BMW X5 Security Plus ขั้นสุดยอดสำหรับรถยนต์นิรภัยสำหรับผู้นำ ด้วยมาตรฐานการกันกระสุนระดับ 6
มิวนิค บีเอ็มดับเบิลยูเปิดตัวรถยนต์นิรภัย BMW X5 Security Plus ซึ่งจัดได้ว่าเป็นครั้งแรกสำหรับรถยนต์นิรภัยที่ผลิตจากโรงงานโดยตรง ที่มีมาตรฐานการป้องกันกระสุนระดับที่ 6
BMW X5 Security Plus มุ่งเน้นที่การปกป้องผู้โดยสารจากการก่อวินาศกรรมโดยเฉพาะจากอาวุธหนักเช่นปืนกลมือ AK 47 และความว่องไว ปราดเปรียว เพื่อให้สามารถหลบให้พ้นจากสถานการณ์อันตรายได้อย่างปลอดภัย BMW X5 Security Plus ได้รับการพัฒนาจากพื้นฐานรถอเนกประสงค์ BMW X5 SAV Sports Activity Vehicle ที่ได้รับการเพิ่มเติมด้านอุปกรณ์นิรภัยต่างๆ อีกทั้งยังเพิ่มสมรรถนะของระบบขับเคลื่อนและระบบช่วงล่างให้สามารถรับมือกับสถานการณ์และสภาพถนนต่างๆ ได้เป็นอย่างดี
ครั้งแรกกับมาตรฐานการกันกระสุนระดับ 6 BMW X5 Security Plus มีระบบห้องโดยสารนิรภัย ด้วยการใช้เหล็กเหนียวพิเศษสำหรับผิวตัวถังและชิ้นส่วนต่างๆ อีกทั้งยังมีการ ‘ซีล’ ร่องประตู รอยต่อตัวถัง และข้อต่อในส่วนต่างๆ เพื่อป้องกันการทะลุทะลวงของกระสุน และได้รับการติดตั้งกระจกนิรภัยที่ได้รับการพัฒนาพิเศษสำหรับระดับมาตรฐานนิรภัยขั้นสูงสุด
BMW X5 Security Plus ได้รับการทดสอบและรับรองมาตรฐาน VPAM APR 2006 ระดับ 6 ซึ่งสามารถรับมือกับการก่อวินาศกรรมโดยเฉพาะจากอาวุธหนักเช่นปืนกลมือ AK 47 โดยระบบนริภัยของประกอบด้วยเกราะพิเศษติดตั้งในส่วนต่างๆ ของตัวถัง ระบบสื่อสารที่สามารถติดต่อกับภายนอกได้โดยไม่ต้องเปิดประตูหรือหน้าต่าง ระบบล็อคและเตือนภัยในสถานการณ์คับขัน
ปราดเปรียว ปลอดภัยในทุกสภาพถนน นอกเหนือจากระบบนิรภัยขั้นสุดยอดแล้ว BMW X5 Security Plus ยังให้ความสะดวกสบายระดับ เฟิร์สคลาส อีกทั้งความปราดเปรียว คล่องตัว ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการหลบหนีจากสถานการณ์อันตรายต่างๆ
เครื่องยนต์เบนซิน V8 ขนาด 4.8 ลิตรสามารถผลิตกำลังสูงสุด 355 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 475 นิวตัน-เมตรที่ 3,400 รอบ กับระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัจฉริยะ xDrive ทำให้ BMW X5 Security Plus เป็นรถยนต์นิรภัยที่สามารถใช้งานได้อย่างเรียบง่ายในสภาพการณ์ปกติและตอบสนองสูงสุดในสถานการณ์คับขันที่ต้องการความว่องไวและปราดเปรียว BMW X5 Security Plus มีอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายในเวลาเพียง 8.2 วินาที
ระบบช่วงล่างของ BMW X5 Security Plus ได้รับการปรับเพื่อให้มีสมรรถนะสูงสุด และรับการน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นจากเกราะและระบบนิรภัย พร้อมกันนั้นยังได้รับการติดตั้งระบบเบรกพิเศษ และระบบบังคับเลี้ยวอัจฉริยะ Active Steering เพื่อเพิ่มความปราดเปรียวในการบังคับควบคุมรถ และระบบช่วงล่าง Adaptive Drive ที่สามารถปรับความอ่อน-แข็งของระบบช่วงล่างและควบคุมการโคลงตัวของรถโดยเฉพาะขณะเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง นอกจากนั้นยังได้รับการติดตั้งระบบยางนิรภัยที่สามารถวิ่งต่อได้อีก 150 กิโลเมตร (ด้วยความเร็วสูงสุด 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) ถึงแม้ว่าถึงยิงหรือแทงด้วยวัตถุแหลมคม
นอกจากนี้ บีเอ็มดับเบิลยูยังให้การอบรมด้านการขับรถยนต์นิรภัย ซึ่งได้ทำติดต่อกันมาเป็นเวลากว่า 20 ปี ซึ่งการอบรมนี้เป็นการจัดสอนโดยบุคลากรผู้มีความเชี่ยวชาญทั้งในภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติโดยเฉพาะ