All New BMW 5 series 2010
BMW สร้างบรรทัดฐานใหม่ให้กับเซ็กเมนท์ซาลูนระดับผู้บริหาร ทั้งในด้านประสิทธิภาพความประหยัดน้ำมัน ความหรูหราสะดวกสบาย และอารมณ์การขับขี่สไตล์สปอร์ตซาลูน ด้วยการเปิดตัว BMW ซีรี่ย์ 5 ใหม่ให้เร็วขึ้นเพื่อที่ให้เกิดความต่อเนื่องของตลาด อีกทั้งเป็นการต่อยอดความสำเร็จบนรากฐานที่มั่นคงที่รุ่นเดิมได้สร้างไว้
นอกจาก BMW ซีรี่ย์ 5 ใหม่จะโดดเด่นในด้านสมรรถนะความปราดเปรียวและเทคโนโลยีที่เหนือชั้น ซึ่งเป็นจุดเด่นของบีเอ็มดับเบิลยูอยู่แล้ว มันยังได้ถูกสร้างให้มีความสะดวกสบายเพิ่มขึ้น ซึ่งจะทำให้ BMW ซีรี่ย์ 5 ใหม่เป็นรถซาลูนระดับผู้บริหารที่ผสมผสานระหว่างความหรูหราสะดวกสบายและอารมณ์การขับขี่แบบสปอร์ตซาลูนได้ลงตัวที่สุด อีกหนึ่งจุดเด่นสำหรับ BMW ซีรี่ย์ 5 ใหม่ คือ ดีไซน์ที่สง่างาม มันได้รับรางวัลดีไซน์ระดับโลกถึงสองรางวัลในปีนี้ กล่าวคือ รางวัล Red Dot Design Award 2010 และรางวัล Auto Bild Design Award จากคาร์แรคเตอร์ของ BMW ซีรี่ย์ 5 ใหม่ที่โดดเด่นทั้งในด้านเทคโนโลยีทันสมัยและดีไซน์ที่หรูหราสง่างาม
สัดส่วนสมดุล ดีไซน์สง่างาม แฝงความสปอร์ตในสไตล์ BMW
BMW ซีรี่ย์ 5 ใหม่มีสัดส่วนที่สมดุลอย่างลงตัวในทุกมุมมอง ฐานล้อที่ยาว ประกอบกับลายเส้นแนวขนานด้านข้าง เน้นความพลิ้วไหวอย่างต่อเนื่อง ให้ความรู้สึกถึงความยาวของตัวรถ ในขณะที่แนวหลังคาที่ลาดเทลงให้ความรู้สึกถึงรถแบบสปอร์ตคูเป้ แฝงความสปอร์ตดุดันในความสง่างามได้อย่างแยบยล เส้นขอบหน้าต่างบานหลังหักมุมในแบบ ‘Hofmeister Kink’ ซึ่งนอกจากจะสะท้อนเอกลักษณ์ความเป็นบีเอ็มดับเบิลยูอย่างลงตัวแล้ว ยังขับเน้นถึงความโดดเด่นให้กับผู้โดยสารที่นั่งด้านหลัง
BMW ซีรี่ย์ 5 ใหม่ได้ถูกออกแบบมาให้เน้นถึงความสปอร์ตผสมผสานความหรูหราและสง่างามได้อย่างกลมกลืน ลายเส้นที่ต่อเนื่องจากด้านหน้า ตลอดความยาวตัวรถด้านข้าง อ้อมสู่ด้านหลัง ขับเน้นให้เห็นถึงความหรูหราของรถซาลูนระดับผู้บริหาร ในขณะเดียวกันส่วน Power Dome บนฝากระโปรงหน้าถูกประดับด้วยลายเส้นที่ถูกวางอย่างบรรจงในแนวทแยงมุ่งเข้าสู่สัญลักษณ์ ‘ไตคู่’ ขนาดใหญ่ ขับเน้นถึงความมีอำนาจ แฝงความคมคาย ไฟหน้าพร้อมไฟวงแหวน LED ให้ความรู้สึกเสมือนดวงตาที่จ้องเขม็งอย่างมุ่งมั่น และในด้านหลัง ลายเส้นแนวขวาง ประกอบกับแทร็คที่กว้างและซุ้มล้อที่กางออก บ่งบอกถึงความหนักแน่นและมั่นคง สร้างมุมมองที่น่าประทับใจให้กับผู้พบเห็น
