FORD Start Concept

รถยนต์ขนาดเล็ก เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ฉลาด และขับสนุก
ฟอร์ด สตาร์ท คอนเซ็ปต์ พลังแห่งการออกแบบเพื่อมหานครทั่วโลก

ford
ปักกิ่ง, 23 เมษายน 2553 – ขณะที่เมืองต่างๆ ทั่วโลกกำลังก้าวสู่การเป็นเมืองใหญ่อย่างรวดเร็ว รถยนต์แห่งอนาคตที่เหมาะสมกับเมืองเหล่านี้จึงต้องเป็นรถยนต์ขนาดเล็กที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ฉลาด และขับสนุก ตามความเห็นของทีมนักออกแบบของฟอร์ด ผู้สร้างสรรค์ฟอร์ด สตาร์ท คอนเซ็ปต์ รถต้นแบบที่แสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ของยานพาหนะที่จำเป็นต่อมหานครทั่วโลก

รถต้นแบบที่แท้จริงของฟอร์ดที่ได้รับการสร้างสรรค์ขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 3 ปี ฟอร์ด สตาร์ท คอนเซ็ปต์ ไม่ได้เป็นเพียงผลงานของการทดลองออกแบบรถยนต์ขนาดเล็กแห่งอนาคตที่มีความเป็นไปได้จริงเท่านั้น แต่ยังแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของฟอร์ดในการนำเสนอเทคโนโลยีเครื่องยนต์ฟอร์ด อีโคบู๊สต์ ในรถรุ่นต่างๆ ที่หลากหลายยิ่งขึ้น โดยฟอร์ด สตาร์ท คอนเซ็ปค์ เปิดตัวพร้อมกับเครื่องยนต์ประหยัดน้ำมันรุ่นใหม่ล่าสุด ฟอร์ด อีโคบู๊สต์ แบบ 3 สูบ ขนาด 1.0 ลิตร ที่มอบพละกำลังเทียบเท่ากับเครื่องยนต์แบบ 4 สูบ ขนาด 1.6 ลิตร

ส่วนหนึ่งของแรงบันดาลใจในการออกแบบ ฟอร์ด สตาร์ท คอนเซ็ปต์ เกิดจากทิศทางการเติบโตของเมืองต่างๆ ทั่วโลกที่มีความทันสมัยมากขึ้น มหานครที่มีขนาดใหญ่ที่สุด 20 แห่งทั่วโลก คือที่อยู่อาศัยของผู้บริโภคที่มีความต้องการ ความคิดเห็น และความคาดหวังคล้ายคลึงกับชาวเมืองใหญ่ในประเทศอื่นๆ มากกว่าที่จะคล้ายคลึงกับคนในประเทศเดียวกันที่อาศัยอยู่ในเมืองขนาดเล็ก ผู้บริโภคเหล่านี้ต้องเผชิญกับความท้าทายต่างๆ ในสังคมเมือง พวกเขาจึงมองหาสินค้าที่สามารถตอบสนองความต้องการของตนเองได้อย่างลงตัวที่สุดเช่นเดียวกัน

ด้วยเหตุนี้ นักออกแบบของฟอร์ดจึงเกิดแนวคิดที่จะสร้างสรรค์รถยนต์ขนาดเล็กแบบสปอร์ตแห่งอนาคต เพื่อตอบสนองความต้องการ และแนวคิดของคนเมือง

ปัจจุบัน ประชากรโลกมากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์อาศัยอยู่ในเขตเมือง และภายในพ.ศ. 2593 จำนวนดังกล่าวจะพุ่งทะยานขึ้นสูงกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ท้องถนนอันแออัด ลานจอดรถที่ไม่เพียงพอ ความกังวลต่อการประหยัดน้ำมันของรถ รวมทั้งปริมาณและราคาของน้ำมันในปัจจุบัน ผลักดันให้ผู้ผลิตรถยนต์เปลี่ยนมุมมองที่มีต่อยานพาหนะและการเดินทางต่างไปจากเดิมอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

