BMW ซีรี่ย์ 5 ด้วยเครื่องยนต์ดีเซลอีก 2 รุ่น
บีเอ็มดับเบิลยูเดินเกมส์รุก เสริมทัพ BMW ซีรี่ย์ 5 ด้วยเครื่องยนต์ดีเซลอีก 2 รุ่น เร็วๆนี้ BMW 525d ครั้งแรกในคลาสกับเครื่องยนต์ดีเซล 6 สูบ และ BMW 520d กับสุดยอดเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ 184 แรงม้า
กรุงเทพฯ บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทยประกาศขยายไลน์ผลิตภัณฑ์สำหรับคลาสรถซาลูนผู้บริหาร เสริมทัพ BMW ซีรี่ย์ 5 ด้วยรุ่นเครื่องยนต์ดีเซลอีก 2 รุ่น คือ BMW 525d และ BMW 520d (ทั้งสองรุ่นเป็นรุ่นประกอบในประเทศ) หลังจากที่ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการสำหรับ BMW 523i และ BMW 523i Highline ในงาน BMW Xpo 2010 ที่สยามพารากอน ระหว่างวันที่ 9-12 กันยายนนี้
มร. มิคาเอล คอร์ดิส ประธาน บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย กล่าวว่า “BMW 525d จะเป็นครั้งแรกในประเทศไทยที่มีการนำเสนอเครื่องยนต์ดีเซล 6 สูบ สำหรับคลาสรถซาลูนระดับผู้บริหาร ทั้งนี้เพื่อเป็นการตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่ต้องการสมรรถนะที่เหนือชั้น ในขณะเดียวกันก็ให้ความสำคัญในเรื่องความประหยัดน้ำมันและความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งเครื่องยนต์ Advanced Diesel 6 สูบ 3.0 ลิตร 204 แรงม้าของ BMW 525d ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี EfficientDynamics ที่เหนือชั้นของบีเอ็มดับเบิลยู เช่น ระบบ Brake Energy Re-generation และระบบ Active Aerodynamics เป็นคำตอบที่ตรงใจสำหรับความต้องการของลูกค้ากลุ่มนี้ ส่วนอีกรุ่นของเทคโนโลยี Advanced Diesel คือ BMW 520d ซึ่งได้พิสูจน์ความเหนือชั้น ทั้งในด้านสมรรถนะ ประสิทธิภาพความประหยัดน้ำมัน และความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มาแล้วในรุ่นก่อน ซึ่งครั้งนี้ เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ 2.0 ลิตร ได้รับการปรับปรุงให้มีสมรรถนะสูงขึ้น สามารถผลิตกำลังสูงสุดได้ถึง 184 แรงม้า อีกทั้งยังมีประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันดีขึ้นอีก 8% เฉลี่ยที่ 19.2 กิโลเมตรต่อลิตร และคายไอเสียคาร์บอนไดอ๊อกไซด์เพียง 137 กรัมต่อกิโลเมตร หรือน้อยลง 8% เมื่อเทียบกับ BMW 520d รุ่นก่อนหน้า นี่จะเป็นอีกครั้งที่บีเอ็มดับเบิลยูได้สร้างบรรทัดฐานความเหนือชั้นด้านเทคโนโลยี ทั้งในรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล 6 สูบและ 4 สูบ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการนำเสนอเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ที่ยอดเยี่ยมให้กับผู้บริโภคชาวไทย”
BMW 525d
เครื่องยนต์ดีเซล 6 สูบ 3.0 ลิตร 204 แรงม้า แรงบิด 450 นิวตัน-เมตร ที่ 1,750-2,500 รอบ
สุดยอดแห่งสมรรถนะ ด้วยเทคโนโลยี EfficientDynamics
BMW 525d มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซล 6 สูบแถวเรียง ความจุ 3.0 ลิตร ผลิตจากวัสดุอลูมิเนียมน้ำหนักเบาพร้อมด้วยเทคโนโลยีอัดอากาศแบบเทอร์โบแปรผันและเทคโนโลยีระบบฉีดน้ำมันด้วยหัวฉีด Piezo สามารถผลิตแรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตรที่รอบเครื่องยนต์ 1,750-2,500 รอบและกำลังสูงสุด 204 แรงม้า ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ 8HP Sports Automatic 8 สปีด มีอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายในเวลาเพียง 7.2 วินาที อีกทั้งยังมีความประหยัดน้ำม้นและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างยอดเยี่ยม BMW 525d มีอัตราการประหยัดน้ำมันเฉลี่ย 16.4 กิโลเมตรต่อลิตร และอัตราการคายไอเสียคาร์บอนไดอ๊อกไซด์เพียง 160 กรัมต่อกิโลเมตร ตามมาตรฐานการวัดค่าเฉลี่ย EU
BMW 520d
เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ 2.0 ลิตร 184 แรงม้า แรงบิด 380 นิวตัน-เมตร ที่ 1,900-2,750 รอบ
บรรทัดฐานแห่งสมรรถนะ ความประหยัดน้ำมัน และความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
BMW 520d ใช้เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร ผลิตจากวัสดุอลูมิเนียมน้ำหนักเบาพร้อมด้วยเทคโนโลยีอัดอากาศแบบเทอร์โบแปรผันและเทคโนโลยีระบบฉีดน้ำมันด้วยหัวฉีด Piezo สามารถผลิตแรงบิดสูงสุด 380 นิวตันเมตรที่รอบเครื่องยนต์ 1,900-2,750 รอบ (เพิ่มขึ้น 30 นิวตัน-เมตรหรือ 9% จากรุ่นก่อนหน้า) และกำลังสูงสุด 184 แรงม้า (เพิ่มขึ้น 7 แรงม้าหรือ 4% จากรุ่นก่อนหน้า) ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ 8HP 8 สปีด มีอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายในเวลาเพียง 8.1 วินาที อีกทั้งยังมีความประหยัดน้ำม้นและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างยอดเยี่ยม BMW 520d มีอัตราการประหยัดน้ำมันเฉลี่ย 19.2 กิโลเมตรต่อลิตร (ดีขึ้น 8%) และอัตราการคายไอเสียคาร์บอนไดอ๊อกไซด์เพียง 137 กรัมต่อกิโลเมตร (ลดลง 8%) ตามมาตรฐานการวัดค่าเฉลี่ย EU