นอกจากความสง่างามที่สร้างให้ BMW ซีรี่ย์ 5 ใหม่โดดเด่นกว่าใครในยามกลางวันแล้ว นักออกแบบของบีเอ็มดับเบิลยูได้ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีระบบไฟส่องสว่างและไฟ LED เพื่อสร้างภาพลักษณ์ยามค่ำคืนที่โดดเด่นได้อย่างน่าอัศจรรย์ ดีไซน์ระบบไฟหน้าที่ผสมผสานระหว่างระบบไฟ LED และไฟหน้าแบบไบ-ซีนอน พร้อมกับพื้นผิวโค้งเว้า สร้างแสงเงาที่สง่างามอย่างแตกต่าง สำหรับด้านหน้า ไฟท้ายที่ใช้ระบบไฟ LED แนวขวาง ถูกออกแบบให้เฉียงขึ้นเล็กน้อย พร้อมทั้งอ้อมรอบตัวถังสู่ด้านข้าง ประกอบกับพื้นผิวโค้งเว้า และลายเส้นแนวขวาง สร้างมุมมองที่เป็นเอกลักษณ์ บ่งบอกถึงความเป็นซาลูนผู้บริหารระดับหรูแม้ยามค่ำคืน
สองสุดยอดแห่งเครื่องยนต์เปี่ยมสมรรถนะ ด้วยเทคโนโลยี EfficientDynamics
BMW 535i กับเครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบแถวเรียง 306 แรงม้า
และ BMW 530d กับเครื่องยนต์ดีเซล 6 สูบแถวเรียง 245 แรงม้า
BMW 535i ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 3.0 ลิตรแบบ 6 สูบแถวเรียงรุ่นใหม่ล่าสุด ที่เพียบพร้อมด้วยเทคโนโลยี EfficientDynamics ที่เหนือชั้น ทั้งระบบอัดอากาศแบบ TwinPower Turbo ที่ทำงานร่วมกับระบบวาล์วแปรผันอัจฉริยะ VALVETRONIC และระบบฉีดน้ำมัน HPI High Precision Injection
เครื่องยนต์ของ BMW 535i เป็นครั้งแรกที่วิศวกรของบีเอ็มดับเบิลยูได้ประยุกต์ใช้ระบบอัดอากาศแบบ TwinPower Turbo ควบคู่ไปกับระบบวาล์วแปรผันอัจฉริยะ VALVETRONIC ระบบ TwinPower Turbo ทำงานโดยใช้หลักการของ Twin-Scroll คือ แบ่งช่องทางเดินไอเสียที่จะป้อนเข้าสู่ระบบเทอร์โบเป็นสองทาง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการอัดอากาศเสมือนกับการใช้ระบบเทอร์โบคู่ แต่ประหยัดพลังงานมากกว่า โดยเฉพาะในเรื่องของระบบหล่อเย็นของเทอร์โบ ในขณะเดียวกัน ระบบวาล์วแปรผันอัจฉริยะ VALVETRONIC จะทำหน้าที่ป้อนอากาศในปริมาณที่เหมาะสมกับความต้องการของเครื่องยนต์ตลอดทุกช่วงรอบ
เครื่องยนต์เบนซินสมรรถนะสูงของ BMW 535i เครื่องนี้สามารถผลิตกำลังสูงสุดถึง 306 แรงม้า แรงบิดสูงสุดถึง 400 นิวตันเมตร ระหว่างรอบเครื่องยนต์ 1,200-5,000 รอบ ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด สามารถสร้างอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ได้ภายในเวลาเพียง 6.1 วินาที อีกทั้งยังมีอัตราการประหยัดน้ำมันเฉลี่ยที่ 11.9 กิโลเมตรต่อลิตร และค่าเฉลี่ยอัตราการคายไอเสียคาร์บอนไดอ๊อกไซด์เพียง 195 กรัมต่อกิโลเมตร ตามมาตรฐานการวัดค่าเฉลี่ย EU