“จุดมุ่งหมายในการสร้างสรรค์ ฟอร์ด สตาร์ท คอนเซ็ปต์ คือการออกแบบรถที่เหนือกว่ายานยนต์ซึ่งตอบสนองการเดินทางในมหานครทั่วโลก และเป็นมากกว่ายนตรกรรมทันสมัยที่เพียบพร้อมไปด้วยเทคโนโลยี แต่เราต้องการออกแบบรถที่คุณจะต้องตกหลุมรัก” ฟรีแมน โธมัส ผู้อำนวยการด้านการออกแบบ กล่าว

การใช้ชีวิตในเมืองใหญ่ประกอบไปด้วยความท้าทายที่แตกต่าง ซึ่งก่อให้เกิดแนวทางการดำเนินชีวิตและทัศนคติ ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ขณะที่ปัญหาการจราจรติดขัดเป็นสิ่งที่ผู้อาศัยในเมืองใหญ่ทุกแห่งต้องประสบ ฟอร์ด สตาร์ท คอนเซ็ปต์ จึงเป็นคำตอบของรถยนต์ขนาดเล็กแห่งอนาตค ที่เหมาะสำหรับผู้บริโภคในเมืองใหญ่เหล่านี้

“ทีมออกแบบได้นำเสนอผลงานที่สะท้อนให้เห็นแง่มุมที่สนุกสนานของการออกแบบภายใต้แนวคิด เคเนอติก ดีไซน์ และยกระดับการเป็นรถที่ขับสนุกซึ่งเป็นดีเอ็นเอของรถภายใต้แบรนด์ฟอร์ด อีกทั้งยังสะท้อนให้เห็นปมที่แท้จริงที่ทุกคนจะต้องประสบในการออกแบบรถยนต์ในอนาคต” มาร์ติน สมิทธิ์ ผู้อำนวยการด้านการออกแบบประจำฟอร์ด ยุโรป และเอเชียแปซิฟิก กล่าว
ford
การทำงานตามแผนกลยุทธ์แบบ ONE Ford ทำให้ฟอร์ดสามารถมองเห็นว่า ปัญหาซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นเรื่องเฉพาะภูมิภาคหรือเฉพาะประเทศ ได้กลายเป็นประเด็นระดับโลก ผู้คนต่างต้องเผชิญกับเทคโนโลยี “สีเขียว” การใช้พื้นที่ว่างอย่างมีประสิทธิภาพ การรีไซเคิล และตั้งคำถามว่าสิ่งที่มีขนาดใหญ่เป็นสิ่งที่ดีจริงหรือ ทั้งหมดนี้คือทัศนคติที่เชื่อมโยงชาวเมืองใหญ่ทั่วโลกเข้าด้วยกัน

การค้นหาพลังงานที่มีประสิทธิภาพ ใช้วัสดุที่มีน้ำหนักเบาและสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ รวมทั้งการใช้ประโยชน์จากพื้นที่ภายในรถขนาดเล็กให้เกิดประโยชน์สูงสุด จึงเป็นความท้าทายที่นักออกแบบต้องเผชิญ

ฟอร์ดสามารถตอบโจทย์ความท้าทายเหล่านี้ พร้อมๆ กับสร้างสรรค์รถต้นแบบที่สามารถยกระดับแบรนด์
ดีเอ็นเอของการเป็นรถที่ขับสนุกได้หรือไม่?

เหนือสิ่งอื่นใด ฟอร์ดได้นำเสนอเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดในฟอร์ด สตาร์ท คอนเซ็ปต์ ที่ตระหนักถึงความสำคัญของการประหยัดน้ำมัน ลดการใช้วัตถุดิบต่างๆ และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์

รถต้นแบบคันล่าสุดของฟอร์ด เพียบพร้อมด้วยเครื่องยนต์ทรงพลัง ฟอร์ด อีโคบู๊สต์ใหม่ แบบ 3 สูบ 1.0 ลิตร ที่ช่วยประหยัดน้ำมันและปล่อยของเสียในระดับต่ำ บริษัทยืนยันการผลิตเทคโนโลยีล้ำสมัยนี้ในอนาคตอันใกล้ ด้วยอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์น้อยกว่า 100 กรัม/กิโลเมตร เครื่องยนต์เบนซินดังกล่าวยังให้กำลังและสมรรถนะเทียบเท่ากับเครื่องยนต์แบบ 4 สูบ

