บีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชียล เซอร์วิส ประเทศไทย สร้างสถิติสูงสุดครั้งยิ่งใหญ่ พร้อมฉลองครบรอบ 20 ปี เร่งปฏิวัติวงการด้วยนวัตกรรมดิจิทัล
บีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชียล เซอร์วิส ประเทศไทย สร้างสถิติสูงสุดครั้งยิ่งใหญ่
บีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชียล เซอร์วิส ประเทศไทย เตรียมฉลองครบรอบ 20 ปีของบริษัทในปี 2564 ด้วยสถิติสูงสุดครั้งยิ่งใหญ่ในปี 2563 ด้วยยอดสินเชื่อใหม่รวมกว่า 16,770 ล้านบาท และยอดสินเชื่อรวมในพอร์ตของบริษัทกว่า 50,500 ล้านบาท ประสบความสำเร็จอย่างถล่มทลายแม้จะต้องเผชิญกับความท้าทายตลอดปีก่อนหน้า ในขณะเดียวกัน โปรแกรมทางการเงินทีมอบทางเลือกและอิสรภาพสูงสุดอย่าง Freedom Choice เติบโตอย่างก้าวกระโดดที่ 330% ในปี 2563 โดยบีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชียล เซอร์วิส ประเทศไทย วางแผนต่อยอดความสำเร็จด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่โดนใจลูกค้า เตรียมพัฒนาบริการให้ทันสมัยด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล รวมไปถึงการลงทุนครั้งใหญ่เพื่อปรับปรุงระบบที่จะทำให้ขั้นตอนการทำงานและการให้บริการมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
มร. บียอร์น แอนทอนส์สัน ประธานกรรมการบริหาร บีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชียล เซอร์วิส ประเทศไทย กล่าวว่า “ความสำเร็จในปี 2563 ที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นถึงความไว้วางใจของลูกค้าต่อผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินของบีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชียล เซอร์วิส ประเทศไทย ด้วยความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาความเป็นเลิศในการให้บริการและความอุ่นใจสูงสุดสำหรับลูกค้า เรายังคงมุ่งรักษาฐานกลุ่มลูกค้าปัจจุบัน และให้ความสำคัญกับการนำเสนอโมเดลผลิตภัณฑ์ใหม่ จากเดิมที่เน้นการครอบครองรถยนต์ สู่โมเดลที่เน้นการใช้งานเป็นสำคัญ ซึ่งจะทำให้ลูกค้าสามารถสัมผัสประสบการณ์การเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์จากบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ได้อย่างครบถ้วนและเต็มที่ยิ่งขึ้น นอกจากนี้ บีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชียล เซอร์วิส ประเทศไทย ยังพร้อมพัฒนาบริการให้มีความทันสมัยผ่านเทคโนโลยีดิจิทัล รวมไปถึงการปรับระบบการทำงานเชิงนวัตกรรมและเทคโนโลยีในส่วนที่ติดต่อกับลูกค้า โดยสะท้อนปรัชญาของบริษัทที่มุ่งมอบความวางใจ ความใส่ใจ และความสะดวกสบาย หรือ Trust, Care, Easy ให้กับลูกค้าทุกราย”
บีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชียล เซอร์วิส ประเทศไทย เล็งเห็นถึงความสำคัญของการเปลี่ยนแปลงสู่ระบบดิจิทัลที่จะนำไปสู่การดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนต่อไป จึงพร้อมสานต่อและพัฒนาบริการและผลิตภัณฑ์ให้มีความดิจิทัลและทันสมัยมากยิ่งขึ้นตลอดทั้งปี 2564 และต่อไปในอนาคต โดยบีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชียล เซอร์วิส ประเทศไทย ได้ร่วมมือกับ LINE มาตั้งแต่ปี 2560 และสามารถสร้างยอดผู้ติดตามได้กว่า 600,000 คน บนแพลตฟอร์ม ซึ่งทั้งลูกค้าและผู้ที่หลงใหลในแบรนด์ของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป สามารถใช้ช่องทางดังกล่าวเพื่อติดต่อกับศูนย์บริการลูกค้าเป็นประจำ นอกจากนี้บีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชียล เซอร์วิส ประเทศไทย ยังได้นำเทคโนโลยีนวัตกรรมใหม่ๆ มาประยุกต์ใช้เพื่อพัฒนาการให้บริการ เช่น
- ระบบ Preference Finder ที่ช่วยค้นหารถยนต์ที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้าที่สุด
- การยกระดับการสัมผัสประสบการณ์เปิดตัวรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 2 และ ซีรีส์ 3 แบบเสมือนจริงผ่านระบบ Augmented Reality
- การนำเสนอบริการผ่านช่องทางออนไลน์ในงานมอเตอร์โชว์และมอเตอร์ เอ็กซ์โป ในปี 2563 จึงสามารถมอบประสบการณ์ที่หลากหลายและเหมาะสมต่อความต้องการของลูกค้าได้อย่างชัดเจน
นอกจากนี้ บีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชียล เซอร์วิส ประเทศไทย ยังมีแผนส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศ ซึ่งสอดคล้องกับกลยุทธ์ด้านยานยนต์ไฟฟ้าของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป โดยมุ่งเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับกลุ่มคนที่ให้ความสำคัญต่อสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน เพื่อสร้างอีโคซิสเต็มที่พร้อมรองรับการใช้งานยานยนต์ไฟฟ้าในไทยอย่างสมบูรณ์ยิ่งขึ้น ด้วยเป้าหมายสำคัญนี้ บีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชียล เซอร์วิส ประเทศไทย จึงเป็นผู้ให้บริการทางการเงินสำหรับรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู ปลั๊กอินไฮบริด เป็นอัตราส่วนสูงถึง 8 คันจากทุกๆ 10 คันที่ส่งมอบให้กับลูกค้าไปในปี 2563 ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ลูกค้ายังได้ให้ความไว้วางใจต่อบีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชียล เซอร์วิส ประเทศไทย มากยิ่งขึ้น ด้วยมาตรการสนับสนุนและเยียวยาต่างๆ เพื่อช่วยเหลือลูกค้าในปี 2563 ที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติโควิด-19 โดยได้ทำงานอย่างใกล้ชิดกับทั้งผู้จำหน่าย พันธมิตร และลูกค้า ในการขยายระยะเวลาการให้สินเชื่อ ขยายระยะเวลาการผ่อนชำระ ไปจนถึงการพักชำระหนี้ เพื่อมอบความอุ่นใจสูงสุดในสภาวการณ์ที่แปรผันได้อย่างไม่คาดคิด นอกจากนี้ ยังได้มีการนำแพลตฟอร์มดิจิทัลอย่าง LINE มาใช้เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการลงทะเบียนต่างๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในช่วงที่การเดินทางยังทำได้อย่างจำกัด ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความยืดหยุ่นของบีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชียล เซอร์วิส ประเทศไทย ในการให้บริการระดับพรีเมียมอย่างต่อเนื่องเช่นเดิม ไม่ว่าจะในสถานการณ์ใดก็ตาม