BMW 530d ใช้เครื่องยนต์ดีเซลแบบ 6 สูบแถวเรียง ขนาด 3.0 ลิตร ผลิตจากวัสดุอลูมิเนียมน้ำหนักเบา พร้อมด้วยเทคโนโลยีอัดอากาศแบบเทอร์โบแปรผันและเทคโนโลยีระบบฉีดน้ำมันด้วยหัวฉีด Piezo ที่สามารถฉีดน้ำมันด้วยแรงดันสูงถึง 1,800 บาร์
เครื่องยนต์ดีเซลที่มีน้ำหนักเพียงแค่ 185 กิโลกรัมเครื่องนี้สามารถผลิตแรงบิดมหาศาลถึง 540 นิวตันเมตร ที่รอบเครื่องยนต์ 1,750-3,000 รอบและกำลังสูงสุดถึง 245 แรงม้า ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติไฟฟ้า 8 สปีด สามารถสร้างอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายในเวลาเพียง 6.3 วินาที อีกทั้งยังมีความประหยัดน้ำม้นและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมดีที่สุดในคลาส ด้วยอัตราการประหยัดน้ำมันเพียง 16.4 กิโลเมตรต่อลิตร และอัตราการคายไอเสียคาร์บอนไดอ๊อกไซด์เพียง 160 กรัมต่อกิโลเมตร ตามมาตรฐานการวัดค่าเฉลี่ย EU
เมื่อเปรียบเทียบกับรุ่นก่อนหน้า BMW 530d รุ่นใหม่นี้มีกำลังเพิ่มขึ้นถึง 10 แรงม้าหรือ 4 % แรงบิดเพิ่มขึ้น 8% หรือ 40 นิวตันเมตร ซึ่งทำให้สามารถมีอัตราเร่งที่ดีกว่าเดิมอีก 0.5 วินาที และที่สำคัญ คือ สมรรถนะที่สูงขึ้นนั้นมาพร้อมกับอัตราการประหยัดน้ำมันที่ดีขึ้นถึง 8% และอัตราการคายไอเสียคาร์บอนไดอ๊อกไซด์น้อยลง 10%
ระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด
นวัตกรรมระบบส่งกำลังขั้นสุดยอด ประหยัดน้ำมัน
พร้อมทั้งสมรรถนะและประสิทธิภาพในการถ่ายทอดกำลังสูงสุด
ระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดชุดนี้จัดเป็นสุดยอดนวัตกรรมระบบส่งกำลัง ที่เหนือชั้นกว่าทั้งระบบเกียร์อัตโนมัติและระบบเกียร์แบบคลัทช์คู่ในปัจจุบัน มันสามารถให้ทั้งสมรรถนะ ประสิทธิภาพ และความเร็วในการเปลี่ยนเกียร์ที่ยอดเยี่ยม อีกทั้งความนุ่มนวลในการเปลี่ยนเกียร์ ในขณะเดียวกัน มันยังมีขนาดกะทัดรัดและน้ำหนักเบา
BMW 535i และ BMW 530d ยังมาพร้อมกับระบบฟังก์ชั่น Sport Automatic ซึ่งเป็นระบบเสริมของเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดชุดนี้ ซึ่งนอกจากจะมีดีไซน์พิเศษสำหรับคันเกียร์ที่คอนโซลกลางแล้ว ยังมีระบบแป้นเปลี่ยนเกียร์บนพวงมาลัย ที่ใช้ระบบการเปลี่ยนเกียร์แบบเดียวกับในรถ BMW M ทั้งหลาย คือ เปลี่ยนเกียร์ขึ้นด้วยแป้นด้านขวาและเปลี่ยนเกียร์ลงด้วยแป้นด้านซ้าย
