เอาล่ะสิ! หัวเชื้อ น้ำมันเครื่อง (Additive Oil) เหตุผลพอไหม กับ ราคา หลักร้อยหลักพัน หลากยี่ห้อ ถ้าอยาก หล่อลื่น
เรื่องราวใหญ่โต มโน ดราม่า บนโลกโซเชียล กว่า 2 เดือน เกี่ยวกับ หัวเชื้อ น้ำมันเครื่อง หรือ Additive Oil ที่ใส่ลงไปแล้วลื่นปรื๊ดเป็น 500 เท่า Max Nano ยี่ห้อ ไทยทำ ราคา หลักร้อยหลักพัน ก็ว่ากันไป ซึ่งสาวก และผู้เห็นต่าง ต่างถกเถียงกันอย่างเมามัน ทั้งมีเหตุผลหนักแน่น อ้างอิง และไร้ซึ่งเหตุซึ่งผล จนอดไม่ได้ที่เราจะช่วยผู้อ่าน ทำความเข้าใจเกี่ยวกับ เจ้าสารเคมีที่เติมลงไปนอกเหนือจาก น้ำมันเครื่อง นั้น มันจำเป็นหรือไม่
หน้าที่ของน้ำมันหล่อลื่น
น้ำมันเครื่อง หรือเรียกน้ำมันหล่อลื่น ชื่อก็บอกชัดอยู่แล้วว่ามีหน้าที่ในการหล่อลื่นชิ้นส่วนภายในเครื่องยนต์ โดยมีสรรพคุณตามที่ผู้ผลิตแบรนด์ดัง และผู้ผลิตรถยนต์ได้กำหนดไว้ให้ใช้
- ลดแรงเสียดทานของชิ้นส่วนโลหะภายในเครื่องยนต์
- ระบายความร้อนให้แก่เครื่องยนต์
- ชะล้างสิ่งสกปรกต่างๆ ที่เกิดจากการเผาไหม้
- รักษากำลังอัด
- ป้องกันสนิมและการกัดกร่อน
หัวเชื้อน้ำมันเครื่อง
อธิบายง่ายๆ ก็คือ สารเคมีปรุงแต่ง จะมีคุณสมบัติอะไรก็ว่ากันไปตามผู้ผลิตอาทิ ชะล้าง ทำความสะอาด ปรับความหนืด ฯลฯ ซึ่งหาได้ในน้ำมันเครื่องชนิดที่มี ราคา สูงหน่อยอย่างกึ่งสังเคราะห์ และสังเคราะห์ เพราะผู้ผลิตเค้าผสมมาแล้วนั่นเอง
ในตลาดมีหลาย ยี่ห้อ ด้วยกัน ที่ค่อนข้างน่าเชื่อถือ ไม่ว่าจะเป็น Omega, Liqui Moly, Slick 50 และอีกหลายๆ แบรนด์ที่มาจากต่างประเทศ ที่พูดอย่างนี้ไม่ได้หมายความว่าของไทยห่วยนะ แต่ถ้าว่ากันแบบไม่อ้อมค้อมก็น่าจะเป็นอย่างนั้น เพราะจะมีใครที่ไหนกล้าลงทุนห้องแล็ป และยังต้องใช้ทุนมหาศาล ถ้าไม่ใช่บริษัทปิโตรเลียมใหญ่ๆ
จำเป็นต้องซื้อ หัวเชื้อ เติมมั้ย?
- ถามตัวเองก่อนว่า ใช้รถพิสดาร ท่ายากมั้ย ถ้าขับรถใช้งานปกติ จะเร่งบ้าง ผ่อนบ้าง ทางไกลบ้าง อ่านข้อต่อไป
- น้ำมันเครื่องที่ใช้อยู่นั่นแหละ OK แล้ว แต่ถ้ายังไม่มั่นใจตัวเอง อ่านข้อต่อไป
- เปลี่ยนไปใช้น้ำมันเครื่องแบบสังเคราะห์ 100% รับรองสบายใจ จ่ายแพงหน่อย แต่ไม่ต้องวุ่นวายหานู่นนี่นั่นมาเติม แถมยังมั่นใจเถอะว่า น้ำมันเครื่องที่ใช้อยู่น่ะ มันเป็นยี่ห้อที่มีมาช้านาน ได้รับการรับรองมาทุกสถาบัน
- หัวเชื้อฯ ขวดหรือกระป๋องเล็กๆ กระป๋องนึง ราคา ต่ำสุดตั้งแต่ 500 จนถึงหลักพัน คุ้มหรือเปล่ากับการที่คุณรับอาหารเสริมพวกนี้อยู่แล้ว เพราะมีอยู่ในน้ำมันเครื่อง
- อยากเติมจริงๆ ก็ไม่ว่ากัน แต่เลือกยี่ห้อที่ดูแล้วผ่านการรับรองจากสถาบันที่น่าเชื่อถือเสียหน่อย ก็มันเงินคุณนี่
- ข้อนี้สำคัญสุด ถ้าได้ฟรี แล้วเป็นยี่ห้อที่ดูน่าเชื่อถือ ไม่ใช่นั่งกรอกบรรจุภัณฑ์อยู่หลังบ้าน ก็ใช้ไปเหอะ ส่วนจะเห็นผลมั้ยเป็นอีกเรื่องนึง
