ขั้นตอน การออกรถใหม่ ต้องรู้อะไรบ้าง
รถยนต์ ถือเป็นสินค้าราคาสูง ในการตัดสินใจจะซื้อทั้งที ก็ควรจะรู้ถึงสิทธิ์ประโยชน์และสิ่งต่างๆที่ควรจะได้ จากการซื้อรถที่เซล์บอกเราและไม่ยอมบอกเรา เพื่อให้คุณได้รถยนต์และบริการที่คุ้มค่าที่สุดกับเงินที่เสียไป
การเลือกเซลล์อันนี้สำคัญมากกว่าการเลือกศูนย์บริการ เพราะหากเจอเซลล์ที่ดี ก็จะเป็นเหมือนที่ปรึกษาเรื่องรถที่ดีและก็จะได้รถตามที่หวัง แต่หากเจอเซลล์แย่ ก็อาจจะโดนโกงสารพัดวิธีที่เดียว เพราะเซลล์ จะเป็นคนทำสัญญา เตรียมรถให้เรา แต่ที่สำคัญที่สุด เค้าจะต้องขายรถให้เราเพื่อทำกำไรให้ทางบริษัท และค่าค่าคอมมิชชั่นกำไรจากส่วนอื่นๆ ที่เราพลาดเผลอไปยอมรับโดยไม่ระวังซึ่งสำคัญกว่าบริการซะอีก ซึ่งวิธีเลือกง่ายก็คือ
o ถ้าเซลล์เป็นญาติพี่น้อง จะดีมากเค้าคงเลือกสิ่งดีๆให้พี่น้องกันโดยไม่หวังผลกำไรมากอยู่แล้ว
o เพื่อนพี่น้อง แนะนำเซลล์ให้ แสดงว่าคนคนนั้นเคยใช้บริการมาแล้วเซลล์ คงรักษามาตรฐานการให้บริการที่ดีทุกคน
o ใช้น้ำเสียงการให้บริการฟังแล้วรู้สึกสบายใจ แต่หากฟังแล้วขัดหูหรือไม่สบายใจเปลี่ยนคนเถอะ
o ขั้นตอนการอธิบายรถ อธิบายแล้วเราเข้าใจ ถามอะไรสามารถตอบได้
o อย่าเลือกเพียงเพราะหน้าตา หรือเพราะพูดเพราะ
เรื่องของแถม ดูว่าเซลล์ให้ของแถมอะไรบ้าง เช่น
o น้ำมันเต็มถัง
o ส่วนลดเงินสด
o เบาะหนัง
o ฟิล์มรอบคัน ยี่ห้ออะไร ประกันกี่ปี ติดรุ่นไหนได้บ้าง ราคาที่ติดได้เท่าไร ติดที่ไหน
o เคลือบสี+กันสนิม ทำฟรีทุกครั้ง หรือเสียเงินแต่ละครั้งเท่าไร
o ประกันภัยชั้น 1 ฟรีหรือเปล่า
o Sensor ถอยหลัง 2 หรือ 4 จุด ไม่ได้ติดจากโรงงาน ต้องถามว่าซื้อของอะไร ติดตั้งที่ไหน รับประกันกี่ปี ซ่อมที่ไหน
o อุปกรณ์แต่งรถ เช่น สปอยเลอร์ กระจังหน้า คิ้วกันสาด สเกิร์ตรอบคัน คิ้วบันไดสแตนเลส ต้องถามว่าซื้อของอะไร ของศูนย์ ของร้าน หรือของแท้ ติดตั้งที่ไหน ส่วนใหญ่เค้าจะแถมของที่ซื้อจากร้าน
o ของอื่นๆ เช่น ผ้าคลุมรถ หมอนผ้าห่ม พรมปูพื้น สายรองเบลท์ อุปกรณ์ฉุกเฉิน ผ้ายางปูพื้น ถาดหลังกันเปื้อน น้ำหอม ชุดทำความสะอาด ที่ล๊อกพวกมาลัย ม่านบังแดด ฯลฯ
ถามเรื่องประกันภัยชั้น 1 ที่เค้าให้เรา ไม่ว่าจะแถมให้ฟรี หรือเราเสียเงินเอง มันมีส่วนสำคัญมากครับ และรถใหม่ทุกคันที่ผ่อนจะต้องทำ เราควรจะถามข้อมูลอะไรบ้างเกี่ยวกับประกันจากเซลล์ หากเซลตอบไม่ได้ หรือเราไม่เข้าใจ ก็อย่าเพิ่งจอง ต้องให้เขาอธิบายเราให้เข้าใจให้ได้ก่อน
