รีวิว : New Honda CR-V 2.4 i-vtec AWD อย่าคิดว่ามัน “ซด” ถ้าคุณยังไม่ได้ลอง
ของใหม่สดอย่างเครื่องยนต์ดีเซล ย่อมได้รับความสนใจอย่างยิ่ง เพราะไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์ของ Honda CR-V แต่อีกหนึ่งตัวท้อปของ ฮอนด้า ซีอาร์-วี ในรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน ก็ไม่ควรถูกมองข้าม จากการเข้ามาของเครื่องยนต์ดีเซล อันเนื่องมาจากกลุ่มลูกค้าที่จ่ายค่าตัวถูกกว่าถึง 150,000 บาท โดยในรุ่น 2.4 i-vtec ตั้ง ราคา ขายไว้ที่ 1,549,000 บาท แต่ถ้าอยากได้เครื่องยนต์ดีเซล ที่เค้าว่าประหยัดน้ำมัน ก็ต้องจ่ายค่าตัวที่ 1.699,000 บาท
จริงๆ แล้วแม้จะเคยขับ New Honda CR-V มาก่อน แต่ส่วนใหญ่มักจะเป็นรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล ความต่างอย่างเด่นชัดคงเป็นเสียงเครื่องยนต์ รูปแบบของคันเกียร์ ซึ่งถ้าเป็นดีเซล เมื่อเข้าไปนั่งอยู่ในรถ หน้าตาของคันเกียร์ที่เป็นด้าม จะถูกเปลี่ยนมาเป็น ปุ่มกดแบบไฟฟ้า ที่สำคัญหลายคนพยายาม บิ้ว ว่าเครื่องยนต์เบนซิน กินน้ำมัน ในระดับ ซดแหลก ไม่เหมือนดีเซล
พอได้มาทำความรู้จักกับ ซีอาร์-วี 2.4 i-vtec AWD ความคุ้นเคยของการขับรถกลับคืนมา เริ่มตั้งแต่ คันเกียร์ ที่เป็นฟอร์แมทเหมือนรถส่วนใหญ่ แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นสำคัญ ความเงียบของเครื่องยนต์ นั่นคือความต่างที่ได้รับ ระหว่างดีเซลกับเบนซิน
รวมถึงแรงสั่นสะเทือน จากการทำงานของเครื่องยนต์ มีน้อยกว่าอย่างรู้สึกได้ชัด จากเครื่องยนต์เบนซินแถวเรียง 4 สูบ ความจุ 2,356 ซีซี 16 วาล์ว พื้นฐานเดียวกับ CR-V รุ่นที่ก่อน ให้กำลังสูงสุด 173 แรงม้าที่ 6,200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 224 นิวตัน-เมตรที่ 4,000 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ CVT และยังรองรับเชื้อเพลิง E85
ด้วยความที่เป็น AWD หรือรถขับเคลื่อนทุกล้อตลอดเวลา แต่การใช้งานหนักๆ ในแบบออฟโรดโหดๆ ดูจะไม่เหมาะเท่าไหร่ แต่ถ้าเรื่องความนิ่ง หรือการขับบนพื้นเรียบ ที่อาจจะมีความลื่นในบางช่วง ดูท่าซีอาร์-วี ใหม่จะให้ความมั่นใจได้อย่างดีบนความเร็วสูง ด้วยความสูง 208 มม.จากพื้นถึงใต้ท้อง จะลุยน้ำก็ไปได้ จะขับขี่ความเร็วสูงก็ยังมั่นใจ โดยสถานะของระบบขับเคลื่อน สามารถเรียกดูได้ที่หน้าจอมาตรวัด
