Front & Rear Park Assist)

Chevrolet Trailblazer 2.5L VGT 4×4 AT LTZ ใช้เครื่องยนต์ดีเซล Duramax พร้อมเทอร์โบแปรผัน และอินเตอร์คูลเลอร์

(รหัสเครื่องยนต์ LP2) ขนาด 2.5 ลิตร (ปริมาตรกระบอกสูบ 2,499 ซีซี) ให้กำลัง 180 แรงม้า ที่ 3,600 รอบต่อนาที ให้แรงบิด 440 นิวตันเมตร ที่ 2,000 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมฟังก์ชั่น Manual Mode ให้ได้เลือกใช้เกียร์ได้ตามความต้องการ พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่ใช้งานง่าย

บททดสอบ

ในส่วนของการขับขี่เจ้า Chevrolet Trailblazer 2.5L VGT 4×4 AT LTZ บนทางดำที่เจอมาทั้งการขับขี่ในเมืองที่ติดแบบสุดๆ ขยับกันไปได้ทีละนิด และต้องเร่งเปลี่ยนช่องทางเดินรถอยู่บ่อยๆ ที่แม้ว่าเรือนร่างจะใหญ่ แต่ก็สามารถทำอัตราเร่งในรอบต่ำได้ดีไม่เบา ต่อเนื่องไปกับทางโล่งๆยาว ให้ความรู้สึกแบบทะยานไปเรื่อยๆไม่ได้ชู้ตไปได้แบบปรู๊ดปร๊าด กับความเร็วเดินทางที่อาจจะเร็วกว่าชาวบ้านเค้าเล็กน้อย

การทำงานของระบบช่วงล่าง ที่ด้านหน้าเป็นแบบอิสระ ปีกนกสองชั้น พร้อมคอยล์สปริง ส่วนด้านหลังเป็นแบบ 5 Link พร้อมคอยล์สปริง ก็ตอบสนองความสะดวกสบายในการเดินทางได้เป็นกำลังดี (หากไม่ได้โยกพวงมาลัยด้วยความรุนแรง)

จากนั้นได้ลองขับในเส้นทางแบบออฟโรดดูบ้าง การใช้งานระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ก็ง่ายๆ ช่วงล่างดูดซับแรงได้ดี แต่อาจมีดีดแรงบ้างในบางจังหว่ะ ในส่วนของการทำงานของเครื่องยนต์ สามารถกระจายแรงบิดได้ดี มีกำลังต่อเนื่อง ทั้งในทางชันที่ต้องใช้แรงไต่ค่อนข้างมาก

Chevrolet Trailblazer 2.5L VGT 4×4 AT LTZ กับราคาจำหน่ายในช่วงนี้เพียง 1,299,000 บาท สำหรับรถอเนกประสงค์ที่รองรับการใช้งานได้หลากหลายให้กับครอบครัวที่มาพร้อมระบบต่างๆ ที่ได้มา พร้อมด้วยพละกำลังจากเครื่องยนต์ Duramax ที่เพียงพอกับการใช้งาน Chevrolet Trailblazer 2.5L VGT 4×4 AT LTZ ก็น่าเป็นตัวเลือกที่ดีไม่น้อย