ฟอร์ด สตาร์ท คอนเซ็ปต์ ยังนำเสนอ “มายฟอร์ด โมบาย คอนเซ็ปต์” (MyFord Mobile Concept) เทคโนโลยีการเชื่อมต่อระบบสื่อสารเข้ากับโทรศัพท์แบบสมาร์ทโฟน ที่ทำให้ผู้ใช้สามารถสั่งงานอุปกรณ์ต่างๆ ภายในห้องโดยสารได้ ทั้งยังสะท้อนความมีเอกลักษณ์ของรถยนต์ขนาดเล็กที่ใช้วัสดุน้ำหนักเบาและคล่องตัวด้วยการออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์อีกด้วย

“รถคันนี้อาจจะมีขนาดเล็กและมีส่วนประกอบน้อยชิ้น แต่เราไม่ได้ละเลยความต้องการพื้นฐาน “แบบดั้งเดิม” ในการขับขี่ ทั้งการยึดเกาะถนนแบบสปอร์ต แผงควบคุมอุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้งานได้ง่าย และภายในห้องโดยสารที่สวยบริสุทธิ์ราวกับรถสปอร์ตยุคแรกช่วงทศวรรษที่ 1950” โธมัส กล่าว

การออกแบบภายนอก   
“ในการทำงานกับฟอร์ด สตาร์ท คอนเซ็ปต์ เราไม่ได้วางแผนที่จะออกแบบรถต้นแบบอเนกประสงค์ที่สามารถ
กู้โลกได้ และเราก็ไม่ต้องการเดินตามหลังคู่แข่งที่เกาะกระแสการออกแบบด้วยการสื่อสารที่ยุ่งยากวุ่นวาย จุดมุ่งหมายของเราคือการออกแบบรถที่มีบุคลิกโดดเด่น เต็มเปี่ยมไปด้วยความอบอุ่น มีสเน่ห์ และเป็นที่ปรารถนา เราต้องการออกแบบรถที่ควรค่าแก่การผูกพันด้วย” เจ เมย์ รองประธานกลุ่มผู้บริหาร ฝ่ายการออกแบบ และประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายความคิดสร้างสรรค์ ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี กล่าว

รูปลักษณ์ที่โดดเด่นได้รับการบรรจุเอาไว้บนพื้นผิวภายนอกของตัวถังรถที่ลื่นไหล ซึ่งใช้วัสดุที่มีส่วนประกอบหลายชนิด ช่วยให้ตัวถังมีน้ำหนักเบา

กระจังหน้ารูปสี่เหลี่ยมคางหมูซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของฟอร์ดได้ถูกขยับขึ้นมายังด้านบน โดยใช้รูปทรงที่มีความโค้งมน โฉบเฉี่ยวมากขึ้น และลดจำนวนช่องที่เปิดรับลมด้านหน้ารถจาก 2 เหลือเพียง 1 ช่อง เพื่อมอบความรู้สึกสปอร์ต และความมีประสิทธิภาพ

พื้นผิวด้านนอกทั้งหมดของฟอร์ด สตาร์ท คอนเซ็ปต์ ได้รับการออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ ให้มีผิวสัมผัสที่เรียบไปทั้งคันโดยไม่มีส่วนที่ยื่นออกมาหรือยุบลงไป เพื่อลดแรงต้านจากลม ช่วยให้รถมีแรง
เสียดทานในการขับขี่น้อยลง และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันสูงสุด

ความมีประสิทธิภาพของตัวถังภายนอก ยังปรากฎให้เห็นได้จากโครงร่างตัวถังทรงหยดน้ำ และการออกแบบชิ้นส่วนต่างๆ บนพื้นตัวถังรถให้เป็นไปตามหลักอากาศพลศาสตร์และการลดการตัดตามขวางต่างๆ ลง

ล้ออลูมิเนียมขึ้นรูปทั้งชิ้น และครีบหลังคาที่โฉบเฉี่ยวพร้อมติดตั้งไฟเบรกตรงกลางด้านบน คือส่วมผสมที่ช่วยเติมเต็มรายละเอียดของแนวคิดตามหลักอากาศพลศาสตร์

ไฟหน้าแบบ LED ที่มีรูปร่างเพรียวบางให้แสงสว่างเจิดจ้าผ่านท่อรูปทรงสี่เหลี่ยมคางหมู มีการใช้วงจรไฟวิ่ง
2 ชุดคือวงจรภายในไฟหน้า 1 คู่ และวงจรไฟด้านล่างอีก 1 คู่ ช่วยเพิ่มความสว่างให้กับการขับขี่ในช่วงกลางคืน

