All New ISUZU D-Max Press Trip 2012 Ubonratchathani
บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด เชิญคณะสื่อมวลชนท่องเที่ยวชมบรรยากาศริมน้ำโขง จ. อุบลราชธานี กับกิจกรรมดีๆ “All New ISUZU D-Max Press Trip 2012” เดินทางท่องเที่ยวด้วยรถยนต์ ในบรรยากาศสบายๆ แบบไม่มีหลง เพราะมี “ไอ-จินนี่” และยอดยนตรกรรมยอดประหยัดน้ำมัน
ทริปนี้ออกเดินทางแบบสบายๆ ด้วยเครื่องบินออกเดินทางจากสนามบินดอนเมือง มุ่งหน้าสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติอุบลราชธานี เมื่อก้าวเท้าเหยียบเมืองอุบลราชธานี ทั้งคณะมุ่งหน้าไปกราบสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ประจำจังหวัดกันที่ วัดมหาวนาราม หรือที่ชาวบ้านนิยมเรียกกันว่า “วัดป่าใหญ่” ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่ และถือเป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดอุบลราชธานี มีมูลเหตุการสร้าง คือ เมื่อพระปทุมวรราชสุริยวงศ์ (ท้าวคำผง) เจ้าเมืองอุบลราชธานี คนแรก ได้ก่อสร้างเมืองอุบลราชธานี บริเวณริมฝั่งแม่น้ำมูล เป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงได้ก่อสร้างวัดขึ้นที่ริมฝั่งแม่น้ำมูลนั่นเอง โดยตั้งชื่อว่า “วัดหลวง” เพื่อให้เป็นสถานที่บำเพ็ญกุศลแก่ประชาชนทั่วไป วัดนี้จึงนับได้ว่าเป็นวัดแรกของเมืองอุบลราชธานี หลังจากที่เราได้กราบขอพรเพื่อเป็นสิริมงคลแล้ว
เราก็เดินทางต่อไปเพื่อรับรถ All New ISUZU D-Max ที่โชว์รูมอีซูซุตังปักอุบลราชธานี ซึ่งเป็นโชว์รูมขนาดใหญ่ของภาคอีสาน ให้บริการทั้งในส่วนของโชว์รูมขายรถ รับซื้อรถมือสอง ศูนย์บริการ อะไหล่ ซ่อมสีตัวถัง เรียกได้ว่าครบวงจร เมื่อผมได้รถ All New ISUZU D-Max Hilander 4 ประตู เกียร์ออโต้ เป็นพาหนะคู่กาย เรามุ่งหน้าเดินทางกันต่อในเส้นทางนอกเมืองบน High Way โล่งๆ ขับแบบชิวๆ ไปเรื่อยๆ ไม่รีบไม่ร้อน สิ่งที่ผมสัมผัสได้กับ All New ISUZU D-Max คือ ความนุ่มนวลที่มีมากขึ้นกว่ารุ่นเดิม ทำให้ลดความเหนื่อยล้าของการเดินทางลงไปได้เยอะ ผ่านไปเกือบร้อยกิโลเมตรถึงจุดหมายที่ 2 ยังคงเป็นวัดเช่นเดิม “วัดถ้ำคูหาสวรรค์” ซึ่งอยู่ก่อนถึงอำเภอโขงเจียมประมาณ 6 กม. วัดนี้ก่อสร้างเมื่อปี พ.ศ. 2521 โดย “หลวงปู่คำคนิง จุลมณี” ซึ่งใช้เป็นที่ปฏิบัติธรรมจำพรรษา ปัจจุบันหลวงปู่ท่านได้ มรณภาพแล้ว แต่ร่างกายของท่านไม่เน่าเปื่อย บรรดาลูกศิษย์ได้เก็บร่างของท่านไว้ในโลงแก้วเพื่อบูชา บริเวณวัดมีจุดชมวิวสามารถมองเห็นทัศนียภาพของลำน้ำโขงและฝั่งลาวได้อย่างชัดเจน วัดนี้จึงถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ที่ต้องแวะก่อนจะเข้าอำเภอ โขงเจียม
