เทียบ SPEC เน้น เน้น Toyota Fortuner / Mitsubishi Pajero Sport / Nissan Terra ที่ว่ากันด้วย ตัวTop

รถยนต์อเนกประสงค์ PPV หรือ SUV จัดได้ว่าเป็นรถที่ยอดนิยมมากในประเทศไทย ที่หลายคน (ที่ไม่ติดในแบรนด์)กำลังจะตัดสินใจที่จะเป็นเจ้าของ โดยคราวนี้ก็เลยอยากจะมาเปรียบ SPEC ของรถแนวนี้ ใน 3 รุ่น ที่น่าสนใจมากที่สุดตอนนี้ ซึ่งพระเอกของทั้ง 3 รุ่นในครั้งนี้ก็คือได้ Toyota Fortuner / Mitsubishi Pajero / Nissan Terra

เริ่มกันที่ Toyota Fortuner ที่ถือว่าครองแชมป์ความนิยมของรถประเภทนี้มายาวนาน ราคา 1,663,000 บาท

รูปลักษณ์และอุปกรณ์ภายนอก

-ไฟหน้าเลนส์โปรเจคเตอร์ Bi-Beam LED ระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติพร้อม ระบบ follow-me-home
-ระบบปรับไฟหน้าสูง-ต่ำ แบบอัตโนมัติ
-ไฟท้ายแบบ Light Guiding
-กระจกมองข้างพร้อมระบบ Welcome Light
-ที่ปัดน้ำฝนกระจกหลังพร้อมระบบไล่ฝ้า
-กล้องมองหลัง
-ประตูท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมระบบป้องกันการหนีบ
-ล้ออัลลอย พร้อมยางขนาด 265/60R18
-มิติ ยาว 4,795 กว้าง 1,855 สูง 1,835 มิลลิเมตร / ฐานล้อ 2,750 มิลลิเมตร

อุปกรณ์ภายใน

-วัสดุหุ้มเบาะนั่งสีครีมชามัวส์เป็นหนังและหนังสังเคราะห์
-เบาะนั่ง แถวที่ 1 แบบสปอร์ต ปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง ด้านผู้ขับ
-แผงข้างประตู ตกแต่งด้วยแถบสีเงิน สีครีมชามัวส์ บุหนังสังเคราะห์
-ที่บังแดดด้านผู้ขับขี่ และผู้โดยสาร มีที่เก็บนามบัตร กระจก ฝาปิดและไฟส่องสว่าง
-พวงมาลัยปรับสูง-ต่ำ เข้า-ออก (Tilt & Telescopic) ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control) ควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย
-ช่องต่ออุปกรณ์ไฟฟ้า DC 12 โวลต์ และ AC 220 โวลต์
-ช่องต่ออุปกรณ์ USB/AUX วิทยุ FM/AM และเครื่องเล่นแผ่น DVD จอสัมผัส7นิ้ว
– มีระบบ Telematics เทคโนโลยี แห่งอนาคตเชื่อมต่อรถ และคุณให้เป็นหนึ่งเดียว ตรวจสอบตำแหน่งรถยนต์ผ่านสมาร์ทโฟน และ Apple Watch Toyota Smart Center พร้อมให้บริการ 24 ชม. หน้าจอแสดงผลที่มาพร้อมระบบนำทาง การเชื่อมต่อ Bluetooth รองรับโทรศัพท์และการเล่นเพลง และระบบนำทางรองรับ T-Connect
-ไฟส่องสว่างในห้องโดยสารแบบ LED พร้อมไฟส่วนบุคคล
-ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ ควบคุมแรงลมอัตโนมัติ เพื่อรักษาอุณหภูมิในห้องโดยสารให้เหมาะสม
-เบาะปรับพับแถว 2 แบบ One Touch
-ช่องเก็บของแบบ Cool box ที่วางแก้วแบบ push – open เลื่อนเก็บได้ บริเวณที่พักแขนเบาะนั่งผู้โดยสารแถวสอง

เครื่องยนต์

-เครื่องยนต์ดีเซล 2.8 ลิตร (เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด) ให้กำลังสูงสุด 130 กิโลวัตต์ (177 แรงม้า) ที่ 3400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน – เมตร ที่ 1,600 – 2,400 รอบ/นาที
-เครื่องยนต์ GD Efficient Boot ลดการสูญเสียความร้อน และแรงเสียดทานของเครื่องยนต์ ให้แรงบิดสูงสุดในรอบกว้าง Flat Torque
– VN Turbo ด้วยระบบเทอร์โบแปรผันใหม่ ออกแบบให้มีขนาดเล็กลงแต่เต็มไปด้วยประสิทธิภาพ พร้อมระบบควบคุมการ เปิด-ปิดครีบปรับแรงดันอากาศด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าแม่นยำสูงสุด ส่งกำลังให้แรงต่อเนื่องทุกความเร็วรอบ


