รีวิว : All New TOYOTA Corolla Altis 2014 ” ออล นิว โตโยต้า อัลติส ” เส้นทางง่ายๆ กรุงเทพ – พัทยา สไตล์ One Day Trip
“So Excited” นิยามใหม่ของ ” ออล นิว โตโยต้า อัลติส “ ( All New TOYOTA Corolla Altis 2014 ) เจนเนอเรชั่นที่ 11 ซึ่งในเวอร์ชั่นนี้เห็นการเปลี่ยนแปลงที่ครบถ้วนเกือบทุกจุด แถมยังออกมาถึง 3 สไตล์ทั้งหรูหรา สปอร์ต และประหยัดแบบ CNG แต่ในการทดสอบครั้งนี้ทาง บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด จัดให้ทดสอบในแบบสบายๆ หรือเวอร์ชั่นปกติกันก่อน โดยอาศัยเส้นทางง่ายๆ กรุงเทพ – พัทยา สไตล์ One Day Trip
รุ่น Corolla
สำหรับรุ่น Corolla ถือเป็นตระกูลที่สร้างยอดขายมากมายให้กับโตโยต้า จนมาถึงวันนี้ก้าวเข้าสู่ เจนเนอเรชั่นที่ 11 แล้ว โดยหัวหน้าทีมพัฒนาผลิตภัณฑ์หวังใจว่า “ลูกค้าต้องได้ประโยชน์เกินที่คาดเอาไว้” ด้วยจุดขาย 4 จุดคือ ดีไซน์ สมรรถนะการขับขี่ ประหยัดน้ำมัน และความปลอดภัย เรามาค่อยๆ รู้จักไปทีละจุดแล้วกันครับ จุดแรกที่ต้องชม คือ ดีไซน์ เนื่องจากว่าผิดหูผิดตาหรูหราอลังการขึ้นเยอะมาก แต่ในความอลังการนั้น ยังแฝงหลักอากาศพลศาสตร์ที่ดีไว้ด้วย ในความรู้สึกผมถือว่าเป็นการยกระดับซีดานขนาดกลางให้หรูหราเทียบชั้นใกล้เคียงซีดานหรูได้พอสมควร ความโดดเด่นต้องยกให้ไฟหน้า LED Projector ที่ซ่อนไฟ Daytime Running Lights เอาไว้ในโคมเดียวกัน นอกจากนี้ยังสามารถปรับระดับสูง – ต่ำ เปิด – ปิด อัตโนมัติได้ด้วย ส่วนไฟท้ายก็เป็น LED เช่นกัน ส่วนในเรื่องเส้นสายของตัวรถถูกจัดวางให้ร้อยเรียงไหลลื่นจากหัวจรดท้ายอย่างงดงาม ถือได้ว่าเป็นการยกระดับรถขนาดกลางของโตโยต้าให้ดูมีฐานะขึ้นเยอะ
ภายใน
ส่วนของภายในออกแบบให้มีความกว้างขวางสะดวกสบายสูงสุด โดยมีการเพิ่มความยาวช่วงล้อเป็น 2,700 มิลลิเมตร (ยาวกว่าเดิม 100 มิลลิเมตร) ทำให้ห้องโดยสารมีขนาดความยาวเพิ่มขึ้นเป็น 4,629 มิลลิเมตร (ยาวกว่าเดิม 80 มิลลิเมตร) และกว้าง 1,775 มิลลิเมตร (กว้างกว่าเดิม 15 มิลลิเมตร) ระยะห่างระหว่างผู้โดยสารตอนหน้าและหลังเพิ่มขึ้นเป็น 960 มิลลิเมตร (มากกว่าเดิม 75 มิลลิเมตร) การดีไซน์เน้นเรียบหรู ดูภูมิฐาน มีการเลือกใช้วัสดุตกแต่งภายในที่มีคุณภาพ แผงคอนโซลหน้าแบบ Cyber Carbon บุด้วยวัสดุแบบนุ่ม พวงมาลัยดีไซน์ใหม่ปรับได้ 4 ทิศทาง มี Paddle Shift ที่ด้านหลัง มาตรวัดเรืองแสง Optitron ระบบนำทางเนวิเกเตอร์ กระจกมองหลังพร้อมแสดงภาพจากกล้องมองหลัง กุญแจรีโมทแบบพับได้ ม่านบังแดดด้านหลัง ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ สำหรับผมส่วนตัวที่รู้สึกชอบคงเป็นเรื่องของความกว้างขวาง ความหรูหรา และความเงียบในห้องโดยสาร ซึ่งต้องขอยกนิ้วให้ ส่วนความปลอดภัยมั่นใจได้ด้วยโครงสร้างนิรภัย GOA ถุงลมเสริมความปลอดภัยคู่หน้า SRS เข็มขัดนิรภัยคู่หน้า พร้อมระบบกลไกดึงกลับและผ่อนแรงดึงอัตโนมัติ
เครื่องยนต์
