“ล้างห้องเครื่อง” เรื่องไม่ยาก แค่ต้อง “ระวัง”
สำหรับบางคน รถสุดรัก สุดหวง ก็เปรียบเสมือนสมาชิกคนหนึ่งในครอบครับ ที่เอาเค้ามาอยู่ด้วยก็ต้อง “ดูแล” กันไปให้ดี เพื่อให้เค้าอยู่กับเราไปนานๆ ถึงแม้การดูแลบางอย่างจะต้องพึ่งมือหมอก็ตาม แต่ก็มีการดูแลบางอย่างที่เราสามารถทำกันได้ด้วยตัวเองง่ายๆ เช่น “ล้างรถ”ที่เราเดาว่าหลายๆ คนเคยทำ
และเราก็เชื่อว่าหลายคนมักจะตามด้วยการเปิดฝากระโปรงดูความสะอาดเรียบร้อยของ “ห้องเครื่อง” ซึ่งถ้ายังสวยงามเรียบร้อยดี ก็จบไป แต่ถ้าไม่เป็นอย่างนั้นล่ะก็ เชื่อได้ว่า “ความอยาก” ที่จะตามมาทันทีเลยก็คือ “การล้างห้องเครื่อง” นั่นเอง
ซึ่งการ “ล้างห้องเครื่อง” นั้นก็ไม่ใช่เรื่องยาก แต่ถ้าเรามีเวลาไม่มาก และอยากหาความสะดวกสบาย ก็สามารถนำไปให้ที่ร้านจัดการได้หากต้องการความสะดวกสบาย แต่ขอแนะนำในเรื่องการเลือกร้านที่มีคุณภาพซักนิด แม้จะราคาสูงก็ตาม เพื่อจะได้สร้างความมั่นใจในการรับผิดชอบ เนื่องจากปัญหา และความยุ่งยาก ส่วนใหญ่ของการ “ล้างห้องเครื่อง” ก็คือบรรดาอุปกรณ์โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับยนตรกรรมรุ่นใหม่ๆ ที่มีทั้งระบบอิเล็คทรอนิกส์, ระบบไฟฟ้า, สายไฟ และปลั๊กไฟต่างๆ ที่เราควรต้องระวังเป็นพิเศษ
และสำหรับสิ่งที่ไม่ควรทำเป็นอย่างยิ่งก็คือ การใช้ “ปืนฉีดน้ำแรงดันสูง” ฉีดล้างห้องเครื่องเด็ดขาด เพราะผลเสียที่จะตามมาก็คือ แรงดันของน้ำที่อาจจะไปทำให้สายไฟ หรือ ปลั๊กไฟหลุดขาด จนอาจทำให้เครื่องยนต์มีปัญหาได้ ฉะนั้นวิธีการที่ดีที่สุดก็คือ ใช้ผ้าชุบน้ำเช็ด หรืออาจจะใช้แชมพูผสมน้ำช่วย หากเจอคราบสกปรกฝังแน่น
แต่ทางดีทีเราแนะนำให้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับการทำความสะอาดห้องเครื่องโดยเฉพาะจะเป็นการดีที่สุด เพื่อป้องกันส่วนผสมเกิดการทำปฎิกริยากับวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ในห้องเครื่อง และก็ควรใช้ความระมัดระวังในการเช็ดด้วยเช่นกัน เพื่อไม่ให้ผ้า หรือมือ หรืออุปกรณ์อะไรก็ตาม ที่นำมาใช้ทำความสะอาด ตวัดไปเกี่ยวเอาสายไฟ ปลั๊กไฟ จนเกิดปัญหาเกี่ยวกับเครื่องยนต์ได้
สิ่งสำคัญสุดท้ายก็คือ หลังจากทำความสะอาดเสร็จสมใจเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ควรที่จะใช้ลมเป่าให้แห้ง ไล่ความชื้นออกจากห้องเครื่องให้หมด เพราะบรรดาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ หรืออุปกรณ์ไฟฟ้าทั้งหลายค่อนข้างที่จะไม่ถูกกับชื้นอย่างแรง ซึ่งถ้าทิ้งไว้อาจจะทำให้มีปัญหาตามมาภายหลัง