o เป็นของบริษัทอะไร น่าเชื่อถือหรือเปล่า ได้ยินคุ้นหูไหม
o บริษัทประกันนั้นมีข่าวไม่ดีจากลูกค้าหรือเปล่า เช่น บริการไม่ดี บริการช้า
o ซ่อมศูนย์ หรือซ่อมอู่ ถึงจะเป็นประกันชั้น 1 แต่ก็ใช่ว่าจะสามารถซ่อมได้ทุกที่ เพราะราคาการซ่อมที่ประกันสามารถจ่ายได้บางศูนย์หรือบางอู่ก็รับไม่ได้ อย่างบางกรณี มีศูนย์ยี่ห้อ A 2 แต่ที่หนึ่งรับเคลมไม่ต้องจ่ายเพิ่ม แต่อีกที่เมื่อไปเคลมจะมีส่วนต่างที่เราต้องจ่ายเพิ่มเอง แต่ศูนย์ที่รับเคลมที่ไม่มีส่วนต่างรอคิวซ่อมนานเป็นเดือนๆ เราต้องรู้ก่อนเพื่อไม่เสียความรู้สึกภายหลัง
o ข้อควรรู้สำหรับมือใหม่ หากรถเราเสียหายโดยไม่มีคู่กรณีเราต้องจ่ายประกันเริ่มต้น 1000 บาท แต่หากมีคู่กรณี คู่กรณีจ่าย ซ่อมฟรี แต่เสียเวลา
ถามเรื่องการทำสินเชื่อ หากเราไม่ได้ซื้อเงินสด ควรถามเรื่องนี้กับเซลล์ด้วยครเพราะต้องทำสัญญาเช่าซื้อกับธนาคารนั้น สิ่งที่ควรรู้คือ
o บริษัทหรือธนาคารอะไร
o ดอกเบี้ยเท่าไร
o จำเป็นต้องมีประกันวงเงินสินเชื่อหรือเปล่า
o ลองให้เซลล์คิดเงินให้ดู ว่ามีค่าใช้จ่ายวันรับรถอะไรบ้าง ค่าใช้จ่ายทั้งหมด-เงินจอง-เงินดาวน์-ค่าอุปกรณ์ตกแต่งที่สั่งเพิ่ม
การจองรถยนต์ ขั้นตอนนี้เริ่มที่จะเสียเงินแล้ว หากพอใจกับตัวรถยนต์รุ่นที่ต้องการ ของแถมที่เซลล์จะจัดให้ นิสัยและคำอธิบายของเซลล์ เรื่องประกันชั้น 1 ก็จองรถได้เลย แต่หากยังรู้สึกลังแลก็อย่าเพิ่งจอง มันไม่ทำให้เซลล์เสียเวลาซักเท่าไหร่ เพราะมันเป็นหน้าที่ของเค้า เพราะรถที่จะซื้อไม่ใช่คันละบาทสองบาท เมื่อเราจองรถ หากรถมาแล้วไม่ตรงตามข้อตกลง เรามีสิทธิที่จะไม่เอาและขอค่าจองคืนได้ มีข้อแนะนำดังนี้
o อย่าลืมขอใบเสร็จหรือสัญญาการจอง
o สัญญาการจองต้องระบุรุ่นและสีของรถที่เราต้องการให้ถูกต้อง
o สัญญาการจองต้องเขียนของแถมทุกอย่างให้ครบอย่าบอกปากเปล่า
o ตอนนี้ก็ถามเลยว่ารถจะมาเมื่อไร และจะติดต่อกลับเราวันไหนระบุให้ชัดเจนเขียนลงในสัญญาเลย
o หากเราละเอียดมากๆ แล้วถ้าเซลล์งอแง หรือแกล้งลืมๆ ไม่จด เราก็บอกไปเลยครับว่ายังไม่จอง อย่ารีบร้อนนะครับ รถไม่ใช่ถูกๆ
o หลังจากจองเสร็จก็รอ หากเซลล์โทรมาเปลี่ยนแปลงเรื่องของแถมก็แล้วแต่เราว่ารับได้ไหม รับไม่ได้ก็ขอเงินจองคืน