-การขับเคลื่อนในเเบบ 4 ล้อตลอดเวลา พร้อมกับระบบขับเคลื่อนเป็นระบบเกียร์เเบบ อัตโนมัติ 6 จังหวะ
-ระบบตัดการทำงานของเครื่องยนต์อัตโนมัติ (Stop & Start System) ระบบตัดการทำงานของเครื่องยนต์ชั่วขณะ และจะสตาร์ทเครื่องยนต์ขึ้นใหม่โดยอัตโนมัติเมื่อแตะคันเร่ง ช่วยประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้น และขณะที่เครื่องยนต์หยุดทำงานเครื่องปรับอากาศจะยังคงส่งลมเย็นอย่างต่อเนื่อง
-ระบบขับเคลื่อนม่าโฟร์ โหมด H2, H4, L4 ผสานการทำงานร่วมกับระบบ DAC และ A-TRC ที่จะเอาชนะทุกความท้าทาย ก้าวข้ามอุปสรรคแห่งการเดินทาง และระบบ H2 ระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ สำหรับสภาพถนนปกติ ช่วยให้ประหยดน้ำมันเป็นเยี่ยม
-ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน DAC (Downhill Assist Control) ระบบการควบคุมแรงดันเบรกอัตโนมัติขณะขับลงทางชันช่วยควบคุมความเร็วรถให้คงที่ ป้องกันไม่ให้รถลื่นไถลลงเนินอย่างรวดเร็ว โดยผู้ขับขี่ไม่จำเป็นต้องแตะเบรก
-ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีแบบแอคทีฟ A-TRC (Active Traction Control)
-ระบบกันสะเทือนหน้าและหลัง แบบอิสระปีกนกคู่ พร้อมคอยล์สปริงและเหล็กกันโคลง

 

ความปลอดภัย

-ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC (Hill-start Assist Control) ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC (Trailer Control)
-ระบบควบคุมการส่ายของส่วนพ่วงท้าย TSC (Trailer Sway Control)ช่วยรักษาเสถียรภาพ ป้องกันรถส่ายหรือเสียการทรงตัว
-ระบบควบคุมการทรงตัว VSC (Vehicle Stability Control)ตรวจวัดระบบการทรงตัวของรถ และควบคุมรถให้ทรงตัวอย่างมั่นคง
-ระบบเบรก ABS (Anti-lock Braking System) ป้องกันล้อล็อกและการลื่นไถลจากการเบรกกะทันหัน ระบบเสริมแรงเบรก BA (Brake Assist) ระบบกระจายแรงเบรก EBD (Electronic Brake-force Distribution)
-เข็มขัดนิรภัยแบบ ELR ความปลอดภัยระดับสูงด้วยเข็มขัดนิรภัยในแถวที่ 1 เป็นแบบ ELR 3 จุด 2 ที่นั่ง ที่สามารถปรับระดับได้ พร้อมกับระบบผ่อนแรง เเละสามารถดึงรั้งกลับได้แบบอัตโนมัติ ส่วนเข็มขัดนิรภัยแถวที่ 2 จะเป็นในแบบ ELR 3 จุด 2 ที่นั่ง + NR 2จุด 1 ที่นั่ง เเละเข็มขัดนิรภัยแถวที่ 3 จะเป็นในแบบ ELR 3 จุด 2 ที่นั่ง
-กล้องมองหลัง แสดงภาพบริเวณมุมมองด้านท้ายของรถ ช่วยให้ทุกจังหวะการถอยจอดมั่นใจเพิ่มขึ้นเซ็นเซอร์กะระยะการถอยหลัง เพิ่มความปลอดภัยในทุกการเข้าจอดหรือถอย
-ระบบถุงลมเสริมความปลอดภัย 7 จุด มั่นใจอีกขั้นของการปกป้องที่เหนือชั้น ทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ด้านหน้า 2 ตำแหน่ง/ ด้านข้าง 2 ตำแหน่ง/ ม่าน 2 ตำแหน่ง/ เข่าคนขับ 1 ตำแหน่ง

พระเอกคันที่ 2 Mitsubishi Pajero Sport ราคา 1,544,000 บาท

 

รูปลักษณ์และอุปกรณ์ภายนอก

-ไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์ แบบ Bi-LED พร้อมระบบปรับระดับลำแสงไฟหน้าอัตโนมัติ พร้อมระบบ Follow-me-home
-ระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ
-ไฟท้ายแบบ Spectrum LED พร้อมไฟเบรกแบบ LED
-กระจกมองหลังแบบปรับแสงสะท้อน ปรับลดแสงสะท้อนอัตโนมัติ
-ระบบไล่ฝ้ากระจกหลัง (แบบตัดการทำงานอัตโนมัติ) ปัดน้ำฝนกระจกหน้าแบบพิเศษ (ทำงานอัตโนมัติ)
-กล้องมองภาพบริเวณด้านหลัง
– ยาว 4,785 กว้าง 1,815 สูง 1,805 มิลลิเมตร / ฐานล้อ 2,800 มิลลิเมตร

