Toyota Supra M/T Edition … ตอบโจทย์สาย Old School แต่ในจำนวนจำกัดนะ
ย้อนกลับไปในยุค 90 หากจะทำรถซักคันให้มัน “แรง” ล่ะก็ “เกียร์ธรรมดา” น่าจะเป็นตัวเลือกหลักๆ แต่เมื่อวิวัฒนาการด้านเทคโนโลยีมีการก้าวอย่างรวดเร็ว ดูเหมือน “เกียร์อัตโนมัติ” ยุคใหม่ จะตอบโจทย์ความดุเดือดได้เร้าใจกว่า แถมยังมากับการขับขี่ที่ “สบาย” กว่าอีกด้วยเช่นกัน เพราะฉะนั้นจึงไม่แปลกที่ยนตรกรรมตั้งแต่ระดับ Sport Car ขึ้นไปถึง Super Car จะมากับ “เกียร์อัตโนมัติ” เป็นส่วนใหญ่ โดยมีรุ่น “เกียร์ธรรมดา” เอาไว้ให้เป็นออพชั่น สำหรับเหล่าลูกค้าสาย Old School ที่ไม่ชอบทิ้งให้ “ขาซ้าย” วางนิ่งๆ เฉยๆ
และด้วยความต้องการดังกล่าว ดูเหมือนจะมีอิทธิพลมากพอสมควร จนทำให้มีข่าวดีจาก Toyota USA ที่เผยรายละเอียดของ Toyota Supra เวอร์ชั่นปี 2023 ซึ่งมีรุ่นเกียร์ธรรมดาออกมาให้เหล่านักขับสาย Old School ได้เลือกเป็นเจ้าของกัน ซึ่งบอกเลยว่าอาจต้องรีบหน่อย เนื่องจากเค้ามีจำนวนการผลิตแบบ Limited คือ 500 คันเท่านั้น
โดยเวอร์ชั่นเกียร์ธรรมดา M/T Edition จะถูกสร้างขึ้นบนพื้นฐานของรุ่นย่อย 3.0 Premium เป็นหลัก โดยเพิ่มการเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ ลงไปในส่วนของรูปลักษณ์ เพื่อสร้างความสดใหม่ ซึ่งไล่ตั้งแต่โทนสีตัวถังที่จะมีให้เลือก คือ สีขาว Matte White และสีเทา CU Later Gray เสริมหล่อด้วยตราสัญลักษณ์คำว่า “Supra” โทนสีแดง เช่นเดียวกับเหล็กค้ำโช๊ค (Red Strut Tower Braces) ในห้องเครื่อง
ภายในห้องโดยสารให้ความรู้สึกหรูหรา และความสปอร์ต ด้วยวัสดุหนัง Cognac Leather โดยสีน้ำตาล เสริมด้วยหนัง Alcantara ของถุงเกียร์ และความบันเทิงชุดใหม่ ทั้งจากเครื่องเสียงแบรนด์ JBL Premium Sound System แฃะเบาะนั่งปรับไฟฟ้า ที่มากับระบบนวด Lumbar Support
ขุมพลังยังคงมากับเครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบขนาด 3.0 ลิตร Turbocharged พละกำลัง 387 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 6 สปีด ซึ่งมาพร้อมอารมณ์การขับขี่ที่เปลี่ยนไป จากการอัพเกรดในรายละเอียดต่างๆ ไล่มาตั้งแต่ “คันเกียร์” ที่ออกแบบใหม่ให้มีระยะห่างจากคอนโซลหน้าราวๆ 1.7 นิ้ว เพื่อให้ใช้งานได้อย่างถนัดมือมากขึ้น ทั้งยังมากับระบบ iMT (Intelligent Manual Tranmission) ที่ช่วยให้การเปลี่ยนเกียร์เป็นไปอย่างต่อเนื่อง และมอบความเร้าใจได้ชัดเจนมากขึ้น จากอัตราทดเฟืองท้ายที่เปลี่ยนใหม่จาก 3.15 ในรุ่นเกียร์อัตโนมัติ เป็น 3.46 สำหรับรุ่นเกียร์ธรรมดา
ระบบพวงมาลัยก็มีการปรับเซ็ทขึ้นใหม่ เช่นเดียวกับระบบช่วงล่าง เพื่อให้รับกับน้ำหนักใต้ปสริงที่เบาลงอีกราว 1.2 กก. จากล้ออัลลอยด์ขนาด 19 นิ้วลายใหม่ รวมถึงชุดเกียร์ธรรมดา 6 สปีดใหม่ เที่รวมแล้วมีน้ำหนักเบาลงถึง 21.8 กก. และทั้งหมดจะมอบความเร้าใจ ด้วยการเปิดโอกาสให้ทำการ Drift ได้ง่ายขึ้นเมื่อใช้ Track Mode ตลอดจนมอบความมั่นใจมากขึ้นด้วยระบบ Hairpin+ ที่ช่วยให้การหมุนของล้อต่างกัน จนสามารถซิ่งบนถนนคดเคี้ยวได้มันส์มากขึ้นอีกด้วย