ไฟหน้าที่ยาวและบางตวัดจากตรงกลางของด้านหน้ารถไปยังด้านข้างบังโคลน ส่วนไฟเลี้ยวแบบ “Digital Pulse” ติดตั้งอยู่ภายในกรอบวงจรไฟวิ่งด้านล่าง

โครงสร้างตัวถังของรถซึ่งผลิตขึ้นจากการใช้เหล็กที่มีความแข็งแรงสูง ซึ่งเป็นนวัตกรรมของส่วนผสมจากอลูมิเนียมต่างๆ ถูกนำมาใช้ในการป้องกันความปลอดภัยของห้องโดยสาร อลูมิเนียมน้ำหนักเบาช่วยเพิ่ม
ความแน่นหนาให้กับการประกอบโครงสร้างส่วนที่เป็นกระจกและหลังคา รวมทั้งยังใช้เก็บถุงลมนิรภัยด้านข้าง แผงตัวถังด้านนอกทั้งหมดผลิดขึ้นจากสารประกอบที่สามารถเปลี่ยนรูป และนำกลับมาใช้ใหม่ได้

หลังคาของรถให้ความรู้สึกว่าถูกแยกออกจากส่วนที่เป็นกระจกโดยรอบ และชวนให้คิดถึงการออกแบบรถยนต์ สปอร์ตทันสมัยได้ทันที อีกทั้งยังช่วยเพิ่มทัศนวิสัยให้แก่ผู้ขับขี่ด้วยมุมมองที่ชัดเจนแบบพาโนราม่า
ford
แผงหลังคาของรถได้รับการออกแบบให้มีกลไกในการยึดเข้ากับส่วนบนของรถเพื่อความสะดวกในการตกแต่งอุปกรณ์เสริม เนื่องจากแผงหลังคาสามารถถอดออกได้ง่าย และผู้ขับขี่สามารถซื้อหลังคาซึ่งเป็นอุปกรณ์เสริมมาเปลี่ยนได้ตามต้องการ

ส่วนที่เป็นกระจกรอบคันได้รับการออกแบบมาให้มีผิวสัมผัสที่ราบเรียบ พร้อมตัดขอบอย่างแน่นหนาด้วยเหล็กปัดเงาช่วยเน้นความโดดเด่นของเส้นขอบโดยรอบตัวถังที่เป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้างตัวถังส่วนบน ทัศนวิสัยและความปลอดภัยในการขับขี่ได้รับการยกระดับขึ้นอีกขั้นด้วยการลดทอนเสากลาง (B-pillars) และการใช้เสาด้านหลัง (C-pillar) แบบโปร่งใส รวมทั้งการใช้กระจกด้านหลังแบบโอบรอบ ช่วยให้มองเห็นได้อย่างทั่วถึงแบบ 180 องศา

เช่นเดียวกับบังโคลนด้านหน้า แผงตัวถังด้านข้างส่วนท้ายรถมีส่วนที่ยื่นออกมาจากตัวถังเพียงเล็กน้อยหรือเพียง 629 มิลลิเมตร เมื่อวัดจากส่วนกลางของล้อหลังไปยังกันชนท้าย โป่งซุ้มล้อหลังได้รับการออกแบบให้มีความโดดเด่น และเพิ่มความมาดมั่นให้กับฟอร์ด สตาร์ท คอนเซ็ปต์ ในทุกมุมมอง

นอกจากไฟหน้าที่คมชัดโดดเด่นแล้ว ไฟท้ายแบบ LED ยังตวัดไปถึงฝากระโปรงด้านหลังของรถ และได้รับการออกแบบให้ฝังลงไปในพื้นผิวของตัวถัง สัญญาณไฟเลี้ยวได้รับการบรรจุเอาไว้ภายในโคมไฟท้ายพร้อมระบบการทำงานที่ขยับไฟเลี้ยวไปออกไปยังด้านข้างของรถอย่างรวดเร็ว เมื่อมีการใช้ไฟท้ายและไฟเลี้ยวพร้อมกัน

