Subaru BRZ … เจนเนอเรชั่นที่ 2 และการคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ของ Sport Car
หลังจากปล่อย Subaru BRZ เจนเนอเรชั่นแรก ทำตลาดอยู่นาน ในที่สุดก็ถึงเวลาปล่อยเจนเนอเรชั่นที่ 2 ซึ่งยังคงมาพร้อมกับเอกลักษณ์ของความเป็น Sport Car เช่น งานดีไซน์ของรถ 2 ประตู พร้อมที่นั่งแบบ 2+2 และการมีน้ำหนักตัวรถที่เบา, จุดศูนย์ถ่วงต่ำ และระบบขับเคลื่อนแบบล้อหลัง ภายใต้การพัฒนาขึ้นไปอีกขั้น ทั้งในเรื่องของพละกำลัง, การบังคับควบคุมที่เฉียบคม ตลอดจนเรื่องของ “สไตล์” การออกแบบที่เกิดขึ้นจากการถ่ายทอด Subaru DNA
สำหรับรูปลักษณ์ยังคงมากับสไตล์ความเป็นรถ 2 ประตู Coupe ที่มาพร้อมการลดน้ำหนักด้วยการเลือกใช้วัสดุอลูมิเนียมในส่วนของหลังคา, แก้มหน้ารถ และฝากระโปรงหน้า จนทำให้น้ำหนักโดยรวมอยู่ที่ 2,900 Lbs หรือราวๆ 1,315 กก. เท่านั้น
ขณะที่รายละเอียดงานดีไซน์นั้นมากับความโดดเด่น ภายใต้หลักอากาศพลศาสตร์ ที่รวมไปถึงขนาดของมิติตัวถังที่มีการเพิ่มความยาวมากขึ้นกว่า 1 นิ้ว และลดความสูงลงประมาณครึ่งนิ้ว เมื่อเทียบกับเจนเนอเรชั่นแรก ส่งผลให้การออกแบบช่องดักอากาศกันชนหน้านั้นมีขนาดใหญ่ขึ้น และวางตำแหน่งได้ต่ำ ประกบด้านข้างด้วยช่องดักอากาศ ที่มากับช่องระบายอากาศหลังซุ้มล้อหน้า เพื่อทำหน้าที่ช่วยลดแรงต้านทานจากกระแสลมภายในซุ้มล้อ ตลอดจนใต้ฝากระโปรงหน้า
ทั้งยังมีการออกแบบชุดสเกิร์ตข้างที่มีปลายครีบบริเวณซุ้มล้อหลัง ที่สามารถช่วยเพิ่มแรงกด Downforce รับกับกับโป่งซุ้มล้อหลังขนาดใหญ่ และชุดกันชนท้ายที่มากับ Diffuser และท่อไอเสียทรงกลมคู่ รวมถึงฝากระโปรงท้ายที่มากับดีไซน์ให้เป็นสปอยเลอร์เล็กๆ รูปทรง Ducktail นอกจากนี้ในส่วนของหลังคาก็ยังมาด้วยงานออกแบบที่เรียกว่า “Double Bubble” อีกด้วย
ห้องโดยสารมากับการออกแบบในสไตล์ที่เน้นทัศนวิสัย และความสะดวกของผู้ขับขี่เป็นหัวใจหลัก ผสานด้วยอารมณ์ความสปอร์ต จากเบาะนั่งแบบ Bucket Seat ที่ออกแบบให้กระชับรับสรีระมากขึ้น และตัดเย็บด้วยด้ายโทนสีแดง พร้อมกับยกระดับการใช้งานด้วยออพชั่นมาตรฐาน เช่น ชุดหน้าจอมาตรวัดขนาด 7 นิ้ว, หน้าจอระบบ Infotainment แบบ Touchscreen ขนาด 8 นิ้ว ที่มาพร้อมระบบ SUBARU STARLINK™ เจนเนอเรชั่นล่าสุด ซึ่งรองรับการเชื่อมต่อได้ทั้งระบบปฏิบัติการ Apple CarPlay™ และ Android ™ Auto ตลอดจนเบาะนั่งด้านหลังแบบพับได้ เพื่อให้มีพื้นที่เก็บสัมภาระมากพอสำหรับตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวัน
ขุมพลังของ Subaru BRZ เจนเนอเรชั่นที่ 2 มากับเครื่องยนต์เบนซินแบบ Boxer ขนาด 2.4 ลิตร ไร้ระบบอัดอากาศ ที่สามารถสสร้างพละกำลังสูงสุดได้ถึง 228 แรงม้า และแรงบิดที่เคลมว่าเพิ่มขึ้นจากเดิมอีกราว 15 เปอร์เซ็นต์ ส่วนระบบส่งกำลังนั้นจะมีให้เลือกทั้งแบบเกียร์ธรรมดา 6 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อม Sport Mode ที่พัฒนาให้มีอรรถรสเร้าใจยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ในส่วนของระบบช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระแม็คเฟอร์สัน ยังมากับชุดสตรัท และคอยล์สปริงที่มีน้ำหนักเบาลง ขณะที่ช่วงล่างด้านหลังแบบดับเบิ้ลวิชโบน นั้นมากับการปรับเซ็ทใหม่ให้มีการดูดซับแรง และการยึดเกาะถนนที่ดีขึ้น อีกทั้งในส่วนของโครงสร้างตัวถังเองก็ได้มีการเพิ่มความแข็งแกร่งขึ้นจากเดิมถึง 60 เปอร์เซ็นต์ เพื่อยกระดับการควบคุมให้เฉียบคม และตอบสนองได้อย่างฉับไวมากขึ้นอีกด้วย