BMW Megacity Vehicle

บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป บุกเบิกเทคโนโลยียานยนต์พลังงานไฟฟ้า Megacity Vehicle ไร้มลพิษ สำหรับมหานคร เตรียมพร้อมออกสู่ตลาดในปี 2013

มิวนิค/ปักกิ่ง บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ตอกย้ำความเป็นผู้นำเทคโนโลยี ประกาศความพร้อมบุกเบิกเทคโนโลยียานยนต์พลังงานไฟฟ้า ภายใต้โครงการ Megacity Vehicle ซึ่งจะเป็นยานพาหนะที่ไม่มีการคายมลพิษ สำหรับมหานครโดยเฉพาะ โดยจะพร้อมเข้าสายการผลิตและออกสู่ตลาดในปี ค.ศ. 2013 “Megacity Vehicle จะเป็นการสร้างประวัติศาสตร์ด้านนวัตกรรมยานยนต์ ทั้งในด้านของเทคโนโลยีวัสดุ ซึ่งจะต้องมีน้ำหนักเบากว่ารถยนต์ในปัจจุบันอย่างมาก พร้อมทั้งระบบขับเคลื่อนที่ไม่มีการคายมลพิษ นอกจากนั้นขั้นตอนกระบวนการผลิตจะเป็นไปตามนโยบาย ‘อนาคตที่ยั่งยืน’ หรือ ‘Sustainability’ ซึ่งจะคำนึงถึงการใช้พลังงานและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมแบบองค์รวมตลอดกระบวนการ ซึ่งเราพร้อมที่จะนำเสนอยานยนต์ประวัติศาสตร์คันนี้ออกสู่ตลาดภายในอีก 3 ปีข้างหน้า” ดร. นอร์เบิร์ต ไรท์โธเฟอร์ ประธานกรรมการบริหาร บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป เอจี กล่าวในรายละเอียด

Megacity Vehicle จะเป็นยานพาหนะสำหรับเมืองขนาดใหญ่ระดับ ‘มหานคร’ ในประเทศต่างๆทั่วโลก ซึ่งจะเป็นยานพาหนะไร้มลพิษ (Zero Emission) ซึ่งในวันปัจจุบันอยู่ในโครงการพัฒนา project i ซึ่งจะออกสู่ตลาดภายใต้แบรนด์ย่อยของบีเอ็มดับเบิลยูในปี ค.ศ. 2013 นอกจาก Megacity Vehicle จะมีนวัตกรรมระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าที่ไม่คายไอเสียแล้ว ยังมีนวัตกรรมด้านวัสดุแบบ Ultra-light High-strength Composite CFRP (Carbon Fiber-Reinforced Plastic) ซึ่งจะมีน้ำหนักเบาเป็นพิเศษ แต่ในขณะเดียวกันยังมีความแข็งแกร่งเพื่อมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุด “ยานพาหนะใหม่นี้จะเป็นการพลิกประวัติศาสตร์วิศวกรรมยานยนต์และกระบวนการผลิตของอุตสาหกรรมยานยนต์ที่เรารู้จักในวันปัจจุบัน เราเป็นผู้ผลิตรายแรกที่บุกเบิกนวัตกรรมระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าและนวัตกรรมการผลิตโดยใช้วัสดุ CFRP ในการผลิตระดับอุตสาหกรรม” ดร. นอร์เบิร์ต ไรท์โธเฟอร์ กล่าวเสริม

ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2009 บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ได้ทำการผลิตรถยนต์ MINI E ซึ่งเป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้า เพื่อนำเสนอสู่ตลาด ผ่านโปรแกรมเช่าให้กับผู้บริโภคที่ต้องการเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของโครงการพัฒนารถยนต์พลังงานไฟฟ้า ซึ่งในขณะนี้ ได้มี MINI E กว่า 600 คันอยู่ในมหานครหลักต่างๆ เช่น ลอสแอนเจลิส นิวยอร์ค และลอนดอน โดยจะเพิ่มอีก 60 คันสำหรับมหานครปักกิ่งในปีนี้ด้วย

นอกจาก MINI E แล้ว บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ยังมีแผนในการนำเสนอรถยนต์พลังงานไฟฟ้าอีกคัน ซึ่งถูกพัฒนาต่อยอดจาก BMW Concept ActiveE ในโครงการวิจัยระดับผู้บริโภคเช่นเดียวกับโครงการ MINI E ด้วย นอกจากนั้น บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป มีแผนการพัฒนารถยนต์ New Energy Vehicle ร่วมกับศูนย์วิจัยและพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ที่จะนำไปสู่รถยนต์พลังงานไฟฟ้าสำหรับตลาดประเทศจีนโดยเฉพาะ ซึ่งโครงการนี้ได้รับการสนับสนุนจากทั้งรัฐบาลจีนและรัฐบาลเยอรมัน

บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ได้ริเริ่มบุกเบิกการวิจัยเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าตั้งแต่ 40 ปีที่แล้ว โดยรถยนต์พลังงานไฟฟ้าคันแรกคือ BMW 1602 ที่ได้รับการดัดแปลงระบบขับเคลื่อนให้เป็นระบบไฟฟ้า เพื่อใช้เป็นรถนำขบวนสำหรับนักแข่งวิ่งมาราธอนในงานโอลิมปิคปี 1972 และในอีกหนึ่งทศวรรษต่อมา บีเอ็มดับเบิลยูก็ได้นำเสนอรถต้นแบบ BMW E1 ซึ่งใช้ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าเช่นกัน


ตารางราคารถยนต์ล่าสุด

AUDI | Aston Martin | BMW | Chevrolet | CITROEN |  DFSKFerrari | Honda (ฮอนด้า) |