อุปกรณ์ภายใน

-เบาะหน้า เบาะหลังและวัสดุหนังสังเคราะห์ สีดำ
-เบาะคู่หน้าปรับระดับได้ 8 ทิศทาง ด้วยระบบไฟฟ้า
-ตกแต่งภายใน (สีเงิน-โครเมี่ยม) บุหนังสังเคราะห์สีดำ
– ที่บังแดดหน้า แบบมีกระจกแต่งหน้าและฝาปิด พร้อมที่เสียบบัตรด้านคนขับ
-ระบบล็อกความเร็วบนพวงมาลัย และระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวกมาลัย
-ช่องจ่ายกระแสไฟ DC 12 โวลต์ หน้าและหลัง
-เครื่องเสียง 2DIN – วิทยุ, ดีวีดี, ซีดี, เอ็มพี 3, จอภาพระบบสัมผัส ขนาด 7 นิ้ว พร้อมช่องต่อ USB
-ระบบเชื่อมต่อบลูทูธแบบ A2DP และระบบนำทางในรถยนต์
-ไฟห้องโดยสารเปิดอัตโนมัติ เมื่อปลดล็อก
-ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ แบบแยกปรับอุณหภูมิ ซ้าย-ขวา (Dual zone)
-เบาะแถวสาม ปรับแบนราบกับพื้นห้องโดยสารได้
-จอภาพแบบ Wide Screen พร้อมเครื่องเล่นซีดี, รีโมท และหูฟังอินฟราเรด 2 ชุด สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง

เครื่องยนต์

– เครื่องยนต์ดีเซล คอนมอนเรล 2.4L 181 แรงม้า ที่มาพร้อมเสื้อสูบและฝาสูบอลูมินัม อัลลอย บล็อก ซึ่งมีน้ำหนักเบา ทนทาน แข็งแกร่ง และระบายความร้อนได้ดี
-ระบบวาล์วแปรผัน MIVEC ช่วยให้เครื่องยนต์มีแรงบิดดีขึ้นในรอบต่ำทำให้เครื่องยนต์มีอัตราเร่งดี ให้การเผาไหม้หมดจด ลดมลพิษ รักษาสิ่งแวดล้อม
-เพิ่มแรงม้ามากขึ้นด้วยขุมพลังของ VG Turbo ทำให้เครื่องยนต์มีกำลังสูง ทั้งในรอบปานกลาง และรอบสูง ตอบสนองทันใจ ช่วยให้ขับขี่สนุกและเร้าใจมากขึ้น

-เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด 8AT with Sport Mode + INC (ldle Neutral Control) and G-Sensor ระบบเกียร์อัตโนมัติอัจฉริยะใหม่ล่าสุด ที่มีอัตราทดถึง 8 สปีด
-ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์แบบไฟฟ้า ช่วยให้ทุกการเปลี่ยนเกียร์เป็นไปอย่างนุ่มนวล ทำงานควบคู่กับระบบ INC ที่ช่วยควบคุม และตัดระบบส่งกำลังไปยังเพลาขับโดยอัตโนมัติเมื่อเหยียบเบรก เพื่อหยุดรถในตำแหน่งเกียร์ “D” ลดภาระการทำงานของเครื่องยนต์ ส่งผลให้ประหยัดน้ำมันในการทุกการขับขี่และลดการสึกหรอของระบบเกียร์
-SUPER SELECT 4WD II เทคโนโลยีขับเคลื่อน 4 ล้อ เอกลักษณ์เฉพาะของมิตซูบิชิ ให้ความมั่นใจในการขับขี่ทุกสภาพถนน โดยให้คุณสามารถเปลี่ยนโหลดจากระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ (2H) เป็นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ (4H) แบบ Full-time All Wheel Control เพื่อเพิ่มความปลดภัยบนถนนลื่น
-ระบบ G-Sensor ช่วยควบคุมการเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์ให้มีความแม่นยำมากขึ้นในทางลาดชัน

