กองทุนฮอนด้าเคียงข้างไทย ส่งมอบนวัตกรรมหน้ากากแรงดันลบและบวก ฝีมือทีมวิศวกรฮอนด้า และเครื่องพ่นยาฆ่าเชื้อ โดยมีกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานรับมอบก่อน สู่ 77 จังหวัดทั่วประเทศ ในเดือน ก.พ. 2564
กองทุนฮอนด้าเคียงข้างไทย ส่งมอบนวัตกรรมหน้ากากแรงดันลบและบวก
กองทุนฮอนด้าเคียงข้างไทย ภายใต้มูลนิธิฮอนด้าประเทศไทย ร่วมกับกลุ่มบริษัทฮอนด้าในประเทศไทย ส่งมอบนวัตกรรมหน้ากากแรงดันลบและบวก ซึ่งเป็นหน้ากากทางการแพทย์ที่สามารถปรับการใช้งานได้ 2 รูปแบบภายในชิ้นเดียว โดยปรับเป็นแรงดันลบเพื่อใช้ในการเคลื่อนย้ายผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และปรับเป็นแรงดันบวกเพื่อป้องกันและช่วยให้บุคลากรทางการแพทย์หายใจสะดวก เพื่อดูแลผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ได้นานขึ้น โดยได้นำเทคโนโลยีฟิลเตอร์ HEPA ระดับ H14 ที่สามารถกรองได้ละเอียดถึง 0.3 ไมครอน และนำระบบ Microcontroller มาใช้ในการควบคุม speed ของพัดลม อีกทั้งแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ที่มีน้ำหนักเบา ทำให้สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องนานถึง 4 – 6 ชั่วโมง พร้อมด้วยเครื่องพ่นยาฆ่าเชื้อ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ในกลุ่มเครื่องยนต์อเนกประสงค์ของฮอนด้า โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเป็นประธานในการรับมอบ ก่อนเดินหน้าผนึกกำลังเครือข่ายผู้จำหน่ายรถยนต์และรถจักรยานยนต์ฮอนด้าทั่วประเทศ เพื่อส่งมอบนวัตกรรมหน้ากากแรงดันลบและบวก จำนวน 1,000 ชิ้น พร้อมเครื่องพ่นฆ่าเชื้อ จำนวน 100 เครื่อง รวมมูลค่า 40 ล้านบาท ไปยังโรงพยาบาลใน 77 จังหวัดทั่วประเทศต่อไป ในเดือนกุมภาพันธ์ 2564
นายพิทักษ์ พฤทธิสาริกร กรรมการผู้จัดการกองทุนฮอนด้าเคียงข้างไทย กล่าวว่า “จากความสำเร็จในการพัฒนาเตียงเคลื่อนย้ายผู้ป่วยแบบแรงดันลบ เมื่อปีที่ผ่านมา ทีมวิศวกรของฮอนด้ายังคงเดินหน้าคิดต่อยอดการพัฒนาเพื่อช่วยเหลือสังคมไทยอย่างต่อเนื่อง จนได้ริเริ่มพัฒนาโดยอ้างอิงต้นแบบหน้ากากแรงดันลบของวิทยาลัยพัฒนาชุมชนเมือง มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช และในวันนี้ สามารถพัฒนานวัตกรรมหน้ากากแรงดันลบและบวกได้สำเร็จ โดยผลการทดสอบการรั่วซึมเข้า (Inverse Leakage) จากกรมวิทยาศาสตร์บริการ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และการทดสอบการใช้งานแรงดันลบ จากคณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช อยู่ในเกณฑ์ที่ดีมาก สามารถนำไปใช้งานทางการแพทย์ได้ ฮอนด้ารู้สึกภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่พนักงานของเรามีจิตใจที่มุ่งมั่นในการทำประโยชน์เพื่อสังคม และทางกองทุนฮอนด้าฯ ก็พร้อมที่จะสนับสนุนอย่างเต็มที่ ซึ่งการบริจาคในครั้งนี้ ทางกองทุนฮอนด้าฯ จะผนึกกำลังกับเครือข่ายผู้จำหน่ายรถยนต์และรถจักรยานยนต์ฮอนด้า เพื่อส่งมอบให้แก่โรงพยาบาลทั่วประเทศต่อไป ทั้งนี้ เมื่อรวมการบริจาคเมื่อปีที่ผ่านมาและล่าสุดในครั้งนี้ ทางกองทุนฮอนด้าฯ ได้ร่วมต้านภัยโควิด-19 รวมงบประมาณแล้วกว่า 80 ล้านบาท ซึ่งมาจากเงินสมทบจากการซื้อรถจักรยานยนต์ รถยนต์ และเครื่องยนต์อเนกประสงค์ผมต้องขอขอบคุณลูกค้าฮอนด้าทุกท่านที่มีส่วนร่วมในการช่วยเหลือสังคมในครั้งนี้”