ด้านหลังของฟอร์ด สตาร์ท คอนเซ็ปต์ ประกอบไปด้วยพื้นที่เก็บของแบบดั้งเดิม ไฟท้ายของรถแบบติดอยู่กับที่ และมีปลายอลูมิเนียมหล่อติดตั้งอยู่ตรงกลางของรถ ซึ่งเป็นส่วนของท่อไอเสียที่ได้รับการออกแบบอย่างลงตัว

ล้อของฟอร์ด สตคาร์ท คอนเซ็ปต์ ได้รับการออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ และผลิตขึ้นจากอลูมิเนียมขึ้นรูปทั้งชิ้นขนาด 17×6.5 นิ้ว พร้อมยางมิชิลิน กรีนเอ็กซ์ 205/45R17 ที่ได้รับการออกแบบเป็นพิเศษ ดอกยางมีคุณสมบัติที่เป็นเอกลักษณ์ในการช่วยลดเสียงรบกวน ความสั่นสะเทือน และความกระด้าง (NVH) พร้อมทั้งช่วยลดแรงต้าน ทำให้ประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้น

เพื่อลดความไร้ประสิทธิภาพที่พบเห็นได้บริเวณใต้ท้องรถ ฟอร์ด สตาร์ท คอนเซ็ปต์ จึงติดตั้งแผ่นปิดใต้ท้องรถ
ที่ราบเรียบเป็นแผ่นเดียวตลอดทั้งคัน เพื่อแก้ปัญหาแรงฉุดที่เกิดจากอากาศที่ไหลผ่านใต้ท้องรถได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งยังช่วยลดเสียงรบกวนจากท้องถนนได้อีกด้วย  
โครงสร้างตัวถังของรถต้นแบบของฟอร์ดมีระยะช่วงล้อ 2,300 มิลลิเมตร และมีความยาวรวม 3,700 มิลลิเมตร ความกว้างของตัวถังอยู่ที่ 1,672 มิลลิเมตร และสูงประมาณ 1,400 มิลลิเมตร

ภายในห้องโดยสาร     
แนวทางการออกแบบโดยใช้ส่วนประกอบน้อยชิ้น ได้รับการสานต่อจากภายนอกมาสู่ภายในของฟอร์ด สตาร์ท คอนเซ็ปต์ เน้นความเรียบง่ายของห้องโดยสารแบบค็อกพิตของนักบิน 2 ห้องต่อกัน และการออกแบบที่โค้งมนสไตล์ “อ่างอาบน้ำ” ที่สามารถรองรับผู้โดยสารได้สูงสุด 4 คน ห้องโดยสารดังกล่าวจึงมีรูปโฉมที่เป็นเอกลักษณ์ พร้อมคุณภาพที่เหนือกว่า และลดค่าใช้จ่ายจากการก่อสร้างที่เรียบง่ายโดยใช้วัสดุเพียงชิ้นเดียว

แผงควบคุมอุปกรณ์ภายในรถมีปุ่มควบคุมการทำงานของอุปกรณ์ต่างๆ ที่จัดรวมไว้ด้วยกัน จึงง่ายต่อการย้ายตำแหน่งให้เหมาะสมกับรถที่มีพวงมาลัยอยู่ทั้งทางด้านซ้ายหรือด้านขวา

พื้นที่โดยรอบแผงควบคุมอุปกรณ์ภายในรถและคอนโซลกลางที่โฉบเฉี่ยว ได้รับการตัดขอบให้มีลักษณะเป็นแผงขนาดใหญ่ชิ้นเดียว โดยเริ่มต้นจากฐานของกระจกหน้าและไหลต่อเนื่องไปยังส่วนล่างสุดของคอนโซลกลาง

ขับเคลื่อนด้วยเกียร์ธรรมดา 5 สปีด ที่มีคันเกียร์ติดตั้งอยู่ด้านบนตรงกลางคอนโซล ขณะที่ปุ่มควบคุมการปิดเปิดกระจก และปุ่มกดเพื่อสตาร์ทรถ ติดตั้งยู่ในบนคอนโซลกลางเช่นกัน ผู้ขับขี่ไม่ว่าจะเป็นรถพวงมาลัยด้านขวาหรือด้านซ้าย จึงสามารถใช้งานเครื่องมือเหล่านี้ได้อย่างง่ายดาย

