รีวิว : New Honda Freed E Navi Sport ( ฮอนด้า ฟรีด ) ราคารถยนต์ใหม่ 1,074,500 บาท
เข้าเทศกาลแสน…สนุก…สนาน อย่างสงการนต์ หลายๆ ท่านก็คงจะนึกถึงการนั่งท้ายรถกระบะ สาดน้ำกันไป สาดน้ำกันมา ผมกลับรู้สึกว่าปีนี้ไม่อยากเปียกซักเท่าไร แต่ก็ยังอยากเล่นน้ำอยู่ เอาแบบไปกับเพื่อนเยอะๆ แอบเอาปืนฉีดน้ำฉีดสาว…สาวก็น่าสนุกดี ผมเลยคิดถึง New Honda Freed ( ฮอนด้า ฟรีด ) ขึ้นมาทันที เพราะรถคันนี้น่าจะตอบโจทย์ผมได้
Honda Freed
ส่วนผสมจากเรขาคณิต
หลังผมสรุปได้ว่าเดือนนี้จะ Test Drive เจ้า New Honda Freed ก็ส่งเมล์หา ฝ่าย PR บริษัท ฮอนด้า ออโต โมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ทันทีไม่ถึง 10 นาทีก็ได้เมล์ตอบว่าโอเคมารับรถได้เลย มีคิวว่างอยู่พอดี
ด้วยคอนเซ็ปของ Freed เป็นรถ MUV ที่เน้นการใช้งานในเมืองเป็นหลัก เป็นรถยนต์นั่งอเนกประสงค์ที่ได้รับรางวัล 2008-2009 Car Of The Year (Best Value)
เรื่องการออกแบบใช้รูปทรงเรขาคณิตสามเหลี่ยมและสี่เหลี่ยมมาผสมกันในแบบ European Style ผมลองสังเกตุดูจากด้านหน้า ถือว่าโดนใจไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นไฟหน้ามัลติรีเฟลกเตอร์ ที่ใช้โคมด้านในสีดำ กันชนหน้ามาพร้อมไฟตัดหมอก
ด้านข้างโดดเด่นที่ประตูสไตล์ อันนี้แหละที่ผมชอบมากสามารถกดเปิด-ปิด จากรีโมท และตรงคอนโซลฝั่งคนขับ หรือคนนั่งเบาะแถวที่สองจะเปิดเองก็ได้ ซึ่งออฟชั่นแบบนี
ถ้าราคารถไม่ถึง 2.5 ล้าน ไม่มีให้คุณแน่ ด้านหลังดูกระทัดรัดดี แต่มีคนถามผมบ่อย…บ่อย ว่าทำไมเสาวิทยุไม่อยู่ตรงกลาง ง่ายๆ ครับเพื่อจะหลบสปอยเลอร์บนหลังคาซึ่งเป็นออฟชั่นเสริมของตัว Top ครับ อันนี้ผมถามจากวิศวกรตอนไป Test Drive กลุ่มครับ
118 แรงม้าในเมืองก็เอาอยู่
คงได้เวลามาลองขับกันแล้ว คำแรกที่ใคร…ใคร มักตั้งคำถามว่า เครื่องยนต์แค่ 4 สูบแถวเรียง 16 วาล์ว i-VTEC ขนาด 1.5 ลิตร 118 แรงม้า บวกกับระบบส่งกำลังแบบอัตโนมัติ 5 สปีด จะรับรถอเนกประสงค์ขนาด 7 ที่นั่งไหวเหรอ ถ้าเรามองตามคอนเซ็ปของรถที่วิศวกร HONDA ออกแบบมามันไหวแน่นอนครับ แต่ถ้าจะเอาไปขึ้นภูเขา เดินทางต่างจังหวัดไกล…ไกลก็คงเหนื่อยซักหน่อย