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า “สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทยระลอกใหม่ มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้บุคลากรทางการแพทย์ต้องทำงานหนักขึ้นและเสี่ยงต่อการติดเชื้อมากขึ้น อุปกรณ์ทางการแพทย์ในการป้องกันการติดเชื้อและลดความเสี่ยงในการแพร่กระจายเชื้อจึงมีความจำเป็นอย่างมาก ต้องขอขอบคุณทางกองทุนฮอนด้าเคียงข้างไทย อีกหนึ่งตัวแทนภาคเอกชนที่ดำเนินธุรกิจและอยู่เคียงข้างสังคมไทย รวมถึงความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในทุกภาคส่วนที่ได้ร่วมแรงร่วมใจในการพัฒนาและผลิตนวัตกรรมหน้ากากแรงดันลบและบวก นับเป็นมิติใหม่ของอุปกรณ์การแพทย์ที่ก้าวล้ำไปอีกขั้นที่คิดค้นได้โดยวิศวกรชาวไทยเพื่อคนไทย ซึ่งสามารถป้องกันการติดเชื้อและแพร่เชื้อที่มีประสิทธิภาพ โดยนวัตกรรมนี้ สามารถใช้งานได้จริง”ระและเป็นประโยชน์ต่อวงการแพทย์ และจะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้บุคลากรทางการแพทย์และชาวไทยผ่านพ้นสถานการณ์โควิด-19 ในครั้งนี้ไปได้ด้วยดีในเร็ววัน”
นายณัฐชนน สายธนู ตัวแทนทีมวิศวกรจิตอาสา บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “จากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่เกิดขึ้น ผมและทีมได้ติดตามข่าว และคิดว่าโรคนี้คงยังไม่หายไปจากเราง่ายๆ ทางทีมจึงคิดอย่างต่อเนื่องที่จะช่วยเหลือทีมแพทย์และผู้ป่วยให้ได้มากที่สุด จากเตียงเคลื่อนย้ายผู้ป่วยแบบแรงดันลบที่พวกเราพัฒนาและผลิตได้สำเร็จไปเมื่อเดือนพฤษภาคม 2563 ที่ผ่านมา และใช้งานกับผู้ป่วยเป็นหลัก จึงได้คิดต่อยอดนวัตกรรมให้สามารถตอบโจทย์ได้ทั้งบุคลากรทางแพทย์และผู้ป่วย โดยต้องใช้งานง่ายและสะดวกมากยิ่งขึ้น และโชคดีที่ทางกองทุนฮอนด้าฯ ให้การสนับสนุน จากร่างกระดาษจึงกลายมาเป็นนวัตกรรมหน้ากากแรงดันลบและบวกที่ใช้งานได้จริง โดยปรับใช้เป็นหน้ากากแรงดันบวกสำหรับแพทย์หรือบุคลากรทางการแพทย์ สามารถสวมใส่ขณะทำงานได้อย่างสะดวกสบายนานถึง 4 – 6 ชั่วโมง และสามารถปรับแรงดันเป็นลบเพื่อใช้ในการเคลื่อนย้ายผู้ป่วย พวกเรามีความภูมิใจที่นวัตกรรมนี้ จะได้เป็นส่วนหนึ่งและได้ใช้งานในสถานการณ์การแพร่ระบาดครั้งนี้ด้วย”
ทั้งนี้ นวัตกรรมหน้ากากแรงดันลบและบวก ได้เริ่มเดินสายการผลิต ณ โรงงานผลิตรถยนต์ฮอนด้า จ.พระนครศรีอยุธยา โดยจะแล้วเสร็จและพร้อมส่งมอบไปยังทั่วประเทศ ตั้งแต่ช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์นี้เป็นต้นไป สำหรับสถานการณ์ของไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ ที่คนไทยกำลังเผชิญอยู่ กองทุนฮอนด้าเคียงข้างไทยขอส่งกำลังใจให้กับบุคลากรทางการแพทย์และคนไทยทุกคนในการก้าวผ่านสถานการณ์ที่ยากลำบากนี้ไปด้วยกัน โดยกองทุนฮอนด้าฯ พร้อมที่จะยืนหยัดอยู่เคียงข้างคนไทย เพื่อช่วยเหลือ แบ่งปัน และสร้างความสุขให้กับคนไทยตลอดไป