ทำไมถึงต้อง เคลือบแก้ว

โพสต์เมื่อ 10 สิงหาคม 2019 เวลา 10:10 น. หมวดหมู่: การดูแลรักษารถยนต์ โดย บิ๊กกี้..บี้ไม่ยั้ง

ถ้าย้อนกลับไปในยุคก่อนปี 2000 หลายคนคงงงว่าเคลือบแก้วคืออะไร เพราะยุคนั้นการเคลือบสีรถ ก็คือนวัตกรรมหนึ่ง ในการปกป้องรักษาสีรถให้เงางาม โดยใช้น้ำยาเคลือบสีในรูปแบบต่างๆ ที่มีขายตามท้องตลาด ทั้งชนิดครีม แว๊กซ์ น้ำยา หรือแม้กระทั่งสเปรย์ฉีดพ่น จนกระทั่งตลาดการดูแลรักษาสีรถเติบโตอย่างยิ่งหลังยุคปี 2000 จากการแข่งขันที่สูง จึงก่อกำเนิดให้มีศัพท์ใหม่ ซึ่งก็คือคำว่า เคลือบแก้ว

เคลือบแก้ว คืออะไร

คำว่าเคลือบแก้ว มาจากภาษาอังกฤษว่า Glass Coating เป็นการเคลือบผิวสีรถ ที่โดยพื้นฐานไม่ได้พิสดารกว่าเคลือบสีทั่วไป แต่ที่ดูเป็นที่นิยม และดูมีความขลัง น่าจะเคลือบได้ดีกว่านั้น เนื่องมาจากส่วนผสมในน้ำยาเคลือบนั้น มีวิวัฒนาการที่ดีขึ้น ผสม silica ลงไปบ้าง หรือ polysilazane บ้าง แล้วแต่ผู้ผลิต ซึ่งเมื่อผ่านกรรมวิธีการเคลือบแล้ว จะมีชั้นฟิล์มเคลือบที่คอยปกป้องผิวสีรถเสมือนเอากระจกใสแจ๋วไปวางทับ และชั้นฟิล์มเคลือบนี้มีความแข็งแกร่งต่อการขีดข่วน รวมถึงมีความทนทานกว่าน้ำยาทั่วไป

ความแตกต่างของ เคลือบแก้ว สรุปง่ายๆ คือมีความแข็งแกร่งของชั้นฟิล์มเคลือบที่มากกว่า และอยู่ได้ยาวนานกว่าสารเคลือบอื่นๆ เมื่อมีความแข็งแรงทนทานกว่า ราคาของน้ำยาก็สูงกว่าด้วยเช่นกัน และน้ำยาเคลือบแก้ว ก็ยังแบ่งเกรดระดับราคาอีกเช่นกัน รวมถึงกรรมวิธีในการเคลือบของแต่ละร้าน ก็มีความแตกต่างในการกำหนดราคาด้วยเช่นกัน

สิ่งที่ได้จากการเคลือบแก้ว

• มีความเงางาม เสมือนเอากระจกใสมาทาบทับสีรถ
• ชั้นฟิล์มของเคลือบแก้วอยู่ได้นานกว่า ไม่ต้องเคลือบบ่อย ไม่เหมือนเคลือบธรรมดาที่พอล้างรถที ก็มักจะหลุดล่อนไปแล้ว
• ความแข็งแกร่งของชั้นฟิล์ม ยังช่วยปกป้องรอยด่างจากขี้นก ยางไม้ ยางมะตอยได้ดีกว่า และทำความสะอาดออกได้ง่ายกว่า

ดังนั้นการจะเคลือบแก้ว จึงมีปัจจัยทางด้าน ราคา เป็นตัวกำหนดคุณภาพ เริ่มตั้งแต่ตัวผลิตภัณฑ์ (น้ำยาเคลือบแก้ว) ต้องเป็นแบรนด์ที่เชื่อถือ และไว้ใจได้ จะมีคุณสมบัติบ่งชี้ว่าชั้นฟิล์มมีความแข็งระดับใด

รวมถึงศูนย์บริการต้องเป็นที่น่าเชื่อถือ สอบถามข้อมูลกับทางร้าน ก่อนที่จะเข้ารับบริการให้ละเอียด ว่าขั้นตอนการเคลือบแก้วเค้าทำอย่างไร ซึ่งร้านที่ได้มาตรฐาน จะต้องทำตั้งแต่การเตรียมผิวสีรถให้พร้อมก่อนจะถึงขั้นตอนการเคลือบ เพราะการ เคลือบ(แก้ว)คือขั้นตอนสุดท้าย

ฉะนั้นหากศูนย์บริการ (บางที่) ที่ลัดขั้นตอนการเตรียมสีผิวรถก่อนการเคลือบ เราก็จะได้การเคลือบแก้วที่ไม่เต็มประสิทธิภาพ…บอกเลยว่า ขั้นตอนการเตรียมผิวสีรถ มีความสำคัญอย่างแท้จริง ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าการเคลือบ