เบาะนั่งแม้จะเน้นความเรียบง่าย แต่ยังคงการออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์เพื่อมอบความสบายสูงสุดให้แก่
ผู้ขับขี่ รวมทั้งมอบความยืดหยุ่นให้เหมาะกับแต่ละบุคคล และความสะดวกในการเข้าไปนั่งที่เบาะด้านหลัง ฐานรองเบาะแบบรางเดียวช่วยให้เลื่อนเบาะไปด้านหน้าและหลังเพื่อให้ผู้โดยสารเข้าไปนั่งยังเบาะหลังได้สะดวก โครงสร้างของเบาะทำจากสารประกอบหลายอย่างเพื่อช่วยลดน้ำหนัก และเบาะนั่งที่ได้รับการหล่อขึ้นยังได้ถูกออกแบบให้มีจุดยึดกับโครงสร้างภายในของรถ จึงสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความพึงพอใจของผู้ขับขี่

พื้นที่ของเบาะนั่งด้านหลังได้ถูกสร้างขึ้นโดยใช้งานหล่อแบบชิ้นเดียว และผู้ใช้งานสามารถถอดเบาะออกได้
ยางหล่อคือวัสดุที่ถูกนำมาใช้ทำพื้นรถ เพื่อมอบความสม่ำเสมอในการออกแบบที่เน้นความเรียบง่ายภายในห้องโดยสาร พรมปูพื้นมีความทนทาน และทำความสะอาดได้ง่าย
ภายในห้องโดยสาร รางและเสาต่างๆ ทั้งหมดทำขึ้นจากอลูมิเนียม นอกจากนี้ ยังมีถุงลมนิรภัยด้านข้างอีกด้วย

เทคโนโลยีเชื่อมต่อการสื่อสารระหว่างมนุษย์และยานยนต์ (HMI)
อุปกรณ์ที่ติดตั้งอยู่ด้านบนของคอนโซลกลาง คือเทคโนโลยีต้นแบบ “มายฟอร์ด โมบาย คอนเซ็ปต์” (MyFord Mobile Concept) ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้ขับขี่สามารถสั่งงานอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ได้อย่างปลอดภัย โดยไม่จำเป็นต้องละมือออกจากพวงมาลัย

หากไม่นับโทรศัพท์แบบสมาร์ทโฟนแล้ว อุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการใช้งานภายในรถอื่นๆ ประกอบด้วย ระบบทำความร้อน ระบบระบายอากาศ และเครื่องปรับอากาศ (HVAC) สัญญาณเตือนการทำงานของเครื่องยนต์ และสัญญาณบ่งบอกการปิด/เปิดการทำงานของถุงลมนิรภัย ที่สามารถมองเห็นและปรับได้ง่ายในขณะขับขี่ ผ่านการสั่งงานด้วยเสียง หรือปุ่มบังคับควบคุมที่ติดตั้งอยู่บนคอนโซลกลาง แสดงผลผ่านหน้าจอกว้าง 6 นิ้ว

ในส่วนของอุปกรณ์เสริม เมื่อผู้ขับขี่เสียบโทรศัพท์แบบสมาร์ทโฟนเข้ากับฐานในขณะที่รถเคลื่อนที่ ผู้ขับขี่
จะสามารถสั่งงานผ่านมายฟอร์ด โมบาย คอนเซ็ปต์ ให้ระบบค้นหารายชื่อในสมุดโทรศัพท์ ค้นหาเส้นทาง
อ่านข้อความในโทรศัทพ์ บอกทิศทาง และใช้งานอุปกรณ์สื่อสารต่างๆ ได้เพียงสั่งงานด้วยเสียง

หากสมาร์ทโฟนได้รับการติดตั้งในขณะที่จอดรถและดับเครื่อง อุปกรณ์เกี่ยวกับการทำงานของรถ และสัญลักษณ์ที่บ่งบอกสถานภาพของอุปกรณ์ต่างๆ จะแสดงผลผ่านมายฟอร์ด โมบาย คอนเซ็ปต์ โดยหน้าจอแสดงผลขนาดใหญ่จะทำงานผ่านบลูทูธ ขณะที่การสั่งงานรถและระบบเครื่องเสียงจะได้รับการควบคุม
ผ่านการสั่งงานด้วยเสียง

