BANGSAEN THAILAND SPEED FESTIVAL 2012 Day 3
เปิดสนามวันสุดท้ายกันตั้งแต่ 8.30 น. ประเดิมความเร้าใจด้วยรถในตำนานอย่างรุ่น HK Mini ที่ออกมาสร้างสีสันกันตั้งแต่เช้าตรู่ รวมถึง Japan Retro + Euro Classic ที่แม้จะรถจะมีอายุอานามมากกว่า 25 ปีทุกคัน แต่ความแรงที่ส่งผ่านให้ผู้ชมรอบสนามนั้นก็มีไม่น้อย ยังไม่จุใจในช่วงเช้ามีรุ่น Lotus Cup Thailand รถหรูดีกรีที่ออกมาโชว์ความมันส์ให้ผู้ชมรอบสนาม ส่วนผู้ผ่านธงตราหมากรุกเป็นท่านก็ไม่ใช่ใครอื่น หมายเลข 28 แจ็ค แลมวาร์ด
Super Pickup Thailand Championship Round 7
ศึกตัดสินแชมป์ประจำปีต้องมีความมันส์อย่างแน่นอน เริ่มจากหัวแถวสนามนี้เป็นรถหมายเลข 81 เอกสิทธิ์ เกรียงโกมล ออกตัวแบบ Rolling Start เมื่อธงเขียวโบกสะบัด รถทุกคันกดคันเร่งเต็มเหนี่ยว มุ่งหน้าโค้งซ้ายแรกขึ้นเขา พีท-ทองเจือ หมายเลข 17 พุ่งขึ้นเป็นจ่าฝูง แต่ดันเสียหลักหมุน ทำให้อันดับ 1 กลายเป็นของหมายเลข 11 ไพฑูรย์ ธรรมาศิริกุล ส่วน พีท-ทองเจือ หมายเลข 17 จากอันดับ 3 ขยับขึ้นมาเป็นอันดับ 2 ตามมาด้วย หนึ่ง-มานะ พรศิริเชิด หมายเลข 59 ในอันดับที่ 3 แต่ด้วยความร้อนรนพีท-ทองเจือ หมายเลข 17 มาพลาดท่าเสียหลักหมุนอีกครั้งที่โค้งเอสเอส ร่วงตำแหน่งไปหลายอันดับ และยังทำให้ มานะ พรศิริเชิด หมายเลข 59 ได้จังหวะสวนขึ้นมาเป็นจ่าฝูงได้อีกด้วย ช่วงท้ายการแข่งดุดันเป็นอย่างมากทั้งหมุน ทั้งชน พลัดกันนำกันตามจนจบการแข่งขัน โดยมีอันดับที่ 1 เป็นหมายเลข 11 ไพฑูรย์ ธรรมาศิริกุล ส่วนอันดับ 2 มานะ พรศิริเชิด หมายเลข 59 และอันดับ 3 คือ พีท-ทองเจือ หมายเลข 17
Super 2000 Round 8
ออกตัวแบบ Rolling Start ในรุ่น Super 2000 หมายเลข 21 ณัยนพ ภิรมย์ภักดี อยู่ในตำแหน่งจ่าฝูง เพียงรอบที่ 2 ก็เกิดเหตุวุ่นวายขึ้นเพราะจู่ๆ รถหมายเลข 41 ณัฐพงษ์ เลิศล้ำประเสริฐกุล ก็พุ่งพรวดขึ้นมาแล้วเสียอาการ ไปเบียดรถหมายเลข 90 พิษณุ ศิริมงคลเกษม จนกันชนหน้าเสียหาย แต่ที่หนักสุดคือดันหมุนไปขวาง แบ็งค์-กันตศักดิ์ กุศิริร หมายเลข 43 ที่ตามมาเลยซัดเข้าไปเต็มลำจนรถพังยับ กระจายทั้ง 2 คัน และต้องออกจากการแข่งขันไปทั้งคู่ ธงแดงเลยต้องทำงาน สั่งให้รถแข่งทุกคันกลับมาที่ Dummy Grid เพื่อทำการรี-สตาร์ทใหม่อีกครั้ง พร้อมกับลดรอบการแข่งขันลง 2 รอบ จาก 11 เหลือ 9
หลังจากรี-สตาร์ทใหม่อีกครั้งโดยมีจ่าฝูงเป็นรถหมายเลข 21 เช่นเดิม และโค้งแรกโยนซ้ายขึ้นเขาก็เริ่มนัวกันอุตลุตอีกครั้งโดยรถหมายเลข 71 ศุภชัย วีรบวรพงศ์ หมุนขวางทำให้ ปรีดา ตันเต็มทรัพย์ หมายเลข 36 ซัดเข้าเต็มๆ เสียหายหนักจนต้องออกจากการแข่งขันทั้งคู่ ส่วน Safety Car ก็ต้องออกมาทำงานทันที หลังสตาร์ทใหม่ ติณฑ์ ศรีตรัย หมายเลข 91 นั้นแรงได้ใจ เพราะพยายามไต่อันดับอย่างเต็มที่จนมาถึงรอบสุดท้ายที่เกาะกลุ่มหัวแถวใน อันดับ 5 แล้วก็ไล่ขึ้นมาจนถึงอันดับ 3 บี้ขึ้นมาเทียบหมายเลข 90 ในอันดับ2 ช่วงทางตรงสุดท้าย แต่น่าเสียดายที่เข้าเส้นชัยซะก่อน เลยทำให้อันดับไม่เปลี่ยนแปลง สรุปผลอันดับที่ 1 ยังคงเป็น ณัยนพ ภิรมย์ภักดี หมายเลข 21 อันดับที่ 2 หมายเลข 90 พิษณุ ศิริมงคลเกษม และอันดับที่ 3 ติณฑ์ ศรีตรัย หมายเลข 91
Super Car Round 8
มหกรรมการแข่งขันมันส์หยุดโลกจากนักแข่งระดับเทพของเมืองไทย หลังปล่อยตัว Rolling Start ซึ่งมี เต๊อะ-วุฒิกร อินทรภูวศักดิ์ หมายเลข 18 เป็นหัวแถวตามเคย ตามด้วย เอ๋-ชนมสวัสดิ์ หมายเลข 28 บี้มาโดยตลอด ทิ้งห่างอันดับ 3 Yamano Naoya หมายเลข 99 ที่แซงแจ็ค แลมวาร์ดหมายเลข 44 ขึ้นมา และกลายเป็นอีกคู่ไฮไลต์ที่น่าติตตาม เพราะงานนี้แจ็ค แลมสาร์ด หมายเลข 44 ไล่บี้สุดชีวิต
ผ่านไปเกือบครึ่งทางของการแข่งขันรถหมายเลข 26 Henk J. Kiks เสียหลักพุ่งเข้าไปหากองยางเสียหายหนักจนต้องออกจากการแข่งขัน แถมยังอยู่ในจุดที่อันตรายเลยทำให้รถ Safety Car ต้องออกมาทำงานอีกครั้ง ช่วงท้ายการแข่งขัน ชนมสวัสดิ์ อัศวเหม หมายเลข 28 โชว์ความเหนือชั้นของเครื่องยนต์ สวนทางตรง เต๊อะ-วุฒิกรหมายเลข 18 แบบเห็นๆ ขึ้นนำเป็นจ่าฝูงอย่างสวยงาม
แต่ไม่นาน Safety Car ต้องทำงานอีกครั้ง เพราะรถแข่งหมายเลข 21 พิเนต ปิยะอุย และหมายเลข 17 พีท-ทองเจือ มีปัญหาทำให้น้ำมันรั่วไหลลงบนแทรค ทำให้ต้องเคลียร์สถานการณ์อีกครั้งเพื่อความปลอดภัย สรุปผลอันดับ 1 รถหมายเลข 28 ชนมสวัสดิ์ อัศวเหม, อันดับ 2 เต๊อะ-วุมิกร อิทรภูวศักดิ์ รถหมายเลข 18 และสุดท้ายอันดับ 3 รถหมายเลข 37 อินทรศักดิ์ เตชธีรสิริ
ในที่สุดมหกรรมทางเรียบหนึ่งเดียวของเมืองไทยก็จบลงอย่างงดงาม โดยฝากกลิ่นอายมอเตอร์สปอร์ตพันธุ์แท้ให้กับผู้ชมเรือนแสนรอบสนาม และยังถ่ายทอดสดให้ผู้ชมทางบ้านให้ประทับใจอีกจำนวนมาก สุดท้ายผมหวังว่ารายการดีๆมีคุณภาพ ยกระดับกีฬามอเตอร์สปอร์ตในเมืองไทยรายการนี้ จะเกิดขึ้นทุกปีครับ