BMW Efficiency Light Weight เทคโนโลยีโครงสร้างน้ำหนักเบา แต่คงความแข็งแกร่ง
เป็นที่พูดกัน ทราบกันมานาน และหลายคนก็พยายามทำให้รถยนต์มีน้ำหนักเบาลงได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ยังผลให้ได้สมรรถนะที่ดีในการขับขี่ รวมถึงประหยัดน้ำมัน ซึ่งการจะทำให้น้ำหนักของรถเบาลงนั้นไม่ยากเท่าไหร่ เพราะแค่เปลี่ยนวัสดุที่นำมาใช้เช่น Carbon, Aluminum ก็จบ แต่ค่าใช้จ่ายนี่สิ เป็นตัวการสำคัญที่แปรผกผันกับความเบา ซึ่ง BMW ก็มีนวัตกรรม เทคโนโลยีโครงสร้างน้ำหนักเบา BMW Efficient Light Weight หรือการลดน้ำหนักเพื่อให้รถยนต์คันเก่งนั้นมีประสิทธิด้วยราคาที่สมเหตุสมผล
BMW Efficient Light Weight
เป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพของการขับขี่และการขับขี่แบบไดนามิกที่ผสมผสานอย่างลงตัว การใช้วัสดุที่มีน้ำหนักเบา และแข็งเช่น Carbon รวมถึงอลูมิเนียมในตัวถังเหล็กกล้าความแข็งแรงสูง หรืออัลลอยแมกนีเซียมที่ทันสมัยในเครื่องยนต์ทำให้สิ้นเปลืองเชื้อเพลิงลดลง ในขณะเดียวกัน เวลาขับรถประสิทธิภาพและการเปลี่ยนแปลงได้ดีขึ้น และ คาร์บอนก็คือพระเอกของนวัตกรรมสำคัญในการลดน้ำหนักของ BMW
Carbon
CFRP หรือคาร์บอนไฟเบอร์เสริมพลาสติก เป็นคอมโพสิตความยืดหยุ่นสูงที่ทำจากเส้นใยคาร์บอน และพลาสติก มีน้ำหนักเบากว่าอลูมิเนียมประมาณ 30% และเบากว่าเหล็ก 50% ซึ่งมีอัตราส่วนความแข็งแรงต่อน้ำหนักที่สูงมากและมีความแข็งมาก
คุณสมบัติของเส้นใยคาร์บอนคือ มีความแข็งแรงสูง ต้านทานแรงดึงสูง น้ำหนักเบา ทนต่อสารเคมีสูง ทนต่ออุณหภูมิสูง และอัตราการขยายตัวต่อความร้อนต่ำ เส้นใยคาร์บอนจึงเป็นวัสดุที่ได้รับความนิยมมากในอุตสาหกรรมการบินและวิศวกรรมอวกาศ การทหาร มอเตอร์สปอร์ต และการแข่งขันกีฬาอื่นๆ แต่เส้นใยคาร์บอนมีราคาค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับเส้นใยชนิดอื่น อาทิ เส้นใยแก้วหรือเส้นใยพลาสติก
ด้วยความร่วมมือกับ SGL Automotive Carbon Fibres กลุ่ม บริษัท BMW สามารถผลิตเส้นใยคาร์บอนได้เอง หลังจากทำงานวิจัย และพัฒนามานานกว่าสิบปีแล้ว ซึ่งตอนนี้สามารถปรับมาใช้กับรถยนต์ได้เป็นครั้งแรก
เริ่มจากปั่น และทอเส้นใยลงบนเสื่อ และแช่ในเรซิ่นชนิดพิเศษเฉพาะ จากนั้นจะถูกนำไปอบให้แข็ง แล้วจึงนำมาประกอบสร้างขึ้นเป็นชิ้นส่วนตัวถัง
มีใช้จริงใน BMW i3 และ BMW i8
ในรถยนต์ BMW i3 และ BMW i8 เป็นยนตรกรรมรุ่นแรกที่นำวัสดุไฮเทคอย่างคาร์บอนมาใช้ในการผลิตรถยนต์เพื่อจำหน่ายในปริมาณมาก ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา การใช้งานคาร์บอนนั้นเป็นไปโดยจำกัด เนื่องจากต้องผลิตด้วยมือ แต่ปัจจุบัน BMW กรุ๊ป สามารถผลิตคาร์บอนไฟเบอร์ และแผ่นคาร์บอนไฟเบอร์ได้เอง ฉะนั้นจึงสามารถผลิตได้ในปริมาณมากเพื่อจำหน่าย
ผลลัพธ์ของการใช้คาร์บอนก็คือ ทำให้ตัวถังมีเสถียรภาพ และความปลอดภัยสูงขึ้นสำหรับผู้ขับขี่ ความแข็งแกร่งของตัวถังที่ได้ ยังช่วยให้ตอบสนองต่อการเร่งได้ดีขึ้น ปราดเปรียวฉับไวดีขึ้น และน้ำหนักที่ลดลงยังช่วยลดการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงอีกด้วย