การตรวจรับรถป้ายแดง หากเราติดฟิล์มหรือไม่ได้ทำอะไรเพิ่มเติม เซลล์จะโทรให้ไปรับรถเลย แต่หากเรามีการตกแต่งที่ไม่ได้ทำมาจากโรงงาน เซลล์จะให้ไปดูรถและตรวจรถที่มาจากโรงงาน ยังไงก็ตามควรทำการตรวจรับรถที่มาจากโรงงานก่อนเริ่มเลย
o ควรพาผู้เชี่ยวชาญเรื่องรถยนต์ สี และพวกจับผิดเรื่องรถยนต์เก่งๆ เพราะเรามือใหม่
o มีแบบฟอร์มการตรวจรถลองหาดาวน์โหลดดูมีเยอะ และควรจะค่อยๆตรวจที่ละขั้นอย่างละเอียด โดยให้คนที่พาไปด้วยช่วยเราดู
o ขอดูเอกสารที่รถลงถึงโชว์รูม ว่าวันที่เท่าไร ช่างตรวจรับหรือยัง เค้าจะเรียกว่าใบ Warranty Bosket
o สำคัญมาก อย่าลืมจดหมายเลขเครื่องเอาไว้ด้วย ว่ารถคันนี้เราเช็คแล้ว
o ข้อตกลงเรื่องการติดตั้งของอื่นๆ เพิ่มเติม ของแถมตามสัญญาการจอง เช่น ติดฟิล์ม สปอยเลอร์ กระจังหน้า คิ้วกันสาด สเกิร์ตรอบคัน คิ้วบันไดสแตนเลส Sensor ถอยหลัง เบาะหนัง พวกนี้ต้องรอเช็คอีกรอบวันรับรถ
หากติดตั้งเสร็จแล้วให้ตรวจดูความเรียบร้อยดังนี้
o ติดฟิล์ม ขอดูใบติดตั้ง ใบรับประกันเขียนถูกต้องเหรือเปล่า มีฟองอากาศหรือเปล่า
o สปอยเลอร์ กระจังหน้า คิ้วกันสาด สเกิร์ตรอบคัน คิ้วบันไดสแตนเลส การติดตั้งเรียบร้อยหรือเปล่า
o น๊อตที่ใช้เป็นแบบไหน กันสนิมหรือเปล่า ขอบยางต่างๆติดสวยหรือเปล่า ใช่ซิลิโคนอะไร มีรอยหรือเปล่า
o สีเข้ากับสีรถหรือเปล่า เนื้อละเอียดเหมือนสีรถหรือเปล่า
o Sensor ถอยหลัง ทดสอบว่าวัดการถอยหลังยังไง
o เบาะหนัง สีตามที่เราต้องการหรือเปล่า ตะเข็บ ติดเรียบเนียนหรือเปล่า
ทำสัญญาซื้อขาย หรือสัญญารับรถ
o รถสวยงามอย่างที่เราต้องการหรือเปล่า ใช่รุ่นที่ต้องการหรือเปล่า ไม่ใช่มาจากโรงงานอีกรุ่น มาแต่งเป็นอีกรุ่นที่ต้องการ
o เอาหมายเลขเครื่องมาตรวจว่าหมายเลขเดียวกับที่ตรวจมาแล้วหรือเปล่า
o ตรวจดูการติดตั้งอุปกรณ์ตกแต่งเสริม
o ของแถมครบหรือเปล่า ไม่ครบรอเซ็นรับวันหลัง
o น้ำมันเต็มถังหรือเปล่า
o เอกสารต่างๆครบหรือเปล่า เช่น เอกสารประกันหรือใบเสร็จ พ.ร.บ. ใบเสร็จค่ามันจำป้ายแดง+สมุดคู่มือป้ายแดง
o ป้ายแดงของแท้หรือเปล่า ต้องมีตรา ขส
o เอกสารติดตั้งฟิล์ม และรับประกันฟิล์ม
o เอกสารการรับประกันอุปกรณ์รถหรือ Warranty Bosket ที่มีชื่อเราโดยไม่มีรอยลบ ขีด เปลี่ยนแปลงข้อมูล
o คู่มือรถ
o เอกสารเซ็นต์เตรียมจดทะเบียน จะได้ป้ายขาวเมื่อไร เลือกเลขทะเบียนได้หรือเปล่า หรือต้องติดต่อกับขนส่งเอง