การทดสอบในครั้งนี้เป็นเครื่องยนต์ 1.8 ลิตรทุกคัน จึงต้องมารู้จักเครื่องยนต์รหัส 2ZR-FBE แบบ 4 สูบแถวเรียง DOHC Dual VVT-i ความจุกระบอกสูบ 1,798 ซีซี. แรงม้าสูงสุด 141 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 177 นิวตัน – เมตร รองรับน้ำมัน E85 พร้อมระบบส่งกำลังแบบ Super CVT-i 7 สปีด แบบ Gate – Type พร้อม Sequential ทีมวิศวกรโตโยต้าบอกกับเราว่าเครื่องยนต์บล็อคนี้ ถูกพัฒนามากมายและในปัจจุบันถือเป็นเครื่องยนต์ที่ดีที่สุดใน Segment รายละเอียดการปรับปรุงมีทั้งส่วนกลไกวาล์ว เซ็นเซอร์ตำแหน่งเพลาลูกเบี้ยวแบบ MRE ระบบ ECU ควบคุมระบบระบายความร้อน ท่อไอดีที่มีระบบลิ้นปิด – เปิด จัดเรียงปริมาณอากาศที่เหมาะสมเข้าสู่การเผาไหม้ แต่จากการที่ได้ลองทดสอบขับ ผมมองว่าเกียร์ CVT-i มาเป็นพระเอกเลย เนื่องจากเกียร์ชุดนี้สามารถถ่ายทอดกำลังเครื่องยนต์ได้อย่างต่อเนื่องและรวดเร็วจนไปถึงความเร็วปลายที่ 200-205 กม./ชม. ได้อย่างง่ายดาย ที่สำคัญสามารถส่งกำลังอย่างนิ่มนวล ยิ่งคุณลองปรับโหมดมาใช้ Paddle Shift คุณจะรู้สึกถึงความฉลาดของเกียร์ชุดนี้ทันที เพราะทุกครั้งที่คุณเพิ่มหรือลดเกียร์ระบบจะประมวลผลในเวลาไม่ถึงวินาที ทำให้คุณรู้สึกสนุกจากความต่อเนื่องในจังหวะของเกียร์ ทำให้อัตราเร่งเพิ่มขึ้นอย่างไร้รอยต่อ เวลาที่คุณลดเกียร์ลงเพื่อใช้ Engine Brake ของเครื่องยนต์ก็สามารถช่วยลดความเร็วของรถได้อย่างทันอกทันใจ จุดนี้ผมถือเป็นเสน่ห์ที่น่าประทับใจอย่างมาก ส่วนอัตราการใช้น้ำมันที่ทางโตโยต้าแจ้งสื่อมวลชนอยู่ที่ 15.7 กม./ชม. หากผมมีโอกาสนำรุ่นนี้มาทดสอบจะมาแจ้งตัวเลขการใช้งานจริงให้ทราบอีกครั้งครับ
ช่วงล่าง
มาลองระบบช่วงล่างหน้าแม็คเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกกันโคลงในด้านหน้า ส่วนด้านหลังเป็นแบบทอร์ชั่นบีม พร้อมเหล็กกันโคลง เสริมด้วยระบบควบคุมการทรงตัว (VSC) ช่วยป้องกันไม่ให้รถลื่นไถลออกนอกเส้นทางในขณะเข้าโค้ง โดยใช้ระบบเซ็นเซอร์คอยตรวจจับลักษณะการเคลื่อนไหวของตัวรถ พอรถเริ่มหลุดโค้ง ระบบจะประมวลผลสั่งการไปตัดการจ่ายน้ำมันที่ลิ้นปีกผีเสื้อ และเพิ่มแรงกดเบรกล้อข้างในโค้ง เพื่อให้คุณสามารถเข้าโค้งไปได้อย่างปลอดภัย นอกจากนี้ยังมีระบบป้องกันล้อหมุนฟรี (TRC) ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS) ระบบกระจายแรงเบรก (EBD) ระบบเสริมแรงเบรก (BA) แต่เสียดายไปนิดที่ไม่ได้ลองในส่วนของช่วงล่างเท่าไหร่นัก เนื่องจากเส้นทางที่ใช้เป็น Hi Way ใช้ความเร็วสูงซะส่วนใหญ่ ผมจึงบอกได้ว่าความนิ่มนวลดีมาก การทรงตัวในทางตรงอยู่ในเกณฑ์ดี แต่เวลาเปลี่ยนเลนในความเร็วเกิน 150 กม./ชม. อาจจะมีอาการวูบวาบอยู่บ้าง แต่นั่นก็เป็นความเร็วที่เกินกฎหมายไทยกำหนด และไม่ปลอดภัยต่อเพื่อนร่วมทางด้วย
สุดท้ายขอบคุณ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ที่ให้เรา iAMCAR ได้สัมผัสนวัตกรรมดีๆ เสมอมาครับ ส่วน “ออน นิว โตโยต้า อัลติส”All New TOYOTA Corolla Altis 2014 ส่วนตัวผมถือว่าเกินคาด การปรับปรุงพัฒนาออกมาได้อย่างน่าประทับใจ แต่คุณจะเห็นด้วยกับผมหรือไม่นั้น เชิญทดลองขับได้ทั้ง 390 โชว์รูมทั่วประเทศครับ แต่ขับแล้วอย่างลืมมาเล่าสู่กันฟังบ้างนะครับ
บทความแนะนำ
รีวิว : All New TOYOTA Corolla Altis CNG 2014 ” ออล นิว โคโรลล่า อัลติส ซีเอนจี “
โตโยต้า โคโรลล่า อัลติส ใหม่ 2014 (New Toyota Corolla Altis 2014..So Excited)
ทดสอบ “นิว โตโยต้า อัลติส เอสสปอร์ต” Test Drive TOYOTA Altis ESport