ด้านภายในจะสัมผัสกับเบาะนั่งหุ้มด้วยวัสดุหนัง ที่ตัวค่อนข้างใหญ่เอาเรื่องเหมือนกัน พอได้นั่งลงไปบนเบาะเท่านั้น รู้สึกได้ว่าคับคล้ายคับคลากับโซฟาทีเดียว ให้ความสบายค่อนข้างมากอันเนื่องมาจากความใหญ่ของตัวเบาะ สะดวกสบายด้วยการปรับด้วยไฟฟ้าทั้งคนขับ และคนนั่งหน้า
ส่วนเบาะหลังแถวสองก็นั่งสบายตัวไม่แพ้กัน ความกว้างทั้งด้านข้าง และเนื้อที่เลกรูมมีมาให้อย่างเหลือเฟือ ส่วนเบาะแถวสามไม่ต้องพูดถึง เพราะครั้งนี้เราขับไปกันแค่สองคน แต่ถ้าดึงมานั่งเป็นครั้งคราวก็พอไหว แต่ถ้าไปกันซัก 5 คน เบาะแถวสองนั่นกัน 3 คนก็ถือว่าสบายอยู่ไม่น้อย ที่สำคัญสำหรับผู้โดยสารแถวสอง ฮอนด้า ซีอาร์-วี ใหม่ มีช่องเสียบชาร์จ USB มาให้ถึง 2 ช่องด้วยกัน ไม่ต้องแย่งชาร์จกับข้างหน้าที่มีอยู่แล้ว 2 ช่อง
สรุปแบบรวบรัดเมื่อได้อยู่กับ New Honda CR-V มา 4 วัน
สำหรับการอยู่ ซีอาร์-วี ใหม่ในครั้งนี้ ผม และเพื่อนสมาชิกอีกคน เราออกเดินทางไกลเกินกว่า 400 กม.บอกตามตรงเลยว่า ตอนแรกก็ไม่ชินกับเบาะที่ออกแนวค่อนข้างตัวโต แต่เมื่อนั่งขับไปนานๆ ก็ไม่ได้รู้สึกเมื่อยล้า กลับกัน เบาะทรงใหญ่ๆ อย่างนี้กลับนั่งสบายไม่แพ้เบาะรูปทรงกระชับเลย
น้ำหนักพวงมาลัย ไม่หนัก ไม่เบา เวลาขับแล้วให้ความมั่นใจค่อนข้างมาก พวงมาลัย นิ่งมาก พยายามรักษาทิศทางการขับขี่ให้เป็นไปแบบ นิ่งและมั่นคง ซึ่งช่วงล่างหน้าแบบแม็กเฟอร์สันสตรัท และด้านหลังแบบอิสระมัลติลิ้งค์ ทำให้เวลาอยู่หลังพวงมาลัยแล้วรู้สึกไม่มีวอกแวกเวลาที่ใช้ความเร็วสูง ส่วนความนุ่มนวล ก็ตอบสนองได้ดี ไม่นุ่มจนย้วย ออกแนวกลางๆ กำลังพอดีเสียมากกว่า
ด้านเครื่องยนต์ไม่ได้แรงจี๊ดจ๊าด แต่มีกำลังในแบบพอดีๆ ไม่มีอืด ยิ่งระบบเบรกแบบดิสก์ 4 ล้อ พร้อมทั้ง EBD และ VSA ซึ่งไม่ได้มีลักษณะพิสดารอะไร แต่น้ำหนักของแป้นเบรกทำออกมาได้น่าประทับใจ คุมน้ำหนักเท้าได้ง่าย เบรกได้นุ่มนวล
เปิด-ปิดด้วยไฟฟ้า
ที่สำคัญที่สุดคือ ใครหลายคนได้บอกว่า รุ่นเครื่องเบนซินใน ซีอาร์-วี ใหม่จะกินน้ำมันมากกว่ารุ่นดีเซล รวมถึงตัวผมเองซึ่งก็เคยขับรุ่นดีเซล และพยายามสังเกตเรื่องอัตราสิ้นมาก่อน คิดว่าทริปนี้กับการวิ่งเที่ยวเดียวประมาณ 400 กม.(ปลายๆ ค่อนไปเกือบ 500 กม.) กับการขับขี่แบบเดินทางปกติ เร็วบ้างช้าบ้างตามสภาพถนน ไม่ได้คิดเกร็งเท้าเพื่อสร้างตัวเลข…ซึ่งเมื่อระยะทางผ่านไปราว 470 กม.น้ำมันยังเหลืออยู่ราว ¼ เมื่อเด็กปั๊มเติมจนเต็มถัง แล้วเดินมาเรียกเก็บเงิน ห๊า!!! นี่จ่ายแค่ พันเดียว เองหรอ