ความปลอดภัย

-ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว พร้อมระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล
– FORWARD COLLISION MITIGATION SYSTEM ระบบเตือนชนด้านหน้าตรง พร้อมระบบช่วยชะลอความเร็ว
– ULTRASONIC MISACCELERATION MITIGATION SYSTEM ระบบตัดกำลังเครื่องยนต์ชั่วขณะ เมื่อเหยียบคันเร่งอย่างรุนแรงและรวดเร็ว
-ระบบเบรก ABS, ระบบกระจายแรงเบรกแบบอิเล็กทรอนิกส์ EBD และระบบเสริมแรงเบรก BA ระบบไฟกะพริบฉุกเฉินอัตโนมัติ ขณะเบรกกะทันหัน
-เข็มขัดนิรภัย คู่หน้า ELR 3 จุด 2 ตำแหน่ง, แถวที่ 2 ELR 3 จุด 1 ตำแหน่ง และ 2 จุด 1 ตำแหน่ง, แถวที่สาม ELR 3 จุด 2 ตำแหน่ง
– MULTIAROUND MONITOR กล้องมองภาพรอบคัน ระบบทำงานผ่านกล้อง 4 ตำแหน่งรอบตัวรถ เพื่อประมวลผลและแสดงภาพแบบ Bird’s Eye View ผ่านหน้าจอมอนิเตอร์
-ถุงลมนิรภัยด้านข้าง, บริเวณหัวเข่าด้านคนขับและม่านถุงลมนิรภัย
– BLIND SPOT WARNING ระบบสัญญาณเตือนจุดอับสายตา
-ระบบเบรกมือควบคุมด้วยไฟฟ้า

คันสุดท้ายที่ถือว่าเป็นน้องใหม่ล่าสุดก็คือ Nissan Terra ราคา 1,427,000 บาท

รูปลักษณ์และอุปกรณ์ภายนอก

– กระจังหน้าแบบ V-Motion
– ไฟหน้าและไฟท้ายแบบบูมเมอร์แรงเอกลักษณ์เฉพาะของนิสสัน
– LED Daytime Running Light เพิ่มวิสัยทัศน์ให้ชัดเจนย
– ล้ออัลลอยขนาด 18″
– มิติ ยาว 4,885 กว้าง 1,865 สูง 1,835 มิลลิเมตร / ฐานล้อ 2,850 มิลลิเมตร

ภายใน

– ควบคุมอุณหภูมิแยกโซนอัตโนมัติ
– ระบบความบันเทิงด้วยจอมอนิเตอร์ ขนาด 11 นิ้ว สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
– พื้นที่บริเวณที่นั่งแถวที่ 2 และ 3 สามารถปรับได้หลายรูปแบบ
– ระบบปรับอากาศกระจายความเย็นรอบทิศทางแบบ 360 องศา
– ระบบพับเบาะอัตโนมัติ
– มอบความสะดวกอย่างเหนือระดับ
– ฟังก์ชันล้ำสมัยที่เชื่อมต่อทุกความสบายไว้แค่ปลายนิ้ว
– ระบบ Cruise Control
– ระบบเครื่องเสียงรวมถึงการโทรศัพท์แบบไร้สายผ่านบลูทูธ รองรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน
– ระบบนำทางอัจฉริยะ
– หน้าจออัจฉริยะแสดงข้อมูลขับขี่แบบ 3 มิติ แสดงข้อมูล ความดันลมในยาง ข้อมูลระบบขับเคลื่อน 4X4 หรือข้อมูลอัตราการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง เป็นต้น ผ่านหน้าจอ TFT ขนาด 5 นิ้ว

เครื่องยนต์

– เครื่องยนต์ YS23DDTT ขนาด 2.3 ลิตร ทวินเทอร์โบ
– ระบบส่งกำลังแบบอัตโนมัติ 7 สปีด
– กำลังสูงสุดที่ 190 แรงม้า
– แรงบิดมหาศาลที่ 450 นิวตัน-เมตร
– เกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด 4WD-DIFF lock
– ช่วงล่างแบบ five-link coil spring

ความปลอดภัย

– ถุงลมนิรภัย 7 จุด รอบคัน
– ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (HSA)
– ระบบช่วยควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (HDC)
– เทคโนโลยีกระจกมองหลังอัจฉริยะ หรือ Intelligent Rear View Mirror (IRVM)
– ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกช่องทาง Lane Departure Warning
– ระบบเตือนจุดอับสายตาBlind Spot Warning
– ระบบกล้องมองภาพรอบทิศทาง
– ระบบเตือนวัตถุเคลื่อนไหวรอบคัน Around View Monitor with Moving Object Detection
– ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัจฉริยะ Intelligent Emergency Braking

หากกำลังมองหารถอเนกประสงค์ไม่ว่าจะเป็น PPV หรือ SUV ขอแนะนำเลยว่าให้ไปดูตัวเป็นๆ รวมไปถึงไปทดลองขับว่าชอบจริงๆมั้ย หรือแค่ติดแบรนด์ เพราะอย่าลืมว่ารถมัน คันเป็นล้านบาทเลยนะ

แท็กยี่ห้อรถยนต์ : MitsubishiNissanToyota

แท็กฮิต : , , , ,