มาครับอย่างที่ผมบอกไปตั้งแต่ต้นว่าเราจะเป็นเล่นน้ำสงการนต์แบบคุณหนู…คุณหนูไม่เปียก ฉนั้นเราก็ต้องมา Test Drive กันในเมืองรถติด…ติด ให้เหมือนกับตอนเล่นน้ำสงกรานต์ขยับที่ละเล็กละน้อย นาน…นานขยับที ตรงนี้เครื่องยนต์ขอสรุปสั้น…สั้น “พอกับการใช้งานครับ” ที่นี้ก็มาลองดูอีกจุดเด่นคือความกระทัดรัด
เราลองไปหาที่จอดรถที่จอดยากๆ พันธุ์ทิพย์เลยดีกว่า ก็ไม่ใช่ปัญหาครับจอดง่าย แถมรุ่นนี้มีกล้องส่องหลังให้อีกยิ่งจอดง่ายเข้าไปอีก เพื่อความมั่นใจเรามาลองขึ้นที่จอดรถที่แพลตตินั่มกันดู ในรถผมมีผู้โดยสารครบ 7 ที่นั่ง ตอนขับขึ้นไป แม้จะเหยียบคันเร่งมากหน่อย แต่ก็ไม่มีปัญหาครับ ไม่ไหลลงแน่…แน่
จิบ…E 20 เล็ก…เล็ก
หลังจากวนอยู่ในเมืองมาก็เกือบจะเย็นแล้ว ออกเดินทางไกลบ้างดีกว่า เอาซักบางแสนก็พอผมเติมน้ำมัน E 20 เต็มถังเพื่อวัดอัตราปริโภคเชื้อเพลิง ผมขึ้นทางด่วนบางประกงขับด้วยความเร็วคงที่ประมาณ 100 กม./ชม. ใช้ระยะทางไป 67 กม. เติมน้ำมันอีกทีใช้เงินไป 128 บาทครับ ขากลับขึ้นทางด่วนอีกทีงานนี้ขอลองซิ่งหน่อย ในช่วงความเร็ว 120-140 กม./ชม. ภายในห้องโดยสารถือว่าเก็บเสียงได้ดี ลองกดคันเร่งลงไปอีกความเร็วที่เรือนไมล์ที่มีมาตราวัดเรืองแสงก็แจ้งว่าเกิน 160 กม./ชม. แล้วครับ แต่ที่น่าประทับใจอีกจุดคือระบบเกียร์ที่นิ่มนวลครับ แต่ความเร็งสูงเกิน 150 กม./ชม. บวกกับลมที่แรงมากบนทางด่วน รถออกอาการส่ายเล็กน้อย
มาครบกล้องส่องหลัง ระบบ Navi
พอลงทางด่วนมาก็หาที่จอดในปั๊ม มาลองสังเกตุภายในแบบจริง…จริง จัง…จัง ดูบ้าง คอนโซลออกแบบคล้ายสองชั้น ตกแต่งด้วยเมทัลลิก พร้อมด้วยระบบ Navigation ห้องโดยสารถือว่ากว้างไม่รู้สึกอึดอัด พื้นรถดีไซน์ให้แบนราบ สามารถเดินไปถึงเบาะแถว 3 สบายๆ ลองนั่งเบาะนั่งแถวที่สองถือว่า กระชับ นั่งสบายเหมาะกับการเดินทางดีครับ แต่ผมลองไปนั่งแถวที่สาม ถ้าเป็นคนตัวใหญ่สูง 180 ซม.ขนาดผมจะรู้สึกอึดอัดนิดๆ แต่ก็พอนั่งได้ครับ หรือถ้าไม่ใช้เบาะแถวที่สามก็พับเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระได้ครับ
ความอเนกประสงค์ 7 ที่นั่ง หรูหรา พร้อมความประหยัด ของชีวิตคนเมือง ใน ราคา 1.074,500 บาท คุ้มสำหรับคุณหรือไม่ ลองสัมผัสด้วยตัวเองทุกโชว์รูมของ HONDA ครับ
สามารถติดตามอ่านเต็มรูปแบบ iAMCAR VARIETY E-MAGAZINE Issue 16 แบบ Free!!!