BMW X3 M Competition แรงเหลือร้าย โหดกว่าคำว่า “M”
สำหรับชาว Bimmer ที่หลงใหลในรถอเนกประสงค์ขนาดคอมแพ็คกึ่งกลางของค่ายอย่าง X3 ที่มีออกมายั่วน้ำลายเป็นระยะๆ ในหลายๆ เวอร์ชั่น ซึ่งเวอร์ชั่นที่ว่า โหด แล้วภายใต้สัญลักษณ์ M ยังไม่เทียบเคียงความโหดที่มากขึ้น จึงต้องมีคำต่อท้ายในชื่อว่า BMW X3 M Competition ที่ซ่อนความดุดันไว้ภายใต้ฝากระโปรงถึง 510 แรงม้ากันเลยทีเดียว
รูปลักษณ์บ่งบอกถึงพิกัดที่ซ่อนใน BMW X3 M Competition
ว่ากันว่าขนาด X3 M ที่ยังไม่มีคำว่า Competition ต่อท้าย ได้สร้างความน่าสะพรึงให้กับบรรดาสาวกพลัง M กันเป็นแถบๆ ด้วยพิกัดเครื่องยนต์เบนซินแบบ 6 สูบ ขนาดความจุ 3.0 ลิตร Twin Power Turbo ใหม่ จึงส่งผลให้ BMW X3 M ผงาดมาเป็นหัวแถวอันทรงพลังถึง 480 แรงม้าที่ 6,250 รอบ/นาที มาพร้อมกับแรงบิดสูงสุด 600 นิวตัน-เมตรที่ 2,600-5,600 รอบ/นาที โดยมีอัตรเร่งจาก 0-100 กม./ชม.ภายในเวลาเพียง 4.2 วินาที
แต่หากความโหดขนาดนี้ยังไม่พอ competition คือคำตอบของสาวกที่ไม่พอเพียง กับเครื่องยนต์บล็อกเดียวกัน แต่ได้รับการปรับจูน เสริมนั่นนิด นี่หน่อย จนสามารถสร้างพละกำลังได้เพิ่มมากขึ้นถึง 510 แรงม้า หรือเพิ่มจากเดิมอีก 30 ตัว ในขณะที่แรงบิดยังคงเท่าเดิม แต่ได้เพิ่มช่วงกว้างของแรงบิดให้ยาวขึ้นไปอีกหน่อย ลากกันได้ถึง 5,950 รอบ/นาที เมื่อผลลัพธ์ที่ได้เพิ่มขึ้นอีกมากโขแล้ว ผลพลอยได้จากอัตราเร่งก็เร็วกว่าเดิมอีก 0.1 วินาที เป็น 4.1 วินาที
xDrive พร้อม M Steptronic 8 สปีด
ในส่วนของระบบส่งกำลัง หรือระบบขับเคลื่อนนั้นได้เกียร์อัตโนมัติ M Steptronic 8 สปีด เป็นตัวผ่องถ่ายกำลัง แถมยังพ่วงระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบ xDrive พร้อมระบบล็อกเฟืองท้าย Active M Differential
นอกเหนือจากนี้ยังได้ปรับปรุงระบบช่วงล่างใหม่ M-Specific โดยมีการเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับโครงสร้างตัวถัง เพื่อสมรรถนะที่ดียิ่งขึ้น
ในส่วนของระบบเบรกก็ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน จึงต้องมาพร้อมกับชุดเบรก M Compound ด้วยจานเบรกหน้าขนาด 395 มม.พร้อมคาลิเปอร์แบบ 4 พอต ส่วนด้านหลังเป็นจานขนาดใหญ่ 370 มม.พร้อมกับคาลิเปอร์แบบลูกสูบเดี่ยว
ซึ่งภายใต้ชุดเบรกอลังการนี้ จะต้องมองเห็นผ่านล้อแม็กลายใหม่ขนาด 20 นิ้ว (สำหรับรุ่น M ปกติ) แต่ถ้าเป็น competition แล้ว ขยับมาเป็น 21 นิ้วกับสี Jet Black
ใครที่ชอบความแรงระดับกว่า 500 ม้าใน BMW X3 M Competition ขอให้เก็บตังค์รอเลย เพราะเค้าเปิดราคามาไม่เท่าไหร่ราวๆ 78,000 เหรียญยูเอส หรือประมาณ 2.3 ล้านบาทเท่านั้น..แต่ถ้าจะเอามาขับเมืองไทยบวกภาษีเข้าไปก็อ่วมอยู่เหมือนกันนะ