มายฟอร์ด โมบาย คอนเซ็ปต์ งดการให้บริการบางประเภท อาทิ การสั่งพิมพ์ข้อความในขณะขับรถ

เพื่อช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถติดตามเทรนด์และพัฒนาการใหม่ล่าสุดของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ได้อย่างสม่ำเสมอ มายฟอร์ด โมบาย คอนเซ็ปต์ จึงได้รับการสร้างสรรค์ให้มีความยืดหยุ่นสูง และสามารถปรับการทำงานให้ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีโทรศัพท์เคลื่อนที่ และตามความต้องการของผู้ขับขี่

ford

ระบบส่งกำลัง     
ฟอร์ด สตาร์ท คอนเซ็ปต์ เปิดตัวพร้อมกับเทคโนโลยีเครื่องยนต์ฟอร์ด อีโคบู๊สต์ ที่มอบพละกำลังสูงสุดและช่วยประหยัดน้ำมันได้ด้วยการทำงานของเครื่องยนต์แบบ 3 สูบ ขนาด 1.0 ลิตร ที่ฟอร์ดจะผลิตในอนาคต

เพื่อตอบสนองต่อเป้าหมายระยะยาวของฟอร์ดที่ต้องการมอบพละกำลังให้แก่เครื่องยนต์มากขึ้นด้วยการใช้เทอร์โบชาร์จร่วมกับระบบไดเร็ก อินเจ็กชั่น เครื่องยนต์เบนซิน 1.0 ลิตร ฟอร์ด อีโคบู๊สต์ จึงให้กำลังและแรงบิดเทียบเท่ากับเครื่องยนต์เบนซิลแบบ 4 สูบ 1.6 ลิตร และคาดว่าจะปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์น้อยกว่าระดับมาตรฐานที่ 100 กรัม/กิโลเมตร

ฟอร์ด สตาร์ท คอนเซ็ปต์ ติดตั้งระบบส่งกำลังเกียร์ธรรมดา 5 สปีด ที่ได้รับการออกแบบมาให้มอบพละกำลังแก่เครื่องยนต์ได้โดยไม่ทำให้ประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันลดลง ระบบส่งกำลังที่ให้แรงบิดสูงของเครื่องยนต์ฟอร์ด อีโคบู๊สต์ แบบ 3 สูบ 1.0 ลิตร และช่วงล่างที่ยึดเกาะถนนได้อย่างมั่นใจสไตล์สปอร์ต จึงทำให้ฟอร์ด สตาร์ท คอนเซ็ปต์ มอบความสนุกให้กับทุกการขับขี่ ซึ่งนับว่าเป็นแก่นสำคัญในดีเอ็นเอของแบรนด์ฟอร์ด

ผลงานจากทีมนักออกแบบระดับโลกซึ่งทำงานอยู่ที่ Strategic Concepts Group Studios ของฟอร์ดในเมืองเออร์ไวน์ รัฐแคลิฟอร์เนีย รถยนต์ต้นแบบแห่งอนาคตที่ให้อารมณ์สปอร์ตคันนี้ คือส่วนผสมที่ลงตัวของเทคโนโลยีเครื่องยนต์ฟอร์ด อีโคบู๊สต์ ที่กำลังจะได้รับการผลิตในอนาคตอันใกล้ และการใช้หลักอากาศพลศาสตร์ ที่มอบความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วยการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งทั้งหมดได้รับการบรรจุเอาไว้ภายใต้การออกแบบที่น่าตื่นเต้น

“ในฐานะที่เป็นรถต้นแบบอย่างแท้จริง ฟอร์ด สตาร์ท จึงไม่ใช่รถที่จะเราตั้งเป้าหมายที่จะผลิต แต่แน่นอนว่าเราอยากได้ยินเสียงตอบรับจากผู้บริโภคซึ่งเป็นกลุ่มคนที่อยู่อาศัยในเมืองใหญ่ ว่าพวกเขามีความคิดเห็นอย่างไรต่องานออกแบบ และอุปกรณ์ต่างๆ ที่รถคันนี้นำเสนอ” โธมัส กล่าว


ตารางราคารถยนต์ล่าสุด

AUDI | Aston Martin | BMW | Chevrolet | CITROEN |  DFSKFerrari | Honda (ฮอนด้า) |