คราบน้ำที่แห้งบนกระจก กลับมาใสปิ๊ง! ด้วย “น้ำส้มสายชู”
หลายครั้งหลายคราที่ทัศนวิสัย ไม่ค่อยจะเคลียร์นัก อันเนื่องมาจาก “คราบน้ำ” ที่ทิ้งร่อยรอยไว้ให้เห็น แม้จะมั่นใจว่า หลังล้างรถเราเช็ดกระจกอย่างดีแล้ว ปัญหานี้ถ้าขาดความละเอียด มันจะกลายเป็นปัญหาหมักหมม สะสมนานวันเข้า กระจกทุกบานรอบคันรถจะเกิดความหมอง มองผ่านๆอาจไม่สังเกตเห็น แต่ถ้าฝนเทลงมาเมื่อไหร่ล่ะก็ น้ำฝนจะไหลออกได้ยาก ใบปัดก็ไม่สามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ
สาเหตุของคราบน้ำ
♦ หลังล้างรถ เมื่อเช็ดน้ำออกจากกระจก กระจกจะไม่แห้งทันทีทันใด ยังจะหมาดๆ อยู่ ตรงนี้แหละ หากไม่ละเอียด หรือเอาง่ายเข้าว่า เมื่อปล่อยให้แห้งสนิท มันจะกลายเป็นคราบน้ำได้
♦ หลังฝนตก ไม่ชอบล้างรถ เพราะคิดว่าน้ำฝนแรงๆ นั้นสะอาด ใช้ใบปัดกวาดน้ำออก เดี๋ยวกลับมาใสเหมือนใหม่ เป็นความเข้าใจที่ผิดถนัด เพราะในอากาศจะมีฝุ่น ละออง สารเคมี เมื่อฝนตกลงมาก็รวมร่างมากองไว้บนกระจกรถเรานี่เอง
♦ การปล่อยให้แดดเผาละอองน้ำ เป็นตัวการชั้นดี เช่นจอดรถกลางแจ้งในเวลางาน พอมีฝนลงมา หรือใครสาดน้ำใส่ แน่นอนว่าเราไม่มีเวลาขจัดน้ำทันทีทันใด ซึ่งพอปล่อยทิ้งไว้ คราบน้ำที่แห้งจะเกาะฝังแน่นเป็นปลิงเลย
วิธีกำจัดคราบน้ำ
การทำให้น้ำบนกระจก ก่อตัวเป็น เม็ดเล็กกลมๆ แล้วไหลลงล่างตามแรงโน้มถ่วงคือดีที่สุด เพราะแสดงว่า กระจกรถคุณมีความสะอาด และใสมาก
♦ ใช้น้ำยาเคลือบ : วิธีนี้ก็โอเค เสียสตางค์ค่าน้ำยาหลักร้อย สูงสุดไม่น่าเกิน 500 ก็สามารถทำให้น้ำที่เกาะกระจกเป็นเม็ด คราบน้ำจะหลงเหลือน้อยหน่อย แต่ส่วนใหญ่มักพบปัญหา ทำให้เวลาปัดน้ำฝนแล้วฝืดติดกระจก
♦ ขัดเคลือบ : วิธีนี้มักจะใช้ตอนที่อาการคราบน้ำเกาะกระจกเข้าขั้นโคม่า บางรายทั้งปั่น ทั้งขัด คราบน้ำที่แห้งกรังก็ไม่สามารถเยียวยาได้ 100%