จากที่นี่เราเดินทางต่ออีกไม่ไกลก็ถึงที่พักในค่ำคืนนี้ “ทอแสงโขงเจียมรีสอร์ท” แม้จะไม่ใช่โรงแรมระดับ 5 ดาว แต่ตกแต่งห้องพักด้วยสถาปัตยกรรมร่วมสมัย 3 ประเทศด้วยกัน คือ ไทย ขอม และบาหลี แถมด้วยไฮไลท์ที่ผมชอบมาก คือ มื้อค่ำริมน้ำโขงสุดโรแมนติก และมื้อเช้าริมน้ำโขง นั่งมองประเทศเพื่อนบ้านพร้อมแสงอาทิตย์อ่อนๆ บรรยายกาศอบอุ่นเป็นที่สุด
วันสุดท้ายก่อนกลับไปพจนรถติดที่กรุงเทพฯ เรารับประทานอาหารเช้าเสร็จ เราก็เริ่มออกเดินทาง มุ่งหน้าไปชม “น้ำตกแสงจันทร์” หรือ “น้ำตกลงรู” เป็นน้ำตกขนาดเล็ก สูงประมาณ 8 เมตร เกิดจากลำห้วยท่าโลงไหลตกลงจากเพิงหน้าผาเป็นช่องโพรงอันเกิดจากการกัดเซาะของน้ำตามธรรมชาติ ลักษณะของโพรงมองดูคล้ายรูปพระจันทร์ครึ่งเสี้ยว มีเส้นผาศูนย์กลางประมาณ 2 เมตร ก่อนไหลลงสู่ลำน้ำโขง ซึ่งเป็นอีกหนึ่งความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ แต่ในระหว่างทางกลับเข้าตัวเมืองอุบลราชธานี เส้นทางมีอุปสรรคมากมาย เป็นหลุมเป็นบ่อ ทั้งยังมีทางโค้งต่างๆ ประกอบกับถนนแบบ 2 เลนสวนทางกัน จึงต้องใช้รถที่มีสมรรถนะทั้งในส่วนของช่วงล่าง และสมรรถนะของเครื่องยนต์ที่ดีพอ จึงจะผ่านไปได้อย่างชิวๆ แบบ All New ISUZU D-Max ครับ
สุดท้ายก่อนขึ้นเครื่องกลับ เราก็อดไม่ได้ที่จะแวะทาน “ก๋วยจั๊บญวน” ที่ “ร้านก๋วยจั๊บ 99” ที่คุ้นหูของชาวอุบลฯ ร่ำลือไปทั่วเมือง ร้านนี้ขายก๋วยจั๊บญวน หรือก๋วยจั๊บเส้นเล็ก อาหารพื้นเมืองคนอุบลฯ ลักษณะเส้นก๋วยจั๊บญวน จะเป็นเส้นกลม เล็ก มีความเหนียว เอามาต้มกับน้ำซุป โรยด้วยหอมเจียว ใส่เครื่องตามต้องการ หลักๆ ก็จะเป็นหมูยอ กับเลือดหมู หรืออาจมีไข่นกกระทาด้วย นอกจากนี้สามารถเพิ่ม กระดูกหมู ปีกไก่ ตีนไก่ น่องปีก ได้ตามชอบใจครับ
จบทริปท่องเที่ยวอย่างประทับใจ ต้องขอบคุณ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด ที่ให้เราได้ร่วมทริปนี้ พร้อมพาหนะสมรรถนะดี และที่สำคัญเล็งเห็นการกระจายรายได้สู่ชุมชนรอบนอก โดยการจัดทริปท่องเที่ยวทั่วไทยแบบนี้ครับ