ในด้านนวัตกรรมยานยนต์ ระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดชุดนี้จัดได้เป็นหนึ่งในสุดยอดนวัตกรรมยานยนต์ในยุคนี้ มันเป็นระบบชุดเกียร์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด ทั้งในแง่ของความสามารถในการถ่ายทอดกำลัง อีกทั้งยังมีการสูญเสียกำลังที่เกิดขึ้นเนื่องจากแรงเสียดทานภายในระบบน้อยมาก ในการเปลี่ยนเกียร์แต่ละครั้ง จะอาศัยการเปิดคลัทช์เพียงสองชุดเท่านั้น ซึ่งนอกจากจะทำให้มีประสิทธิภาพสูงแล้ว ยังช่วยให้เกิดความร้อนในระบบน้อยด้วย และด้วยจำนวนชุดเกียร์ที่มีมากถึง 8 ชุด ทำให้มันสามารถมีอัตราทดเกียร์ยาวขึ้นในเกียร์สูง อีกทั้งยังมีระบบบริหารเกียร์ที่ควบคุมด้วยสมองกลอิเลคทรอนิคที่ช่วยทำให้มันเปลี่ยนเกียร์ได้อย่างเหมาะสมและนุ่มนวลในทุกช่วงความเร็วและประหยัดน้ำมันเป็นเยี่ยมอีกด้วย
ความสะดวกสบายเหนือระดับ
สำหรับผู้บริหารหัวใจสปอร์ต
วิศวกรของบีเอ็มดับเบิลยูออกแบบให้ BMW ซีรี่ย์ 5 ใหม่มีความนุ่มสบายในการขับขี่มากขึ้นกว่าในรุ่นเดิม แต่ในขณะเดียวกันก็ยังไว้ลายความเป็นสุดยอดสปอร์ตซาลูน ฐานล้อของ BMW ซีรี่ย์ 5 ได้รับการเพิ่มความยาวจากรุ่นก่อนหน้าอีก 80 มิลลิเมตร เป็น 2,968 มิลลิเมตร ฐานล้อที่ยาวขึ้นนี้ นอกจากจะช่วยเพิ่มความกว้างขวางสะดวกสบายของห้องโดยสารและเพิ่มความนุ่มสบายสำหรับผู้โดยสารแล้ว ยังเป็นการเพิ่มความปราดเปรียวคล่องตัวในการบังคับรถให้กับผู้ขับด้วย ในด้านของมิติตัวถัง ความยาวของ BMW ซีรี่ย์ 5 ได้รับการเพิ่มขึ้นจากรุ่นก่อนหน้าอีก 58 มิลลิเมตร เป็น 4,899 มิลลิเมตร ในขณะที่ความกว้างเพิ่มขึ้นอีก 14 มิลลิเมตร เป็น 1,860 มิลลิเมตร แต่ความสูงลดลง 4 มิลลิเมตร อยู่ที่ 1,464 มิลลิเมตร
นอกจากนั้น BMW ซีรี่ย์ 5 ใหม่ยังมีนวัตกรรมช่วงล่างผลิตจากวัสดุอลูมิเนียมน้ำหนักเบา พร้อมระบบช่วงล่างแบบดับเบิลวิชโบนในด้านหน้า และระบบช่วงล่างแบบมัลติลิงค์ Integral V ในด้านหลัง ทำให้บีเอ็มดับเบิลยู
ซีรี่ย์ 5 ใหม่ให้ความนุ่มสบายสมกับเป็นซาลูนระดับผู้บริหาร ในขณะที่ยังคงปราดเปรียวอย่างเหนือขั้นในสไตล์สปอร์ตซาลูน สำหรับด้านระบบควบคุมบังคับเลี้ยว วิศวกรของบีเอ็มดับเบิลยูเลือกใช้ระบบพวงมาลัยไฟฟ้าที่นอกจากสามารถให้การบังคับควบคุมได้อย่างเฉียบคมแล้ว ยังช่วยประหยัดน้ำมันเพิ่มขึ้นด้วย และทั้ง BMW 535i และ BMW 530d มาพร้อมกับอ๊อปชั่นระบบเลี้ยวสี่ล้ออัจฉริยะ Integral Active Steering เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้กับทั้งผู้ขับและผู้โดยสารอีกด้วย
ราคาจำหน่าย
รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และโปรแกรม BSI BMW Service Inclusive 5 ปี / 100,000 กิโลเมตร
BMW 535i (CBU) : 7,599,000 บาท
BMW 530d (CBU): 7,299,000 บาท